อินไซเทค ลิมิเต็ด ภูมิใจได้รับเลือกจากที่ประชุม World Economic Forum 2551 ให้เป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยี

ข่าวต่างประเทศ Tuesday December 4, 2007 08:56 —Asianet Press Release

ไฮฟา, อิสราเอล--4 ธ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
บริษัท อินไซเทค ลิมิเต็ด (InSightec Ltd.) ประกาศว่า บริษัทได้รับเลือกจากที่ประชุม World Economic Forum ให้เป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านเทคโนโลยี (Technology Pioneers) ประจำปีพ.ศ. 2551 โดยบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ได้แก่ กลุ่มบริษัทที่พัฒนาและปรับใช้เทคโนโลยีที่มีการแปรรูปในระดับสูงและจัดเป็นนวัตกรรมใหม่ในสาขาพลังงาน เทคโนโลยีชีวภาพและสาธารณสุข รวมทั้งเทคโนโลยีสารสนเทศ
ที่ประชุม World Economic Forum ได้แต่งตั้งคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วย คณะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชั้นแนวหน้า เพื่อคัดสรรผู้เข้ารอบสุดท้ายจากจำนวนบริษัทที่ได้รับการเสนอชื่อทั้งหมด 273 แห่ง
วิสัยทัศน์ของบริษัท อินไซเทค คือ การพัฒนาห้องผ่าตัดผู้ป่วยนอกที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยและไม่ต้องผ่าตัดโดยสอดอุปกรณ์เข้าไปในร่างกาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการเจ็บปวด อัตราการเจ็บป่วยและระยะเวลาพักฟื้นให้น้อยที่สุด ระบบ ExAblate (R) ของบริษัทเป็นระบบการผ่าตัดที่ผู้ผ่าตัดไม่ต้องสอดอุปกรณ์เข้าไปในร่างกายระบบแรกเพียงระบบเดียวของโลกที่มีเครื่องตรวจ focused ultrasound และเครื่องตรวจร่างกายโดยใช้สนามแม่เหล็กความเข้มสูงและคลื่นความถี่ในย่านความถี่วิทยุเพื่อช่วยในการสร้างภาพเหมือนจริงของอวัยวะต่างๆ ของร่างกายด้วยคอมพิวเตอร์ไว้ด้วยกัน (magnetic resonance imaging:MIR)
ดร. โคบี วอร์ทแมน ประธานและซีอีโอของบริษัท อินไซเทค กล่าวว่า "เราเชื่อว่าเทคโนโลยีที่ไม่ต้องสอดใส่อุปกรณ์มีแนวโน้มที่จะเป็นหนึ่งในรูปแบบการผ่าตัดที่มีความสำคัญภายใน 20 ปีข้างหน้า เนื่องจากระบบนี้จะช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตผู้ป่วยหลายล้านคนโดยไม่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน ใช้เวลาในการฟื้นตัวนาน ได้รับผลข้างเคียง ปัจจัยเสี่ยงที่ซับซ้อน และค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากการผ่าตัดที่ต้องสอดใส่อุปกรณ์เข้าไปในร่างกาย เรามีความยินดีที่ World Economic Forum เล็งเห็นถึงศักยภาพของระบบ ExAblate ด้วยการมอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้"
นอกจากนี้ ระบบ ExAblate ยังได้รับเครื่องหมายรับรอง European CE Marking เมื่อปีพ.ศ. 2545 และการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) ในปีพ.ศ. 2547 สำหรับการรักษาเนื้องอกในมดลูก (uterine fibroids) ซึ่งเป็นอาการที่อยู่ในขั้นลุกลามและมีผลกระทบต่อหญิงวัยเจริญพันธุ์สูงถึง 70% และนำไปสู่อาการเจ็บป่วยร้ายแรงต่างๆ
กระบวนการ ExAblate ใช้เวลา 3-4 ชั่วโมง และผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธีนี้สามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน รวมทั้งยังสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ภายใน 1-2 วันเท่านั้น อย่างไรก็ดี การตัดมดลูกออก (hysterectomy) ซึ่งเป็นวิธีการรักษาโดยปกติและเป็นการผ่าตัดใหญ่นั้น ผู้ป่วยจำเป็นต้องเข้ารับการพักฟื้นในโรงพยาบาล 2-5 วัน และใช้เวลาฟื้นตัว 6-8 สัปดาห์ และการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ อย่างไรก็ดี ผู้หญิงหลายรายเลือกที่จะทุกข์ทรมานจากอาการรุนแรงต่างๆที่มีสาเหตุจากเนื้องอกในมดลูก มากกว่าที่จะเข้ารับการผ่าตัดเอามดลูกออก หรือกระบวนการอื่นๆ
การตรวจหาเนื้องอกในมดลูกทางคลินิกนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงเมื่อพิจารณาในแง่ของค่าใช้จ่ายในการรักษา การพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และการลางาน นับตั้งแต่ที่ระบบ ExAblate เป็นสามารถนำมาใช้กับผู้ป่วยได้โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาตัวต่อในโรงพยาบาล และช่วยให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตปกติได้ภายใน 1-2 วัน รวมทั้งเสนอประโยชน์ที่ประหยัดค่าใช้จ่ายและสะดวกสบายแก่ผู้ป่วยและลูกจ้าง เมื่อเทียบกับรูปแบบการรักษาอื่นๆ
อินไซเทค ได้เปิดตัวโครงการวิจัยที่ครอบคลุมเพื่อดำเนินการทดลองทางคลินิค ซึ่งใช้เทคโนโลยีในแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับมะเร็งหลากหลายชนิด รวมทั้ง ทรวงอก กระดูก สมอง และรังไข่ ขณะที่ดำเนินการทดลองอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับเนื้องอกในมดลูก
การที่อินไซเทค ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีนั้น อินไซเทคจะต้องมีส่วนร่วมในการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต และยังมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบระยะยาวต่อธุรกิจและสังคม นอกเหนือจากนี้ บริษัทยังต้องแสดงถึงวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำ และส่งสัญญาณต่างๆถึงการเป็นผู้นำตลาดในระยะยาว ตลอดถึงการรับรองเทคโนโลยีของบริษัท
"ในปีนี้ World Economic Forum ได้รับรายชื่อจากบริษัทต่างๆทั่วโลกที่ก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมีกลุ่มธุรกิจที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในการดำเนินธุรกิจและสร้างสังคมด้วยการร่วมมือที่ดีระหว่างกัน นอกจากนี้ เรายังรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เปิดรับกลุ่มบริษัทผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีในปี 2551 เข้าสู่ชุมชนของ World Economic Forum และเราหวังว่าการให้ความร่วมมือกันครั้งนี้จะเป็นการปูทางไปสู่ความก้าวหน้าในอนาคต" ปีเตอร์ ทอร์รีล กรรมการบริหารของ World Economic Forum กล่าว
บรรดาบริษัทที่เป็นผู้นำและบุกเบิกด้านเทคโนโลยีประจำปี 2551 ทั้ง 23 แห่ง ล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทที่ดำเนินงานในสหรัฐ ขณะที่อิสราเอล และสหราชอาณาจักรส่งรายชื่อเข้ามาประเทศละ 3 แห่ง ตามด้วยสวีเดน และสวิตเซอร์แลนด์ประเทศละ 2 แห่ง ขณะที่แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย ส่งรายชื่อบริษัทเข้ามาประเทศละ 1 แห่ง โดยบริษัทผู้บุกเบิกด้านเทคโนโลยีต่างได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลใน 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ ประเภทพลังงาน/สิ่งแวดล้อม ประเภทเทคโนโลยีชีวภาพ/สุขภาพ และประเภทเทคโนโลยีสารสนเทศ
ทั้งนี้ รายชื่อของบริษัทผู้นำและบุกเบิกด้านเทคโนโลยีทั้งหมด และรายละเอียดการให้สัมภาษณ์ของซีอีโอจากบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกสามารถดูได้ที่ http://www.weforum.org/techpioneers/2008.
เกี่ยวกับ World Economic Forum
World Economic Forum เป็นองค์กรอิสระระดับนานาชาติ ที่มุ่งมั่นพัฒนาสังคมโลกด้วยการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้นำโลกเพื่อกำหนดแนวทางด้านการพัฒนาตั้งแต่ระดับโลก ระดับภูมิภาค ลงมาจนถึงระดับกลุ่มอุตสาหกรรม โดย World Economic Forum ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2514 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และนอกจากนี้ World Economic Forum ยังเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร และเป็นอิสระจากการเมือง กลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และไม่มีส่วนเกี่ยงข้องกับผลประโยชน์ของประเทศ ( www.weforum.org )
เกี่ยวกับ ExAblate(R)2000
ExAblate(R) เป็นระบบแรกที่ใช้เทคโนโลยี MRgFUS ซึ่งมีการผสมผสานเทคโนโลยี MRI เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อตรวจดูเนื้อเยื่อในร่างกาย วางแผนการรักษา และติดตามผลการรักษาแบบเรียลไทม์ รวมถึงใช้อัลตราซาวด์ความร้อนสูงเพื่อละลายเนื้องอกในร่างกายโดยไม่ต้องทำการผ่าตัด นอกจากนี้ การวัดอุณหภูมิด้วยระบบ MR ยังช่วยให้แพทย์สามารถควบคุมและปรับเปลี่ยนการรักษาแบบเรียลไทม์ได้ ซึ่งทำให้การรักษาเนื้องอกมีความแม่นยำโดยไม่สร้างความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อรอบข้าง ด้วยศักยภาพและนวัตกรรมอันยอดเยี่ยมในการรักษามนุษย์ของ ExAblate ทำให้ระบบเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังได้รับรางวัลต่างๆมากมาย อาทิ 2004 European Union's Information Society Technologies grand prize, The Wall Street Journal's 2004 Technology Innovation Awards, Advanced Imaging's 2005 Solutions of the Year และ Red Herring 100 Europe 2007 Award
เกี่ยวกับ อินไซเทค
อินไซเทค เป็นบริษัทเอกชนภายใต้การลงทุนร่วมกันของบริษัท เอลบิท อิมเมจจิง (EMI),เจนเนอรัล อิเล็คทริก, เมดิเทค แอดไวเซอร์ส แอลแอลซี และกลุ่มผู้บริหารของบริษัท บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2542 เพื่อทำการพัฒนาระบบ MR โดยเฉพาะการอัลตราซาวด์ และปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในห้องผ่าตัดที่ทันสมัยในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ใกล้กับเมืองไฮฟา ประเทศอิสราเอล มีพนักงาน 150 คน และทุ่มเงินลงทุนกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อใช้ในการวิจัย พัฒนา และทดลองทางคลินิก ส่วนสำนักงานใหญ่ของบริษัทในสหรัฐอเมริกาตั้งอยู่ที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.insightec.com
ติดต่อ:
อินไซเทค ลิมิเต็ด
เว็บไซต์: http://www.insightec.com
โทร: +972-4-813-1313
อีเมล์: info@insightec.com
สำหรับสื่อ ติดต่อ:
เฟิร์น ลาซาร์
บริษัท ลาซาร์ พาร์ทเนอร์ส ลิมิเต็ด
โทร: (212) 867-1762
อีเมล์: flazar@lazarpartners.com
แหล่งข่าว: อินไซเทค ลิมิเต็ด
ติดต่อ:
อินไซเทค ลิมิเต็ด
เว็บไซต์: http://www.insightec.com
โทร: +972-4-813-1313
อีเมล์: info@insightec.com
สำหรับสื่อ ติดต่อ:
เฟิร์น ลาซาร์
บริษัท ลาซาร์ พาร์ทเนอร์ส ลิมิเต็ด
โทร: (212) 867-1762
อีเมล์: flazar@lazarpartners.com
เว็บไซต์:http://www.insightec.com
http://www.weforum.org
http://www.weforum.org/techpioneers/2008

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ