หางโจว, จีน--24 ต.ค.--ซินหัว-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
นครหางโจว ทางตะวันออกของจีน กำลังวางแผนปฏิบัติการที่ห้าวหาญและสร้างสรรค์ในการทำให้หางโจวเป็น "เมืองเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งแรกของจีน" ภายในระยะเวลา 5 ปี โดยหางโจว ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งอินเทอร์เน็ตที่มีชื่อเสียงที่สุดของจีน กำลังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูอุตสาหกรรมด้วยวิสัยทัศน์ที่เป็นจินตนาการสุดบรรเจิด
โจว เจียงหยง นายกเทศมนตรีนครหางโจว กล่าวว่า "อนาคตหางโจวจะถูกสร้างให้เป็นแหล่งทรัพยากรชั้นเยี่ยมระดับนานาชาติจากเทคโนโลยีและแนวคิดด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของจีน เป็นสถานที่ชุมนุมของบรรดาองค์กรและผู้มีความสามารถมากมาย เป็นสถานที่ชั้นนำในการพัฒนาการปฏิรูปอุตสาหกรรมดิจิทัล เป็นแหล่งสาธิตการปฏิรูปอุตสาหกรรมให้กลายเป็นดิจิทัล ตลอดจนเป็นแหล่งที่มาของโครงการกำกับดูแลเมืองดิจิทัล โดยระบบพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของหางโจวจะเริ่มปรากฏเป็นรูปเป็นร่างภายในปี 2565 นี้"
แนวคิดในการสร้างเมืองที่เป็นเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งแรกของประเทศนี้ไม่ใช่การฝันกลางวัน เพราะจากสถิติพบว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของหางโจวมีมูลค่าคิดเป็น 1 ใน 4 ของผลผลิตทางเศรษฐกิจทั้งหมดของเมือง อีกทั้งช่วยขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าครึ่งหนึ่งของเมือง
ในสมุดปกขาวว่าด้วยดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจดิจิทัลในเมืองต่างๆ ของจีน (White Paper of Digital Economy Index of Chinese Cities) ซึ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หางโจวถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้นๆ และเป็นหนึ่งในเมืองชั้นนำด้านโครงสร้างพื้นฐานทางข้อมูลและสารสนเทศ การให้บริการภายในเมือง ตลอดจนการกำกับดูแลเมือง และการบูรณาการทางอุตสาหกรรม
ก้าวสู่ความเป็นหนึ่ง
หางโจวเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมและทัศนียภาพอันงดงามตั้งแต่ยุคสมัยโบราณ และได้รับสมญานามว่าเป็น "สวรรค์บนดิน" ปัจจุบัน หางโจวถือเป็นเมืองภูมิศาสตร์เศรษฐกิจแห่งใหม่ของจีน ด้วยเสน่ห์และศักยภาพอันโดดเด่นที่มีส่วนช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล
การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลได้ช่วยขับเคลื่อนให้หางโจวสร้างอุตสาหกรรมที่ก่อให้เกิดผลประโยชน์มหาศาล เช่น ซอฟต์แวร์ข้อมูล อีคอมเมิร์ซ คลาวด์คอมพิวติ้ง บิ๊กดาต้า และดิจิทัลคอนเทนต์ พร้อมกับการเกิดขึ้นของบริษัทชั้นนำมากกว่า 20 องค์กร เช่น Alibaba, NetEase และ Hikvision ตลอดจนเป็นจุดกำเนิดของเมืองที่มีคุณลักษณะเด่นต่างๆ เช่น หยุนชี เมืองแห่งคลาวด์ เป็นต้น นอกจากนี้ หางโจวยังเป็นแหล่งรวมสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายแห่ง เช่น WestLake University, Zhijiang Lab, Alibaba DAMO Academy และอีกมากมาย
ด้วยพลังจากเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันใหม่ๆ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ยอดเยี่ยม โอบล้อมไปด้วยภูเขาและแม่น้ำ หางโจวจึงกลายเป็นเมืองที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่ชาวจีนรุ่นใหม่ เช่นเดียวกับผู้ประกอบการต่างชาติ โดยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว หยุนชีเคยเป็นเขตอุตสาหกรรมดั้งเดิม แต่ปัจจุบัน ได้กลายเป็นแหล่งชุมนุมของเหล่านักวิทยาศาสตร์และผู้มีความรู้ความชำนาญเฉพาะทางมากกว่า 4,200 คน
การรวมตัวกันของเหล่าผู้มีความรู้ความสามารถ ทำให้มีเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับการสร้างธุรกิจและนวัตกรรมเกิดขึ้นทุกวันในเมืองหางโจว โดยเฉลี่ยในแต่ละวัน จะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด 602 รายการ มีการออกสิทธิบัตรการประดิษฐ์ 109 รายการ รวมถึงมีการจัดกิจกรรมทางด้านธุรกิจและการเงินมากกว่า 10 รายการ
ปัจจุบัน หางโจวกำลังมุ่งมั่นพยายามที่จะก้าวขึ้นมาเป็นเมืองชั้นนำในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของจีน ด้วยการเป็นเมืองเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งแรกของประเทศ และคาดการณ์ว่าภายในปี 2565 หางโจวจะเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมหลายภาคส่วนและมีบทบาทในระดับนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นอีคอมเมิร์ช คลาวด์คอมพิวติ้ง บิ๊กดาต้า ปัญญาประดิษฐ์ ดิจิทัลคอนเทนต์ ความปลอดภัยด้านข้อมูล และแขนงอื่นๆ
จากมุมมองของนายแจ็ค หม่า นั้น การวัดระดับความเป็นดิจิทัลของเมืองไม่อาจวัดได้จากจำนวนของบริษัท สิ่งที่สำคัญคือ บริษัทและหน่วยงานรัฐทั้งหมดสามารถใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ได้ดีแค่ไหน รวมถึงมีส่วนร่วมในการผลักดันการพัฒนาเมืองมากเพียงใด "หางโจวควรทดลองและสาธิตให้เมืองต่างๆ ทั่วโลกได้ประจักษ์"
นครหางโจวที่เปี่ยมประสิทธิภาพ
ในหางโจว คุณสามารถขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินหรือซื้อไข่ต้มใบชาด้วยการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ และยังสามารถถอนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า หรือแม้แต่จองโรงแรมเพียงแค่แสดงบัตรเครดิตของคุณเอง ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถจัดการเรื่องต่างๆ นับ 153 เรื่องด้วยโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว นครหางโจวเป็นเมืองแห่งแรกของจีนที่สามารถมอบบริการเหล่านี้ได้
เหมือนกับนโยบาย "Shenzhen speed" ที่ผู้คนให้ความสนใจเมื่อพูดถึงการเริ่มต้นการปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีน การบริการของรัฐบาลหางโจวกำลังสะท้อนให้เห็นถึง "Hangzhou efficiency" โดยอาศัยการพลิกโฉมเมืองสู่ดิจิทัล
กิจการของรัฐบาลหางโจวส่วนใหญล้วนบรรลุเป้าหมาย "once at most" ซึ่งต้องอาศัยอุตสาหกรรมเศรษฐกิจดิจิทัลที่ก้าวหน้า
นอกจากนี้ นครหางโจวยังก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการจัดตั้งแผนกบริหารงานภาครัฐด้วย "บิ๊กดาต๊า" ซึ่งตอบสนองต่อกระบวนการให้บริการของรัฐบาลอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน มีการรวบรวมข้อมูลเกือบ 4 หมื่นล้านชิ้นจากทั้ง 59 แผนกทั่วทั้งเมือง ข้อมูลทั้งหมดถูกเก็บรวบรวมเป็นอย่างดี รวมทั้งได้รับการแบ่งปันกันอย่างครบถ้วนและทั่วถึง โดยในแต่ละวัน มีการถ่ายโอนข้อมูลมากกว่า 2 ล้านครั้ง
การจัดการข้อมูลมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเวลานี้ทรัพยากรข้อมูลที่เคยอยู่กระจัดกระจายตามแต่ละแผนกและแยกออกจากกันได้เชื่อมต่อกันแล้ว ซึ่งส่งผลให้เกิดการเชื่อมต่อและการแบ่งปันข้อมูลของรัฐบาล ตลอดจนเกิดการปรับปรุงที่ทันสมัย และทำให้การบริการของรัฐมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น
จึงอาจกล่าวได้ว่า ปัจจุบัน ประชาชนในนครหางโจวได้อาศัยอยู่ในเมืองแห่งอนาคตแล้ว
สมองของเมือง
ที่งานประชุม Yunqi Cloud Town Computing Conference ซึ่งจัดขึ้นในเดือนกันยายน รัฐบาลหางโจว พร้อมกับบริษัทต่างๆ เช่น Alibaba ได้ร่วมกันเปิดตัว Hangzhou "City Brain" 2.0
ด้วยการควบคุมที่แม่นยำของ "City Brain" หรือสมองของเมือง ทำให้ประสิทธิภาพการจราจรในเมืองหางโจวได้รับการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในรายชื่อของเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุด เมืองหางโจวลดลง 5 อันดับจากในปี 2559 มาอยู่ที่อันดับ 57 ในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้
นอกจากนี้ "City Brain" 2.0 ยังได้ถูกนำไปปรับใช้ในหลากหลายรูปแบบ เช่น การดับเพลิง การจัดการทิวทัศน์ของเมือง การจราจรการท่องเที่ยว และระบบตรวจสอบสินเชื่อ
หวัง เจียน ประธานคณะกรรมการเทคนิคของ Alibaba กล่าวว่า เป้าหมายสูงสุดของ "City brain" คือการให้ข้อมูลเพื่อช่วยให้เมืองสามารถคิดและตัดสินใจได้ และเพื่อสร้างหางโจวให้เป็นเมืองอัจฉริยะที่สามารถปรับตัวและสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับชาวเมือง
ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา กรุงกัวลาลัมเปอร์ในมาเลเซียได้เปิดตัวโครงการทดสอบรถสำหรับใช้งานเฉพาะทางจาก "City Brain" ของหางโจว ซึ่งผลการทดสอบเผยให้เห็นว่า รถพยาบาลใช้เวลาเดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุลดลงถึง 48.9% และในอนาคต "ไฟจราจรหางโจว" อาจกลายเป็นระบบควบคุมไฟจราจรระบบใหม่ของโลก
นายแจ็ค หม่า ระบุว่า การเป็นเมืองแรกในกระบวนการเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งชาติ ไม่ได้เกี่ยวกับความมั่งคั่งและการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงอารยธรรม การกำกับดูแล และความปลอดภัย "การเปลี่ยนไปสู่ระบบดิจิทัลจะไม่สร้างรอยแตกร้าว เทคโนโลยีจะทำให้เมืองเป็นสถานที่ที่ดีขึ้น"
นายโจว เจียงหยง มั่นใจเต็มร้อยที่จะสร้างให้เมืองหางโจวเป็นเมืองแรกในกระบวนการเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งชาติ นายโจวกล่าวว่า "เมืองแรก" คือเมืองที่กระบวนการดิจิทัลผลักดันอุตสาหกรรมเพื่อส่งเสริมการกำกับดูแลด้วยระบบดิจิทัล เมืองหางโจวควรจะปลุกตัวเลขที่หลับใหลด้วยการใช้วิธีการทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ สำหรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐาน บริการความเป็นอยู่ของประชาชน และบริการของรัฐบาล ทำให้หางโจวเป็นเมืองแห่งโซลูชั่นพร้อมระบบการจัดการดิจิทัลระดับโลก
ที่มา: The Information Office of Hangzhou Municipal People's Government
ลิงค์ภาพประกอบข่าว:
http://asianetnews.net/view-attachment?attach-id=322457
AsiaNet 75857