ดูไบ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์--17 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
เหล่าผู้เชี่ยวชาญในตลาดเปิดเผยว่า เมื่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ต่อหัวอยู่ในระดับสูง และมีการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานระดับโลกแล้ว การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยระดับพรีเมียมในดูไบ ย่อมให้ผลตอบแทนที่แข็งแกร่งสำหรับนักลงทุนทั่วโลก
(รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/769963/Downtown_Dubai_by_Emaar.jpg )
(รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/769962/Dubai_Creek_Harbour_by_Emaar.jpg )
การศึกษาต้นทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยเทียบกับ GDP ต่อหัว ตามศูนย์กลางเมืองใหญ่ ๆ หลายแห่งทั่วโลกแสดงให้เห็นว่า ดูไบมีมูลค่านำเสนอที่น่าดึงดูดเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับนักลงทุน ตอกย้ำด้วยสถานะของดูไบในฐานะหนึ่งใน 20 มหานครใหญ่*ในตะวันออกกลางและแอฟริกา เมื่อเทียบกับเมืองใหญ่ 51 แห่งในสหรัฐ 43 แห่งในยุโรปตะวันตก 25 แห่งในเอเชียแปซิฟิกที่พัฒนาแล้ว 20 แห่งในเอเชียแปซิฟิกเกิดใหม่ และกว่า 103 แห่งในจีน
นักวิเคราะห์เผยว่า ดูไบมีศักยภาพเติบโตสูงกว่าศูนย์กลางเมืองใหญ่แห่งอื่น ๆ เมื่อประเมินจากต้นทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยในทำเลสำคัญ อาทิ ย่าน Dubai Creek Harbour และ Downtown Dubai ที่มีมูลค่าราว 550 ดอลลาร์สหรัฐ (2,020 เดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ต่อตารางฟุต และ GDP ต่อหัวในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่ 40,698** ดอลลาร์สหรัฐ
ตารางเปรียบเทียบ
ราคาอสังหาริมทรัพย์เฉลี่ยต่อตารางฟุต*** และ GDP ต่อหัวในเมืองต่าง ๆ ทั่วโลก
เมือง ราคาเฉลี่ยของอสังหาริมทรัพย์พรีเมียม (ดอลลาร์สหรัฐ) GDP ต่อหัว (ดอลลาร์สหรัฐ)**
ดูไบ/สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 550 40,698
เซี่ยงไฮ้ 2,125 32,684
นิวยอร์กซิตี้ 4,100 73,938
ปารีส 4,400 65,354
ลอนดอน 5,300 55,947
โตเกียว 7,600 43,884
ฮ่องกง 11,000 56,571
ที่ใดจะเติบโตมากที่สุด?
ดูไบ แม้จะเป็นเมืองที่มี GDP ต่อหัวสูง แต่ก็เป็นเมืองที่มีอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่มีศักยภาพแข่งขันน่าประทับใจที่สุดในโครงการระดับพรีเมียม สิ่งนี้ได้เข้ามากระตุ้นความสนใจของกลุ่มลูกค้าสินทรัพย์สูง ในการลงทุนในโครงการพัฒนาที่มีชื่อเสียง ไม่ว่าจะเป็น Dubai Creek Harbour, Downtown Dubai, Dubai Hills Estate, Dubai Marina และ Emaar Beachfront
นอกจากนี้ ดูไบยังดูน่าดึงดูดใจขึ้นไปอีกจากพัฒนาการในแง่อันดับค่าครองชีพ ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ Mercer ระบุว่า ดูไบไม่ได้ติด 25 อันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกอีกต่อไป โดยลดลงมาจากอันดับที่ 19 มาสู่อันดับที่ 26 ขณะที่ฮ่องกง โตเกียว ซูริค สิงคโปร์ โซล เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ซึ่งล้วนเป็นเมืองที่อสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยมีราคาแพง ต่างติดอยู่ใน 10 อันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุด
นักลงทุนล้วนอยู่ในจุดคว้าชัยเมื่อลงทุนในโครงการ Dubai Creek Harbour ซึ่งเป็นโครงการตามแผนแม่บทเลียบตามแนวคลอง Dubai Creek ตระหง่านสายตาด้วยไอค่อนแห่งใหม่ของเมืองอย่างโครงการ Dubai Creek Tower นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังจะประกอบด้วย Dubai Square ศูนย์กลางการค้าปลีกแห่งอนาคต สถานที่ตั้งของไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่:
Kelly Home
ASDA'A BCW; โทร: +9714-4507-600
อีเมล: kelly.home@bm.com
ที่มา: Emaar