การวิจัยเกี่ยวกับกรดไขมันโอเมกา DHA และ AA ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในการประชุมโภชนาการเด็กแห่งเอเชีย

ข่าวต่างประเทศ Monday October 22, 2007 08:50 —Asianet Press Release

ปักกิ่ง--22 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์ - เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
ในการประชุมโภชนาการเด็กแห่งเอเชียครั้งที่ 3 ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในสัปดาห์นี้ มีการเปิดเผยผลการวิจัยซึ่งเน้นย้ำว่าเด็กต้องบริโภคกรดไขมันตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึงวัยทารกและช่วงปฐมวัย โดยกรดไขมันที่ดีรับความสนใจมากที่สุดคือกรดไขมันโอเมกา 3 หรือ DHA ซึ่งเป็นโครงสร้างไขมันสำคัญในสมองและจอประสาทตา และ กรดไขมันโอเมกา 6 หรือ AA ซึ่งมีอยู่ในสมองเป็นจำนวนมากและจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและการสร้างภูมิคุ้มกัน
ดร. เบิร์ทโฮลด์ โคเลตซ์โก จาก โรงพยาบาลเด็ก และ ดร. วอน ฮาวเนอร์ แห่งมหาวิทยาลัยมิวนิค จะนำเสนอผลการวิจัยใหม่ในหัวข้อโภชนาการไขมันปริกำเนิด (การบริโภคไขมันในเด็กช่วงอายุ 5 เดือนก่อนคลอด ถึง 1 เดือนหลังคลอด) ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สตรีมีครรภ์หรือสตรีที่กำลังให้นมบุตรควรบริโภคกรดไขมัน DHA อย่างน้อย 200 มิลลิกรัมทุกวัน คณะผู้เชี่ยวชาญค้นพบว่าสตรีที่บริโภคไขมัน DHA มากกว่าจะมีสุขภาพครรภ์ที่ดีกว่า อีกทั้งช่วยเพิ่มน้ำหนักเด็กที่คลอดและลดอัตราการคลอดก่อนกำหนด นอกจากนั้นการบริโภค DHA ยังมีส่วนช่วยพัฒนาเด็กในหลายๆ ด้าน เช่น การพัฒนาสมองและสายตา เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน ดร. อเล็กซานเดอร์ ลาพิลลอนเน จาก โรงพยาบาล เซนต์ วินเซนต์ เดอ พอล และ มหาวิทยาลัยปารีส เดส์การ์ตส์ จะนำเสนอผลการวิจัยซึ่งค้นพบความสัมพันธ์ระหว่างการมองเห็นของทารกกับการบริโภคกรดไขมัน DHA/AA ผลการวิจัยดังกล่าวเป็นหลักฐานสนับสนุนว่าสตรีที่ให้นมบุตรควรบริโภคกรดไขมัน DHA และควรผสม DHA/AA ลงในนมดัดแปลงสำหรับเด็กทารก โดยควรมี DHA อย่างน้อย 0.2% ของกรดไขมันทั้งหมดในนมดัดแปลงสำหรับเด็ก และควรมี AA ปริมาณเท่ากับหรือมากกว่า DHA
"คนทั่วไปไม่ค่อยตระหนักว่ากรดไขมันโอเมกามีความสำคัญสำหรับพัฒนาการของทารก" ศาสตราจารย์ ลาพิลลอนเน กล่าว "แต่จากการวิจัยที่มีการนำเสนอในที่ประชุมแสดงให้เห็นแล้วว่ามันมีความสำคัญแค่ไหน ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพควรแนะนำให้สตรีบริโภค DHA และ AA ในปริมาณที่เหมาะสมระหว่างการตั้งครรภ์และการให้นมบุตร นอกจากนั้นต้องทำให้แม่เด็กตระหนักว่าทั้งแม่และลูกจะได้รับประโยชน์จากกรดไขมันดังกล่าว"
ดร. อลัน ไรอัน จาก มาร์เท็ค ไบโอไซน์ส (Martek Biosciences) จะนำเสนอผลของการบริโภค DHA ในเด็กอายุ 4 ขวบ ที่มีสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี ซึ่งแสดงให้เห็นว่ายิ่งมีระดับ DHA ในเลือดมากเท่าใด เด็กก็จะทำแบบทดสอบด้านการรับรู้ได้ดีเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าควรมีการผสม DHA ในอาหารสำหรับเด็ก
DHA โอเมกา 3 สามารถพบได้ในไขมันปลา แต่ผู้เชี่ยวชาญมากมายแนะนำว่าสตรีและเด็กควรบริโภคไขมันปลาในปริมาณจำกัด และยังสามารถพบได้ในอาหารอีกหลายประเภท เช่น อาหารและอาหารเสริมที่ทำจากสาหร่าย DHA นอกจากนั้นนมดัดแปลงสำหรับทารกอีกหลายยี่ห้อก็มีการผสม DHA ลงในด้วย ส่วน AA สามารถพบได้ทั่วไปในอาหารสำหรับผู้ใหญ่และในนมดัดแปลงสำหรับทารกเช่นกัน
ผลิตภัณฑ์ life'sDHA (TM) ของมาร์เท็ค ซึ่งได้มาจากสาหร่ายขนาดจิ๋ว เป็นกรดไขมันที่ได้จากพืชและปราศจากการปนเปื้อนจากท้องทะเล ทั้งนี้ บริษัท มาร์เท็ค ไบโอไซน์ส คอร์ปอเรชั่น (Nasdaq: MATK) เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ DHA โอเมกา 3 ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้คนทุกเพศทุกวัย โดยผลิตภัณฑ์ life'sDHA (TM) ใช้สำหรับผสมในอาหาร เครื่องดื่ม นมผงดัดแปลงสำหรับทารก และอาหารเสริม ส่วนผลิตภัณฑ์ life'sARA (TM) ใช้สำหรับผสมในนมผงดัดแปลงสำหรับทารก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.martek.com
ติดต่อ:
แคสซี่ ฟรานซ์-เคลลี่
โทร: +1-443-542-2116
อีเมล์: media@martek.com
แหล่งข่าว: มาร์เท็ค ไบโอไซน์ส คอร์ปอเรชั่น
ติดต่อ: แคสซี่ ฟรานซ์-เคลลี่, มาร์เท็ค ไบโอไซน์ส คอร์ปอเรชั่น
โทร: +1-443-542-2116
อีเมล์: media@martek.com
เว็บไซต์: http://www.martekbio.com
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ