หางโจว, จีน--17 พ.ค.--ซินหัว-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
เนื่องในวาระครบรอบ 40 ปีที่จีนใช้นโยบายปฏิรูปประเทศและเปิดกว้าง มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีเยี่ยมของการปฏิรูป ได้จัดการประชุมว่าด้วยการเปิดกว้าง พร้อมให้คำมั่นว่าจะเร่งดึงดูดทรัพยากรคุณภาพสูงเข้าสู่พื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุน เทคโนโลยี หรือคนเก่งจากทั่วโลก
รับชมวิดีโอและภาพความละเอียดสูงได้ที่ http://news.medianet.com.au/xinhua/hangzhou-leads-new-round-competition
มณฑลเจ้อเจียงต้องการเป็นผู้นำในการปฏิรูปรวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมของจีนในรอบใหม่ ซึ่งการดึงดูดคนเก่งถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ หลายเมืองใหญ่ในจีน ซึ่งรวมถึงหางโจว เมืองหลวงของมณฑลเจ้อเจียง ได้แข่งขันกันแย่งทรัพยากรบุคคล โดยนอกจากจะออกนโยบายเพื่อดึงดูดคนเก่งแล้ว ยังแข่งขันกันพัฒนาสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับคนเก่งด้วย และข้อมูลสถิติล่าสุดระบุว่า เมืองหางโจวกำลังเป็นผู้นำการแข่งขันในขณะนี้
ผลการประเมินของสำนักงานกิจการผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติของจีน ระบุว่า เมืองหางโจวติดอันดับ "1 ใน 10 เมืองที่ดึงดูดใจที่สุดในสายตาคนเก่งชาวต่างชาติ" ติดต่อกันถึง 8 ปี โดยในปี 2560 คนเก่งทั้งจากในประเทศและต่างประเทศเดินทางเข้ามาทำงานในเมืองหางโจวมากที่สุดเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆในจีน
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการก่อตั้งมหาวิทยาลัยเวสต์เลคในเขตซีหูของเมืองหางโจว โดยเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในจีนที่เน้นทำวิจัยรูปแบบใหม่ และทางมหาวิทยาลัยได้สรรหานักวิจัยชั้นนำจากทั่วโลก โดยสามารถดึงดูดนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังได้มากมาย ซึ่งรวมถึงบรรดาผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมตัวของคนเก่งในเมืองหางโจวด้วย
ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 เมื่อปีที่แล้ว ได้มีการนำเสนอยุทธศาสตร์ "การรวบรวมคนเก่งจากทั่วโลก" เพื่อเร่งสร้างระบบนิเวศคนเก่งที่มีความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก ด้วยความที่หางโจวมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการพัฒนาอุตสาหกรรม มีแหล่งเงินทุนมากมาย และมีบริการจากภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ เมืองนี้จึงมีสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนเก่ง โดยพร้อมก้าวขึ้นเป็นเมืองศูนย์รวมคนเก่งของโลกและเมืองแห่งนวัตกรรมของจีน
หางโจวไม่ใช่แค่ที่ตั้งของบริษัทอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่อย่าง "อาลีบาบา" เท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมของชุมชนธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในจีนอย่าง "กลุ่มผู้ค้าเจ้อเจียง" อีกด้วย นอกจากนั้นยังมีบริษัทใหม่ที่มีศักยภาพสูงเกิดขึ้นทุกวัน จึงไม่น่าแปลกใจที่หางโจวจะเป็นเมืองที่มีพลวัตมากที่สุดเมืองหนึ่งในประเทศจีน
ขณะเดียวกัน หางโจวกำลังอยู่ในช่วง "ฟักตัว" ของการพัฒนาเมืองสู่ความเป็นสากล โดยเทศบาลเมืองหางโจวได้ออกนโยบายมากมายที่เอื้อประโยชน์ให้กับคนเก่ง เพื่อมุ่งจัดสรรทรัพยากรบุคคลจากทั่วโลก และสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อดึงดูดคนเก่งจากต่างประเทศให้เข้ามาทำงานมากขึ้น
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เมืองหางโจวได้ออกนโยบายใหม่ซึ่งประกอบด้วย "10 ข้อกำหนดในการดึงดูดคนเก่งจากทั่วโลก" เพื่อสรรหาคนเก่งจากต่างประเทศและส่งเสริมธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยนักลงทุนชาวต่างชาติอาจได้รับเงินสนับสนุนสูงถึง 100 ล้านหยวน หากเลือกจัดตั้งธุรกิจในเมืองหางโจว
คุณศรีวาสตาวา ซึ่งเป็นชาวอินเดีย-อเมริกัน ได้เริ่มทำการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์ผ่าตัดในเมืองหางโจวเมื่อปีที่แล้ว และตั้งบริษัทสำนักงานใหญ่ขึ้นที่นี่ บริษัทของเขาจึงได้รับเงินสนับสนุนจากเทศบาลเมืองหางโจว ซึ่งรวมถึงการลดค่าเช่าคิดเป็นมูลค่า 1.5 ล้านหยวน ทั้งยังได้รับเงินลงทุนจากบรรดานักลงทุนชาวจีนมากถึง 13.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ข้อมูลสถิติระบุว่า มีชาวต่างชาติเข้ามาจัดตั้งธุรกิจในเมืองหางโจวมากกว่า 15,000 ราย และมีบริษัทเกือบ 5,000 แห่งในเมืองที่จดทะเบียนตามกฎหมายโดยชาวต่างชาติ
เมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆของจีน นโยบายดึงดูดคนเก่งของเมืองหางโจวครอบคลุมหลากหลายแง่มุม ไม่ใช่แค่การดึงดูดและบ่มเพาะคนเก่ง การสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพ และการสนับสนุนการอยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงระบบให้บริการคนเก่ง เพื่อส่งเสริมการใช้นโยบายอย่างเต็มประสิทธิภาพ
คุณหลิน เหาเชิง ชาวสิงค์โปร์ที่เข้ามาอยู่เมืองหางโจวในปี 2559 เชื่อว่าประเด็นสำคัญๆ อย่างเรื่องที่อยู่อาศัย สุขภาพ และโรงเรียน ล้วนเป็นปัจจัยที่คนเก่งนำมาตัดสินใจว่าจะอยู่ในเมืองนั้นๆหรือไม่ และนโยบายส่งเสริมของเมืองหางโจวก็สามารถทำให้บรรดาคนเก่งตัดสินใจอยู่ในเมืองต่อไป
นโยบายดึงดูดคนเก่งของเมืองหางโจวก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนผ่านการใช้แผนปฏิบัติการที่มีชื่อว่า "สวรรค์แห่งใหม่ของนวัตกรรมและผู้ประกอบการ" ตัวอย่างเช่น คุณฟ่าน หยวน บัณฑิตจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียสเตท ได้ลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารของบริษัทรักษาความปลอดภัยข้อมูลอันดับต้นๆในซิลิคอนแวลลีย์ และมาสร้างธุรกิจของตัวเองในชื่อ DBAPPSecurity ในเมืองหางโจว เขาและทีมงานได้ช่วยยกระดับการวิจัยด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของจีนสู่แถวหน้าของโลก
เพื่อดึงดูดคนเก่งในอุตสาหกรรมไฮเทคและสตาร์ทอัพ เมืองหางโจวได้สร้างเขตธุรกิจไฮเทคหลายแห่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่างๆกับบรรดาคนเก่ง เช่น การหาเงินทุน และการบ่มเพาะธุรกิจในระยะแรกของการลงทุน เป็นต้น
คุณสวี่ หลี่ยี่ นายกเทศมนตรีเมืองหางโจว กล่าวว่า เมืองหางโจวจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้นและเอื้อต่อคนเก่ง พร้อมดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาอยู่อาศัยและทำงานในเมืองหางโจวมากขึ้นในอนาคต
ที่มา: เทศบาลเมืองหางโจว
AsiaNet 73575