ฮอร์แชม, เพนซิลเวเนีย และ เคนิลเวิร์ธ นิวเจอร์ซีย์--25 ธ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท / อินโฟเควสท์
เซ็นโตคอร์ (Centocor, Inc.) และ เชอริ่ง-พลาว (Schering-Plough Corporation) (NYSE: SGP) ประกาศว่า ทั้งสองบริษัทได้ร่วมกันทบทวนแก้ไขข้อตกลงเกี่ยวกับการพัฒนา ทำการค้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา เรมิเคด (REMICADE (R)) (infliximab) ซึ่งเป็นยาต้านการหลั่งสาร tumor necrosis factor (anti-TNF) สำหรับรักษาโรคเส้นประสาทเสื่อมจากการอักเสบเรื้อรัง (chronic inflammatory) และ ยาโกลิมูแม็บ (Golimumab) ซึ่งเป็นยา anti-TNF ของเซ็นโตคอร์ที่กำลังอยู่ระหว่างการทดสอบในขั้นที่สาม ทั้งนี้ ภายใต้ข้อกำหนดของสหภาพยุโรป การแก้ไขข้อตกลงดังกล่าวจะส่งผลให้ เชอริ่ง-พลาว เป็นเพียงผู้เดียวที่สามารถจัดจำหน่ายยาเรมิเคดนอกประเทศสหรัฐอเมริกาไปจนถึงปี พ.ศ.2557 เช่นเดียวกับยาโกลิมูแม็บ อันเป็นผลให้สิทธิในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาทั้งสองชนิดขยายเวลาไปอีก 15 ปี นับตั้งแต่มีการจำหน่ายยาโกลิมูแม็บเป็นครั้งแรก
นอกจากนั้นแล้ว เซ็นโตคอร์ จะได้รับส่วนแบ่งผลกำไรจากการจัดจำหน่ายยาทั้งสองชนิดโดย เชอริ่ง-พลาว ไปตลอดช่วงปี พ.ศ.2553 - 2557
การแก้ไขข้อตกลงดังกล่าวยังส่งผลให้ เชอริ่ง-พลาว มีอิสระในการพัฒนาและทำการตลาดผลิตภัณฑ์ยาโกลิมูแม็บสำหรับการรักษาอาการของโรคโครห์น (Crohn’s disease) โดยเปิดโอกาสให้เซ็นโตคอร์สามารถมีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าวได้ถ้าต้องการ
นอกจากนั้นทั้งสองบริษัทจะร่วมกันแบกรับต้นทุนการพัฒนาและใช้งานเครื่องฉีดสารอัตโนมัติ (Autoinjector) ซึ่งพัฒนาโดย ไซแล็ก จีเอมบีเอช อินเตอร์เนชั่นแนล (Cilag GmbH International) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเซ็นโตคอร์ เพื่อทำการผลิตและจำหน่ายยาโกลิมูแม็บในพื้นที่รับผิดชอบของทั้งสองบริษัท โดยเครื่องฉีดสารอัตโนมัติดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถฉีดยาโกลิมูแม็บเข้าผิวหนังได้ด้วยตนเอง ทั้งนี้ การแก้ไขข้อตกลงในครั้งนี้ทำให้ เชอริ่ง-พลาว ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าจำนวน 20.5 ล้านดอลลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสสี่ของปีนี้ เพื่อสิทธิในเครื่องฉีดสารอัตโนมัติ
เซ็นโตคอร์ เป็นเพียงผู้เดียวที่มีสิทธิจัดจำหน่ายยาเรมิเคด และยาโกลิมูแม็บ (หลังผ่านการอนุมัติ) ในสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ เชอริ่ง-พลาว เป็นเพียงผู้เดียวที่มีสิทธิจัดจำหน่ายยาเรมิเคดนอกสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และบางประเทศในเอเชีย โดยในปี พ.ศ.2548 เชอริ่ง-พลาว ได้ทำข้อตกลงร่วมกับเซ็นโตคอร์ ในการพัฒนาและจัดจำหน่ายยาโกลิมูแม็บในพื้นที่เดียวกับที่ทำการจัดจำหน่ายยาเรมิเคด
ยาเรมิเคด ได้รับการอนุมัติให้สามารถนำไปใช้ในการรักษาอาการของโรคต่างๆ อย่างเช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ระยะต้น โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน โรคโครห์น โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดยึดติด โรคสะเก็ดเงิน และ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ ในขณะที่ยาโกลิมูแม็บซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบในขั้นที่สาม มีคุณสมบัติในการรักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน และ โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดยึดติด และกำลังอยู่ระหว่างทดสอบการรับยาเข้าสู่ร่างกายด้วยการให้ผู้ป่วยฉีดเข้าใต้ผิวหนังตนเองทุกเดือน หรือด้วยการฉีดเข้าเส้นเลือดดำทุกๆ 12 สัปดาห์ ปัจจุบัน ทั้งสองบริษัทเตรียมยื่นเอกสารต่อองค์การอาหารและยาของสหรัฐและสำนักงานประเมินคุณภาพยาแห่งยุโรปในปีหน้า เพื่อขอนุมัติการจัดจำหน่ายยาโกลิมูแม็บในพื้นที่ของทั้งสองบริษัท
เกี่ยวกับเซ็นโตคอร์
บริษัท เซ็นโตคอร์ เป็นบริษัทที่มีบทบาทในการวิจัยชั้นนำระดับโลก และการผลิตทางชีววิทยา เพื่อนำเสนอเวชภัณฑ์ชีววิทยาที่เป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย ซึ่งช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ป่วย นอกจากนี้ บริษัทได้นำเสนอนวัตกรรมในการรักษาโรคดังต่อไปนี้ โรคโครนส์ (Crohn's disease) หรือโรคลำไส้เล็กอุดตันบางส่วน โรคปวดข้อรูมาตอยด์ โรคกระดูกสันหลังอักเสบและยึดติด (ankylosing spondylitis) หรือโรค AS โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน (Psoriatic Arthritis). แผลอักเสบในลำไส้ใหญ่ (ulcerative colitis) โรคโครนส์ในเด็ก และ เรื้อนกวาง (Psoriasis)
เซ็นโตคอร์ ในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการผลิตและเทคโนโลยีโมโนโคลนอล แอนตี้บอดี้ (monoclonal antibody) ได้นำเสนอการบำบัดรักษาทางชีววิทยาที่มีความสำคัญยิ่งแก่คนไข้ ผู้ซึ่งได้รับความทรมานจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เซ็นโตคอร์ อิงค์ เป็นบริษัทในเครือที่จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ถือหุ้น 100%
หมายเหตุแนบจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน: ข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้ประกอบด้วย "ถ้อยความที่คาดการณ์ถึงอนาคต" ซึ่งได้นิยามไว้ในพระราชบัญญัติปฏิรูปกฎหมายหลักทรัพย์เอกชนฉบับพ.ศ. 2538 ถ้อยความเหล่านี้เป็นการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตบนพื้นฐานของปัจจุบัน หากการคาดหมายใดๆพิสูจน์ได้ว่าไม่แม่นยำ หรือมีความเสี่ยงที่ไม่ทราบมาก่อน หรือเป็นรูปธรรมที่ไม่มีความแน่นอน ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างออกไปอย่างเป็นรูปธรรมจากคาดการณ์และคาดคะเนของ เซ็นโตคอร์ ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆเหล่านี้ ได้แก่สภาพและการแข่งขันในอุตสาหกรรมโดยทั่วไป สถานการณ์ทางเศรษฐกิจ อาทิ อัตราดอกเบี้ยและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ การยกระดับเทคโนโลยีและสิทธิบัตรของคู่แข่งขัน ความท้าทายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งรวมไปถึงการอนุมัติของคณะกรรมการกำกับดูแล การปฏิรูปสาธารณสุขในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งกฎหมายและกฎเกณฑ์ของรัฐบาล และแนวโน้มที่จะมีการควบคุมต้นทุนสาธารณสุข รายการและรายละเอียดของความเสี่ยงในอนาคต ตลอดทั้งความผันผวนและปัจจัยอื่นๆสามารถอ่านได้ใน Exhibit 99 ของรายงานประจำปีของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ที่อยู่ในรูปแบบฟอร์ม 10-K สำหรับปีงบประมาณสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2549 สำเนาของฟอร์ม 10-K รวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านได้ทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.sec.gov, www.jnj.com หรือยื่นขอจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เซ็นโตคอร์ ไม่รับผิดชอบต่อการปรับปรุงถ้อยความคาดการณ์ล่วงหน้าใดๆ เนื่องจากผลลัพธ์ของข้อมูลใหม่ หรือเหตุการณ์หรือทิศทางในอนาคต
เกี่ยวกับเชอริ่ง-พลาว
เชอริ่ง-พลาวเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพระดับโลกที่มุ่งเน้นด้านวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม โดยบริษัทได้คิดค้นวิธีการบำบัดโรคที่ช่วยรักษาและยกระดับชีวิตของผู้ป่วยทั่วโลกผ่านการวิจัยด้านเวชภัณฑ์ชีวภาพของบริษัทและจากการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทยังได้ประยุกต์ใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนาสำหรับใช้ในการออกใบสั่งยาแก่ผู้ป่วยและการผลิตสินค้าผู้บริโภค รวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านการดูแลสุขภาพสัตว์ ในเดือนพฤศจิกายนปี พ.ศ.2550 เชอริ่ง-พลาวได้ควบรวมกิจการกับออร์กานอน ไบโอซายส์ ซึ่งมีออร์กานอนเป็นผู้ดำเนินธุรกิจด้านการรักษาสุขภาพของผู้ป่วย ขณะที่อินเตอร์เวทดูแลธุรกิจด้านสุขภาพสัตว์ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ทำให้เกิดความคืบหน้าครั้งสำคัญในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ เชอริ่ง-พลาวดำเนินธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ ""Earn Trust, Every Day" กับคณะแพทย์ ผู้ป่วย ลูกค้า และผู้ถือหุ้นกว่า 50,000 รายทั่วโลก บริษัทมีฐานการดำเนินงานในเมืองเคนิลเวิร์ธ รัฐนิวเจอร์ซีย์ และเว็บไซต์ของบริษัทคือ www.schering-plough.com
หมายเหตุข่าวประชาสัมพันธ์ของเชอริ่ง-พลาว: ข้อมูลในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วย"แถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า"ภายใต้นิยามของพระราชบัญญัติปฏิรูปการฟ้องร้องความมั่นคงส่วนบุคคลปี 2538 ซึ่งประกอบด้วยแถลงการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกรอบเวลาในการยื่นคำร้องต่อยาโกลิมูเม็บ แถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าระบุข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการคาดหวัง หรือการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงเหตุการณ์ในอนาคต ทั้งนี้ เชอริ่ง-พลาวมิได้ยึดเอาข้อบังคับดังกล่าวมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าแต่อย่างใด จากองค์ประกอบต่างๆอาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่สร้างความแตกต่างอย่างเป็นรูปธรรมจากแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าของเชอริ่ง-พลาว ซึ่งประกอบด้วยปัจจัยด้านการตลาด ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่าย การจดสิทธิบัตร และการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบอื่นๆ การกำหนดชื่อสินค้าในปัจจุบันและอนาคต การแข่งขันทางธุรกิจทั่วๆไป ขั้นตอนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ และความเคลื่อนไหวต่างๆหลังจากที่มีการให้ความเห็นชอบจากทางการ ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยเหล่านี้และปัจจัยอื่นๆที่อาจส่งผลต่อแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า กรุณาเข้าชมในเอกสารของเชอริ่ง-พลาวที่ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในส่วนที่ 2 รายการที่ 1A ภายใต้หัวข้อ"ปัจจัยเสี่ยง"ในรายงานประจำไตรมาสที่สามปี 2550 ของเชอริ่ง-พลาวบนแบบฟอร์ม 10-Q
แหล่งข่าว: เชอริ่ง-พลาว คอร์เปอร์เรชั่น และ เซ็นโตคอร์ อิงค์
สื่อมวลชนติดต่อ
ไมเคิล พาร์กส์ จากเซ็นโตคอร์
โทรศัพท์ +1-215-325-4010 หรือ
โทรศัพท์มือถือ +1-215-983-8000 หรือ
โรสแมรี่ แยนโคเซก จากเชอริ่ง-พลาว
โทร +1-908-298-7476 หรือ
นักลงทุนติดต่อ
เซ็นโตคอร์ ที่
หลุยส์ เมห์โรทรา
โทรศัพท์ +1-732-524-6491
ทินา พินโท
โทรศัพท์ +1-732-524-2034
โรบิน บราวน์ จากเชอริ่ง-พลาว
โทร +1-908-298-7436
เรียกชมข่าวของบริษัทได้ที่
http://www.prnewswire.com/comp/777050.html
เว็บไซต์: http://www.schering-plough.com
http://www.jnj.com
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--