ปราก--26 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ปราสาทปรากอันเก่าแก่คือสถานที่จัดการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาและสัมฤทธิ์ผล เกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือระหว่างจีนกับประเทศในยุโรปกลางและตะวันออกในการขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจไปด้วยกัน การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมราว 200 ท่าน โดยมีการกล่าวสุนทรพจน์จากคุณ Jianmin Zhang เอกอัครราชทูตจีนประจำสาธารณรัฐเช็กคนใหม่, คุณ Jiri Rusnok ผู้ว่าการธนาคารกลางสาธารณรัฐเช็ก, คุณ Jan Kohout ประธานสถาบัน New Silk Road Institute Prague และที่ปรึกษาของประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็ก, ศาสตราจารย์ Li Mingjun ประธาน CEIBS และคุณ Xu Bin ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินจาก CEIBS สำหรับการประชุมครั้งนี้ร่วมกันจัดโดย China Europe International Business School (CEIBS) และ New Silk Road Institute Prague
ในการกล่าวสุนทรพจน์อย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะเอกอัครราชทูตจีนประจำสาธารณรัฐเช็ก คุณ Jianmin Zhang ได้กล่าวถึงความจำเป็นของทั้งสองประเทศในการทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ลัทธิเอกภาคีนิยมและลัทธิกีดกันทางการค้ากำลังแผ่อิทธิพลในบางภูมิภาคของโลก โดยเขากล่าวว่า "สงครามการค้าได้ก่อให้เกิดความตึงเครียดในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าของกลุ่มมหาอำนาจของโลก ส่งผลให้ความไม่แน่นอนปรากฏให้เห็นมากขึ้น ส่วนจีนยึดมั่นในระบบการค้าแบบพหุภาคีและการค้าเสรีเรื่อยมา และเราจะเปิดกว้างสู่โลกภายนอกให้มากขึ้นไปอีก" เขาย้ำว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสาธารณรัฐเช็ก "คืบหน้าเป็นอย่างดี" ขณะที่มีข้อมูลแสดงให้เห็นว่า การลงทุนระหว่างสองประเทศกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนการดำเนินงานขั้นต่อไปจะเป็นการกระชับความร่วมมือระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ประเด็นความร่วมมือระหว่างสองประเทศได้ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงโดยคุณ Jan Kohout อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสาธารณรัฐเช็ก เขาได้กล่าวถึงประโยชน์ที่ได้ปรากฏให้เห็นแล้ว แต่ในขณะเดียวกันก็มองว่ายังมีอีกหลายสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ พร้อมเสนอแนะขอบข่ายที่ทั้งสองฝ่ายสามารถกระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยกล่าวว่า ปัจจุบันนักลงทุนจีนจำนวนมากสนใจลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เข้าซื้อบริษัทไอทีและไฮเทค รวมถึงขายสินค้าในภูมิภาคยุโรปกลางและตะวันออกในวงกว้าง "เราคาดหวังเช่นกันว่าจีนจะเปิดตลาดให้กว้างยิ่งขึ้น ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เราต่างมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน และเราควรมีความชัดเจนในเรื่องยุทธศาสตร์ระยะยาว เช่นเดียวกับในเรื่องกฎระเบียบและการกำกับดูแล เรามีความคืบหน้ามาโดยตลอด และการประชุมวันนี้จะเป็นเวทีสำคัญที่เราสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความร่วมมือในอนาคตในโครงการต่างๆ เราขอต้อนรับนักลงทุนชาวจีนสู่สาธารณรัฐเช็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขอบข่ายที่กล่าวถึงข้างต้น" นอกจากนี้ เขายังเปิดเผยว่าสาธารณรัฐเช็กต้องการแรงงานคุณภาพสูง รวมถึงสนใจในการบุกตลาดจีน และกล่าวถึงโอกาสในการสร้างความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาระหว่างสองประเทศ
คุณ Jiri Rusnok ผู้ว่าการธนาคารกลางสาธารณรัฐเช็ก ได้กล่าวถึงการดำเนินงานระหว่างทั้งสองประเทศ รวมถึงแผนการในอนาคตในด้านการเงิน โดยความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายเกิดขึ้นในปี 2553 จากการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างคณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารของจีน (CBRC) กับธนาคารกลางสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็น MOU ฉบับแรกๆที่ทาง CBRC ได้ลงนามร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลในสหภาพยุโรป จากนั้นความร่วมมือนี้ได้ยกระดับขึ้นในปี 2559 เมื่อมีการผนวกการบริหารจัดการวิกฤตไว้ในขอบข่ายการดำเนินงาน โดยสุนทรพจน์ของคุณ Rusnok ได้สรุปนโยบายบางส่วนที่จำเป็นต้องดำเนินการเพื่อก่อให้เกิดเสถียรภาพทางการเงินร่วมกันภายใต้โครงการ Belt & Road Initiative (BRI) ของจีน นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงแนวทางการยกระดับความร่วมมือระหว่างตลาดเงินของทั้งสองประเทศว่า "เราจำเป็นต้องมีระบบธนาคารที่แข็งแกร่ง เราจำเป็นต้องลดปัจจัยลบเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค และเราจำเป็นต้องรอบรู้เรื่องการเงินด้วย" เขาได้ยกตัวอย่างประโยชน์ที่เกิดจากระบบ "ควบคุมดูแลแบบบูรณาการ" ของธนาคารกลางสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งทำให้สามารถโฟกัสไปที่ความเสี่ยงต่อระบบ การประสานงานด้านการแบ่งปันข้อมูล บริการสนับสนุนทางเทคนิคและวิชาชีพอันแข็งแกร่ง รวมถึงการตัดสินใจโดยอิสระ นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงการผนวกรวมการกำกับดูแลตลาดเงินและการควบคุมดูแลในระดับชาติ ที่จะเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนและผสานข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับโอกาสในการผนวกรวมการดำเนินงานเชิงวิเคราะห์ด้วย "เรากำลังร่วมมือกับฝั่งจีนในเรื่องของการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ เช่นในเรื่องของเสถียรภาพทางการเงิน ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าเราสามารถทำงานร่วมกันเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ระหว่างกันได้"
สำหรับขอบข่ายความร่วมมือระหว่างจีนกับสาธารณรัฐเช็กที่เป็นไปได้ในอนาคต เขาได้ยกตัวอย่างเรื่องเสถียรภาพทางการเงินและการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) การควบคุมดูแลตลาดสินเชื่อผู้บริโภคและภาคการเงินนอกกลุ่มธนาคาร เช่นเดียวกับนโยบายกำกับดูแลระบบการเงิน (macro-prudential) เพื่อป้องกันภาวะฟองสบู่ในตลาดสินทรัพย์ ดำรงเงินกองทุนส่วนเพิ่มให้เพียงพอ และประสานงานด้านนโยบายการเงิน เขายังกล่าวถึงความท้าทายที่อาจกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางวิสัยทัศน์ด้านความร่วมมือ ซึ่งรวมถึง "ความไม่สมดุลอย่างมากของการค้าระหว่างประเทศ" การกำกับดูแลและโครงสร้างผู้ถือหุ้นขององค์กรจีนบางแห่งที่ไม่ค่อยโปร่งใส และกลยุทธ์การลงทุนที่ยังไม่ชัดเจนของนักลงทุนจีนบางราย "ความสัมพันธ์ระหว่างเช็กกับจีนในอนาคตควรเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน เราน้อมรับโครงการที่จีนได้ดำเนินการเพื่อเปิดตลาดจีนสู่โลกภายนอก ซึ่งเราเชื่อว่าจะช่วยกระชับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น"
แนวคิดความสัมพันธ์ที่เอื้อประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายยังได้รับการกล่าวถึงโดยคุณ Xu Bin ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินจาก CEIBS โดยเขาได้นำข้อมูลทางเศรษฐกิจมาเป็นบทเรียนให้จีนและสาธารณรัฐเช็กได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน พร้อมแนะแนวทางที่ทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมมือกันได้ และชี้ให้เห็นจุดร่วมที่เหมือนกันของทั้งสองประเทศ นั่นคือ ภาคบริการที่มีสัดส่วนจำนวนมากใน GDP และช่วยให้ทั้งสองประเทศสามารถรักษาอัตราว่างงานไว้ในระดับต่ำได้ นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังดึงดูดนักลงทุนต่างชาติอย่างมาก ขณะเดียวกัน ทั้งสองประเทศยังคงเติบโตค่อนข้างเร็วมาก โดยเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศขับเคลื่อนด้วยเงินทุนและเทคโนโลยี หลังจากเปรียบเทียบเศรษฐกิจมหภาคของทั้งสองประเทศแล้ว เขาได้เน้นย้ำถึง 6 บทเรียนที่จีนสามารถเรียนรู้จากสาธารณรัฐเช็ก ได้แก่ การขยายเมืองพร้อมกับรักษามรดกทางวัฒนธรรม การยกระดับภาคบริการ การให้บริการด้านสุขภาพแก่ผู้สูงวัย การสร้างสมดุลระหว่างภาษีกับรายได้ กำไร และทุน การแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ รวมถึงการจัดการอัตราแลกเปลี่ยนและปัญหาอื่นๆในภาคการเงินที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ
การประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ นั่นคือ วาระครบรอบ 40 ปีของการปฏิรูปและเปิดประเทศจีน วาระครบรอบ 15 ปีของการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป และวาระครบรอบ 5 ปีของโครงการ Belt & Road Initiative จีนมองว่าภูมิภาคยุโรปกลางและตะวันออกคือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุโรป ทั้งยังเป็นพันธมิตรและจุดหมายปลายทางการลงทุนที่สำคัญ โดยศาสตราจารย์ Li Mingjun ประธาน CEIBS กล่าวสุนทรพจน์ว่า สาธารณรัฐเช็กคือส่วนสำคัญในความร่วมมือระหว่างจีนกับภูมิภาคยุโรปกลางและตะวันออก "การแลกเปลี่ยนทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองประเทศยังคงมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การค้าระดับทวิภาคีก็พัฒนาอย่างแข็งแกร่ง จีนคือคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐเช็กนอกสหภาพยุโรป และจีนเป็นประเทศที่สาธารณรัฐเช็กนำเข้าสินค้ามากที่สุดเป็นอันดับสอง ขณะเดียวกัน สาธารณรัฐเช็กก็เป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับสองของจีนในภูมิภาคยุโรปกลางและตะวันออก ทั้งนี้ ภายใต้วิสัยทัศน์ของโครงการ "One Belt, One Road" และโครงการ "16+1 cooperation" ซึ่งเป็นการสานต่อยุคทองของความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสาธารณรัฐเช็ก เราได้มารวมตัวกันด้วยความหวัง เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองและสร้างความร่วมมือระหว่างองค์กรต่างๆ" นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงภารกิจที่ CEIBS ทำสำเร็จลุล่วงไปแล้ว เช่น การร่วมมือกับ SINO-CEE Fund ในการเปิดตัวโครงการ ERICEE เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนำไปสู่การสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง CEIBS กับ 16 ประเทศในภูมิภาคยุโรปกลางและตะวันออก องค์กรคลังสมองระดับชาติ และโรงเรียนธุรกิจชั้นนำ รวมถึงการสนับสนุนความรู้ให้แก่หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความร่วมมือกับประเทศในภูมิภาคยุโรปกลางและตะวันออก ความพยายามดังกล่าวได้รับการสนับสนุนในการประชุมที่กรุงปรากในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นสะพานเชื่อมมิตรภาพและส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างจีนกับยุโรป
การประชุมครั้งนี้ได้รับการเติมเต็มโดยการอภิปรายแบบคณะสองหัวข้อของบรรดาผู้บริหารจากจีนและสาธารณรัฐเช็ก สำหรับหัวข้อแรกคือ "แนวทางปฏิบัติและตัวอย่างการลงทุนในจีนและสาธารณรัฐเช็ก" โดยผู้อภิปรายประกอบด้วยคุณ Jin Chen ซีอีโอของ SINO-CEEF Europe, คุณ Vladimir Dlouhy ประธานหอการค้าสาธารณรัฐเช็ก, คุณ Zhongming Luo กรรมการบริหาร COSCO SHIPPING Lines (Central Europe) s.r.o., คุณ Fengde Zhang ประธาน Zhejiang Huajie Investment Development Co., Ltd. และคุณ Josef Kotrba ประธาน Deloitte (Czech Republic)
หัวข้อที่สองคือ "ขอบเขตใหม่ของความร่วมมือจีน-สาธารณรัฐเช็ก" โดยผู้อภิปรายประกอบด้วยคุณ Kamil Cermak ประธานคณะกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ CEZ ESCO, คุณ Karel Havlicek ประธานสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสาธารณรัฐเช็ก, คุณ Zhenyu Hu ผู้จัดการประจำประเทศของ Dahua Technology Czech s.r.o, คุณ Petr Hyl ประธานคณะกรรมการบริหาร Czech General Aircraft และคุณ Peter Basek ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจของ Huawei Technologies (Czech)
การประชุมครั้งนี้คือ 1 ใน 5 การประชุมที่จัดโดย CEIBS โรงเรียนธุรกิจนานาชาติชั้นนำของจีนที่มีพันธมิตรทั่วยุโรป โดยการประชุมทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ CEIBS Insights 2018 ที่ริเริ่มขึ้นเพื่อฉลองวาระครบรอบ 15 ปีของการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ที่ครอบคลุมระหว่างจีนกับสหภาพยุโรป เพื่อสำรวจบทบาทของ CEIBS ในการส่งเสริมความร่วมมือจีน-ยุโรป ก่อนหน้านี้ CEIBS ได้จัดการประชุมที่มิวนิกและลอนดอนในวันที่ 17 กรกฎาคม และ 19 กรกฎาคมตามลำดับ สำหรับการประชุมครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ปารีสในวันที่ 19 ตุลาคม และที่ซูริคในวันที่ 24 ตุลาคม
เกี่ยวกับ CEIBS
China Europe International Business School (CEIBS) คือโรงเรียนธุรกิจนานาชาติชั้นนำของเอเชีย โดยเป็นสถาบันเพียงแห่งเดียวที่ติดโผ 30 สุดยอดหลักสูตร MBA, EMBA และ Executive Education ของ Financial Times พร้อมกัน
CEIBS มีศิษย์เก่ามากกว่า 20,000 คนจากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก และเปิดหลักสูตรการบริหารหลายหลักสูตรสำหรับผู้บริหารมากกว่า 150,000 คนทั้งในและต่างประเทศ คณาจารย์ของ CEIBS สามารถนำเสนอทั้งข้อมูลเชิงลึกของจีนและภาพรวมของทั่วโลกผ่านการสอนและงานวิจัย
CEIBS มีวิทยาเขตในเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เซินเจิ้น ซูริค และอักกรา
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20180926/2248175-1