ฟาร์นโบโรห์, อังกฤษ--16 ก.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
สตาร์ลักซ์ แอร์ไลน์ส (STARLUX Airlines) สายการบินน้องใหม่ของไต้หวัน ลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับบริษัทแอร์บัส (Airbus) ในวันนี้ ณ มหกรรม Farnborough International Airshow 2018 เพื่อซื้อเครื่องบินตระกูล A350XWB จำนวน 17 ลำจากแอร์บัส ประกอบด้วยเครื่องบิน A350-1000 จำนวน 12 ลำ และเครื่องบิน A350-900 จำนวน 5 ลำ ซึ่งมีกำหนดส่งมอบให้กับสตาร์ลักซ์ในช่วงปลายปี 2564 ทั้งนี้ K.W. Chang ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการของสตาร์ลักซ์ แอร์ไลน์ส, Glenn Chai กรรมการผู้จัดการของสตาร์ลักซ์ และ Eric Schulz ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของแอร์บัส เป็นผู้ประกาศข่าวดีในครั้งนี้
K.W. Chang กล่าวว่า "ในฐานะนักบิน ผมเคยทดสอบบินด้วยเครื่อง A350-1000 มาแล้ว และทึ่งมากกับประสิทธิภาพอันเยี่ยมยอด เครื่องบินตระกูล A350XWB แตกต่างจากเครื่องบินอื่นๆในตลาดโดยสิ้นเชิง อีกทั้งยังเหมาะกับภูมิประเทศของไต้หวันเป็นอย่างมาก" ทั้งนี้ สตาร์ลักซ์จะนำเครื่องบินตระกูลนี้มารวมอยู่ในฝูงบินที่เป็นเครื่องแอร์บัสทั้งหมด ร่วมกับเครื่องบินรุ่น A321neo จำนวน 10 ลำที่เช่ามาเพื่อให้บริการ และสตาร์ลักซ์จะเป็นสายการบินแห่งแรกของไต้หวันที่ให้บริการด้วยเครื่อง A350-1000
เครื่องบินตระกูล A350XWB ทั้ง 17 ลำในฝูงบินของสตาร์ลักซ์ ประกอบด้วยเครื่องบินรุ่น A350-900 ที่ใช้เครื่องยนต์ Rolls-Royce Trent XWB84 จำนวน 5 ลำ ซึ่งจะเริ่มส่งมอบในช่วงปลายปี 2564 และเครื่องบินรุ่น A350-1000 ที่ใช้เครื่องยนต์ Rolls-Royce Trent XWB97 จำนวน 12 ลำ ซึ่งจะเข้ามาประจำการในฝูงบินของสตาร์ลักซ์ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2565 โดยทั้งหมดจะนำมาใช้ในเส้นทางบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกของสตาร์ลักซ์
เครื่องบินตระกูล A350XWB ได้รับการออกแบบให้ทันสมัยและเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ โดยลำตัวเครื่องมีการใช้วัสดุที่ทันสมัยมากกว่า 70% ผสานกับวัสดุผสมระหว่างคาร์บอน ไทเทเนียม และอลูมิเนียมอัลลอย 53% ส่งผลให้เครื่องมีน้ำหนักเบาและคุ้มราคา ฟีเจอร์ที่ทันสมัยมากมายช่วยให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง 25% อีกทั้งยังช่วยลดการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย
นอกเหนือจากการสั่งซื้อเครื่องบินตระกูล A350XWB แล้ว สตาร์ลักซ์ยังได้ประกาศลงนามข้อตกลงกับ ซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล (CFM International) เพื่อซื้อเครื่องยนต์ LEAP-1A สำหรับนำมาใช้เป็นเครื่องยนต์สำรองของเครื่องบิน A321neo จำนวน 10 ลำ พร้อมกับลงนามในข้อตกลง Rate per Flight Hour (RPFH) ระยะเวลา 12 ปี ร่วมกับซีเอฟเอ็ม เซอร์วิสเซส (CFM Services) ซึ่งครอบคลุมเครื่องยนต์ LEAP-1A ทั้งหมดที่ใช้กับเครื่องบิน A321neo ทั้ง 10 ลำ
สตาร์ลักซ์มุ่งมั่นตั้งใจที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในสายการบินที่ดีที่สุดในโลก จึงจำเป็นต้องมีฝูงบินและเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดในอุตสาหกรรม "เรารู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแถวหน้าในอุตสาหกรรมอย่างแอร์บัสและซีเอฟเอ็มในการเดินหน้าไปสู่เป้าหมายของเรา การร่วมมือกับพันธมิตรเหล่านี้ทำให้ผมมั่นใจว่าสตาร์ลักซ์จะสามารถให้บริการได้ในช่วงต้นปี 2563 ตามที่กำหนดไว้ และจะก้าวขึ้นมาโดดเด่นในอุตสาหกรรมสายการบินอย่างแน่นอน" คุณ K.W. Chang กล่าว
สตาร์ลักซ์ได้ยืนยันรายชื่อเครื่องบินที่จะอยู่ในฝูงบินแรกของทางสายการบิน โดยจะเริ่มรับมอบเครื่องบิน A321neo จำนวน 10 ลำในเดือนตุลาคม 2562 และเครื่องบินตระกูล A350XWB จำนวน 17 ลำในช่วงปลายปี 2564 โดยคาดว่าฝูงบินของสตาร์ลักซ์จะมีเครื่องบินสูงสุด 27 ลำภายในสิ้นปี 2567 เพื่อรองรับการให้บริการไปยังกว่า 20 จุดหมายปลายทางในเอเชียและอเมริกาเหนือ ทั้งนี้ ทางสายการบินกำลังสรรหานักบินอยู่ในขณะนี้ และจะเริ่มสรรหาพนักงานภาคพื้นสายการบินและลูกเรือสายการบินในช่วงต้นปีหน้า
คลิปวิดีโอเครื่องบินรุ่น A350-1000 ของสตาร์ลักซ์: https://youtu.be/QML0oqkRhAI
เกี่ยวกับสตาร์ลักซ์ แอร์ไลน์ส
สตาร์ลักซ์ แอร์ไลน์ส ก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2561 โดยประธาน K.W. Chang กัปตันเครื่องโบอิ้ง 777 ที่ได้รับการรับรอง และอดีตประธานสายการบินอีวีเอแอร์ (EVA Air) สตาร์ลักซ์ตั้งเป้าว่าจะให้บริการเที่ยวบินจากไทเปไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลกตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นไป โดยเบื้องต้น เครื่องบิน A321neo จะให้บริการจากไทเปไปยังจุดหมายปลายทางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ จากนั้นฝูงบินของสตาร์ลักซ์จะมีเครื่องบินสูงสุด 27 ลำภายในสิ้นปี 2567 เพื่อรองรับการให้บริการไปยังกว่า 20 จุดหมายปลายทางในเอเชียและอเมริกาเหนือ สตาร์ลักซ์จะค่อยๆขยายเครือข่ายการบินเพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุดให้แก่ผู้โดยสารทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.starlux-airlines.com/
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20180712/2185563-1