นิโด ประกาศผลประเมินโครงการ "กาล็อก" เป็นบวก

ข่าวต่างประเทศ Wednesday December 19, 2007 14:53 —Asianet Press Release

เพิร์ธ--19 ธ.ค.--มีเดียเน็ท อินเตอร์เนชั่นแนล - เอเชียเน็ท / อินโฟเควสท์
นิโด ปิโตรเลียม (Nido Petroleum) มีความยินดีที่จะประกาศว่า การประเมินผลโครงการ "กาล็อก" (Galoc) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำมันนอกชายฝั่งครั้งแรกของฟิลิปปินส์ในรอบเกือบ 7 ปี ได้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว โดยผลลัพธ์ออกมาดีมาก
ข้อมูลจากการประเมินผลดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์คุณสมบัติทางฟิสิกส์ (Petrophysical analysis) ร่วมกับข้อมูลจากแหล่งน้ำมันและข้อมูลความดันของหินกักเก็บปิโตรเลียม ซึ่งเป็นข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการประเมินโครงการกาล็อก3 ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของแหล่งน้ำมัน
ในขณะที่โครงการยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ผลการดำเนินงานจนถึงปัจจุบันก็เป็นเครื่องยืนยันผลการศึกษาก่อนการพัฒนาโครงการได้เป็นอย่างดี
โจแอน วิลเลียมส์ รองกรรมการผู้จัดการบริษัท แสดงความรู้สึกยินดีกับผลการประเมินดังกล่าว โดยกล่าวว่า ผลที่ออกมาเป็นเครื่องยืนยันวิสัยทัศน์ของเราที่มีต่อการพัฒนาโครงการกาล็อก
"การเจาะน้ำมันนำร่อง (Pilot hole) ได้บรรลุวัตถุประสงค์และการวิเคราะห์ ตามการรับรองของบริษัทกาฟนีย์ ไคลน์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ (Gaffney Cline and Associates - GCA)" วิลเลี่ยมส์ กล่าว
"ทีมขุดเจาะของเรารู้สึกพอใจที่มีการรับรองผลการศึกษาก่อนการพัฒนาโครงการ และปัจจุบัน ทาง GCA กำลังพิจารณาข้อมูลใหม่อีกครั้งก่อนที่จะอนุญาตให้มีการดำเนินการต่อไป" วิลเลี่ยมส์กล่าว
ทั้งนี้ แกนกลางของหินกักเก็บปิโตรเลียม (Reservoir rock) ซึ่งมีขนาดราว 38 เมตร ถูกเจาะด้วยสว่านซึ่งห่อหุ้มรอบหินกักเก็บปิโตรเลียมรูปทรงกระบอก และนำขึ้นมาบนพื้นผิวระหว่างกระบวนการขุดเจาะ
รายงานจากเจ้าหน้าที่ของนิโดก่อนหน้านี้ระบุว่า แกนกลางของหินกักเก็บปิโตรเลียมมีน้ำมันอยู่จริง และพบสัดส่วนหินที่มีน้ำมันกักเก็บอยู่มากกว่าหินที่ไม่มีน้ำมัน เกินกว่าการคาดการณ์ในเบื้องต้น
จากการศึกษาก่อนการพัฒนาโครงการระบุว่า สัดส่วนของรูพรุนบนหินกักเก็บปิโตรเลียมอยู่ที่ราว 13-19% ซึ่งเป็นอีกหลักฐานหนึ่งซึ่งพิสูจน์ว่าหินกักเก็บปิโตรเลียมสามารถกักเก็บน้ำมันได้ในปริมาณที่คาดการณ์ไว้
Wireline logs เป็นสิ่งที่นำมาใช้พิสูจน์ชนิดและคุณลักษณะของหิน ซึ่งเป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการผลิตน้ำมันและแรงดันของหิน
ผลจากการวิเคราะห์คุณสมบัติทางฟิสิกส์ของแหล่งน้ำมันออกมาดีมาก โดยชี้ชัดว่ามีช่องน้ำมันอยู่ในบ่อน้ำมันนำร่องตามที่มีการคาดการณ์ไว้ในการศึกษาก่อนการพัฒนาโครงการ รวมถึงมีปริมาณน้ำมันตามที่คาดการณ์ไว้ด้วย
อีกทั้งตัวอย่างของเหลวจากแหล่งน้ำมันก็ยืนยันว่ามีน้ำมันชนิดที่ต้องการอยู่ในหินกักเก็บปิโตรเลียมจริง โดยตัวอย่างดังกล่าวถูกส่งไปยังห้องทดลองชลัมเบอร์เกอร์ (Schlumberger laboratories) เพื่อทำการตรวจวิเคราะห์ เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณภาพและคุณลักษณะของน้ำมันต่อไป
แม้จะประสบกับอุปสรรคบางประการในการขุดเจาะน้ำมัน ตัวอย่างเช่น ความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นสามลูก ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องจักร รวมถึงต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น แต่ปัญหาดังกล่าวก็ส่งผลกระทบต่อตารางการดำเนินงานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
"เราคาดการณ์ว่าต้นทุนดำเนินโครงการน่าจะเพิ่มขึ้นอีกราว 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่มีในทุกโครงการอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เรายังคงตารางการดำเนินงานไว้เช่นเดิม ดิฉันรู้สึกยินดีที่จะรายงานว่า โครงการกาล็อกโครงการแรกจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมีนาคม พ.ศ.2551 หรืออีกเพียง 3 เดือนข้างหน้าเท่านั้น" วิลเลียมส์กล่าว
ทั้งนี้ นิโด มีผลประโยชน์ 22.279% ในแหล่งน้ำมันกาล็อก
ท่านที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
ซาช่า สโตน
แผนกสื่อสัมพันธ์
โทร: (+61 8) 9473 0546 หรือ (+61 8) 9473 0576
อีเมล์: pr@pmsmarketing.com.au
แหล่งข่าว: นิโด ปิโตรเลียม
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ