ดับลิน--4 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
EDF Group เข้าซื้อโครงการทุ่งกังหันลม Neart na Gaoithe (NnG) [1] จากบริษัท Mainstream Renewable Power ผู้พัฒนาโครงการพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ระดับโลก หลังชนะการประกวดราคาที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด สำหรับการทำธุรกรรมครั้งนี้ EDF Group ได้ดำเนินการผ่านทางบริษัท EDF Renewables ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง EDF Energy กับ EDF Energies Nouvelles
(โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/686512/Mainstream_Renewable_Power_Logo.jpg )
โครงการทุ่งกังหันลมนอกชายฝั่งแห่งนี้สามารถผลิตพลังงานหมุนเวียนได้ถึง 450 เมกะวัตต์ เทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าต่อปีของ 375,000 ครัวเรือน [2] โดยตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลเฟิร์ธออฟฟอร์ธทางตะวันออกของสกอตแลนด์ กินพื้นที่ 105 ตารางกิโลเมตร มีสัญญาการซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ระยะ 15 ปี ที่ 140 ยูโร (ปรับค่าตามดัชนีราคาภาษีที่ 114.39 ปอนด์ ซึ่งตั้งไว้ในปี 2012) และมีการทำข้อตกลงเชื่อมโยงกับโครงข่ายไฟฟ้า โครงการนี้ได้เปรียบเพราะเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่รับแรงลมได้ดีที่สุดในโลก
เม็ดเงินลงทุนรวมสำหรับโครงการนี้อยู่ที่ราว 1.8 พันล้านปอนด์ และคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินงานได้ในปี 2023 โดยโครงการนี้จะเปิดให้นักลงทุนรายอื่นๆเข้ามาลงทุนในภายหลัง เช่นเดียวกับโครงการอื่นๆของบริษัท
บรูโน เบนซาสซัน ประธานกรรมการบริหารอาวุโสของ EDF Group ผู้ดูแลรับผิดชอบด้านพลังงานหมุนเวียน และซีอีโอของ EDF Energies Nouvelles กล่าวว่า "โครงการทุ่งกังหันลมนอกชายฝั่งขนาดใหญ่แห่งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่ต้องการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมพลังงานลมนอกชายฝั่งระดับโลก ทั้งยังเป็นการตอกย้ำปณิธานของ EDF Group ในการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนในประเทศต่างๆ ที่เราได้วางรากฐานไว้อย่างแข็งแกร่งแล้ว เช่น สหราชอาณาจักร เป็นต้น โครงการนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ CAP 2030 ของเรา ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนให้ได้สองเท่าภายในปี 2030"
แอนดี้ คินเซลลา ซีอีโอของ Mainstream Renewable Power กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้นำพาร์ทเนอร์และผู้สนับสนุนวงการพลังงานสกอตแลนด์อย่าง EDF Renewables มาร่วมในโครงการที่สำคัญยิ่งของสกอตแลนด์ ความสำเร็จครั้งนี้ถือเป็นเกียรติประวัติล่าสุดของ Mainstream ในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาโครงการพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีความสำคัญและซับซ้อนที่สุดในยุโรป อเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชีย สำหรับทุ่งกังหันลมนอกชายฝั่ง Neart na Gaoithe นั้น ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบโดย Mainstream และเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ส่งมอบโครงการระดับโลกนี้"
ซีโมน รอสซี ซีอีโอของ EDF Energy กล่าวว่า "ความเคลื่อนไหวครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงการลงทุนและการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเราในสกอตแลนด์ ซึ่งเราเป็นผู้ผลิตพลังงานคาร์บอนต่ำรายใหญ่ที่สุด การดำเนินงานของเรามีส่วนในการสนับสนุนเศรษฐกิจสกอตแลนด์คิดเป็นมูลค่าถึง 389 ล้านปอนด์ต่อปี นอกจากนั้นเรายังจ้างพนักงานและผู้รับเหมากว่า 2,800 ราย พร้อมให้บริการแก่ลูกค้า 144,000 รายในสกอตแลนด์"
ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ได้รับการรับรอง สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ที่เว็บไซต์ medias.edf.com
เกี่ยวกับ EDF Group
กลุ่มบริษัท EDF Group มีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมพลังงาน ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจไฟฟ้าแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตไฟฟ้า การส่งกำลังไฟฟ้า การจ่ายไฟฟ้า การจัดหาและจำหน่ายไฟฟ้า ไปจนถึงบริการด้านพลังงาน นอกจากนั้นยังเป็นผู้นำระดับโลกด้านพลังงานคาร์บอนต่ำ โดยได้พัฒนาทางเลือกการผลิตไฟฟ้าที่หลากหลาย ทั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ พลังงานน้ำ พลังงานหมุนเวียนรูปแบบใหม่ๆ และพลังงานความร้อน บริษัทจัดหาพลังงานและให้บริการแก่ลูกค้าราว 35.1 ล้านราย โดย 26.5 ล้านรายจากทั้งหมดอยู่ในฝรั่งเศส บริษัทมียอดขายรวม 7 หมื่นล้านยูโรในปี 2017 และจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปารีส
เกี่ยวกับ EDF Renewables
EDF Renewables เป็นบริษัทพลังงานหมุนเวียนชั้นนำในสหราชอาณาจักร บริษัทได้พัฒนา สร้าง และดำเนินโครงการผลิตพลังงานหมุนเวียน โดยเน้นที่ทุ่งกังหันลมบนบกและนอกชายฝั่ง รวมถึงเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงาน นอกจากนั้นยังดูแลเรื่องการใช้งานและบำรุงรักษาทุ่งกังหันลมของบริษัท ปัจจุบันบริษัทมีทุ่งกังหันลมขนาด 786 เมกะวัตต์ (รวม 319 เมกะวัตต์ในสกอตแลนด์) และอีกกว่า 1 กิกะวัตต์ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันการเติบโตของธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในสกอตแลนด์ ซึ่งรวมถึงการส่งมอบทุ่งกังหันลม Dorenell ขนาด 177 เมกะวัตต์ในเขตมอเร่ ซึ่งเป็นโครงการทุ่งกังหันลมบนบกที่ใหญ่ที่สุด และมีสัญญาการซื้อขายส่วนต่าง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2018 ทั้งนี้ EDF Renewables เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง EDF Energy กับ EDF Energies Nouvelles และมีพนักงานมากกว่า 170 คน
เกี่ยวกับ NnG
ทุ่งกังหันลมนอกชายฝั่ง Neart na Gaoithe (NnG) ตั้งอยู่นอกชายฝั่งตะวันออกของสกอตแลนด์ และได้รับสัญญาการซื้อขายส่วนต่างจาก Low Carbon Contracts Company เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2015 หลังผ่านการแข่งขันกันอย่างดุเดือด สัญญาดังกล่าวทำให้ทุ่งกังหันลมสามารถกำหนดราคาใช้สิทธิ์ (strike price) อิงเงินเฟ้อสำหรับไฟฟ้าที่ผลิตเองเป็นเวลา 15 ปี
เกี่ยวกับ Mainstream Renewable Power
Mainstream Renewable Power เป็นผู้นำด้านการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ระดับสาธารณูปโภคในตลาดเกิดใหม่ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว บริษัทส่งมอบโรงไฟฟ้าคุณภาพสูงมากกว่า 7 กิกะวัตต์ทั่วอเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชีย สำหรับในประเทศชิลี บริษัทเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์รวม 1.3 กิกะวัตต์ มีทั้งที่เปิดดำเนินงานแล้ว กำลังดำเนินการก่อสร้าง และกำลังอยู่ในขั้นสุดท้ายของการพัฒนา ซึ่งมาจากการชนะประมูลโครงการของรัฐบาล ส่วนในแอฟริกาใต้ บริษัทได้ทำการส่งมอบโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 600 เมกะวัตต์ เพื่อดำเนินการเชิงพาณิชย์ และกำลังจะเริ่มก่อสร้างทุ่งกังหันลมขนาด 250 เมกะวัตต์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า สำหรับในเอเชีย บริษัทกำลังพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ทั้งในเวียดนามและฟิลิปปินส์
จนถึงปัจจุบัน บริษัทสามารถระดมทุนได้มากกว่า 1.3 พันล้านยูโร และมีพนักงาน 160 คนใน 4 ทวีปทั่วโลก บริษัทได้พัฒนาโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดหลายโครงการในสหราชอาณาจักร เช่น โครงการ Neart na Gaoithe และโครงการ Hornsea
อ้างอิง
[1] Neart na Gaoithe เป็นภาษาของคนที่ราบสูงสกอตแลนด์ แปลว่า "พลังแห่งลม"
[2] อิงจากอัตราการใช้ไฟฟ้าโดยเฉลี่ยต่อครัวเรือนซึ่งอยู่ที่ 3,889 กิโลวัตต์ชั่วโมงในสหราชอาณาจักร (ข้อมูลเผยแพร่ในเดือนกรกฎาคม 2017) และมีค่าโหลดแฟกเตอร์ของพลังงานลมนอกชายฝั่งเฉลี่ยที่ 37.2%
ที่มา: Mainstream Renewable Power