หางโจว, จีน--9 ม.ค.--ซินหัว-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ได้มีการจัดการประชุมระดับสูงที่นครหางโจวทางภาคตะวันออกของประเทศจีน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระดับโลก พร้อมผลักดันหางโจวให้ก้าวขึ้นเป็นเมืองสาธิตด้านการพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนอย่างมีคุณภาพ ภายในการประชุมได้มีการประกาศ 6 โครงการยักษ์ใหญ่ และ 28 มาตรการสำคัญ โดยเน้นไปที่บริการของภาครัฐ การค้าและการลงทุน การพัฒนาอุตสาหกรรม ความเป็นผู้ประกอบการและนวัตกรรม ระบบนิเวศและชีวิตความเป็นอยู่ รวมถึงหลักนิติธรรม
เจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งนครหางโจว เปิดเผยว่า "มาตรการเหล่านี้ซึ่งมุ่งเน้นในหลายๆด้าน เช่น การสร้างสภาพแวดล้อมด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรม ถือเป็นความพยายามในการปฏิรูปที่ทรงคุณค่าและทรงพลังที่สุดที่นครหางโจวทำมาตลอดหลายปี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนใหม่ให้แก่นครแห่งนี้ อันจะนำไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระดับโลก รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพ"
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ นครหางโจวทำงานอย่างหนักในการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระดับโลกตามมาตรฐาน กฎข้อบังคับ และระเบียบปฏิบัติในระดับสากล พร้อมกับเดินหน้าปรับปรุงธรรมเนียมปฏิบัติและกลไกต่างๆ รวมถึงยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจที่แท้จริง และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพด้วยสภาพแวดล้อมทางธุรกิจอันดีเยี่ยม ด้วยเหตุนี้ จึงมีการประสานสภาพแวดล้อมทางธุรกิจระดับสูงกับการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพแบบค่อยเป็นค่อยไป
คุณเฉิง หย่าหลิง ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ หลังยื่นเรื่องด้วยตัวเองผ่านทางศูนย์ให้บริการทางธุรกิจ เธอและหุ้นส่วนทางธุรกิจประสบความสำเร็จในการตั้งบริษัทที่นิคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหางโจว เซียซา
เนื่องจากภาครัฐได้ส่งเสริมการปฏิรูปการจดทะเบียนธุรกิจ ขั้นตอนและระยะเวลาในการรับบริการจากภาครัฐจึงลดลงอย่างมาก ส่งผลให้มีบริษัทใหม่เกิดขึ้นมากมาย โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 มีบริษัทเกิดใหม่มากถึง 64,000 แห่ง เพิ่มขึ้นเกือบ 30% เมื่อเทียบรายปี นอกจากนี้ นครหางโจวยังประกาศมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ มีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น โดยในช่วงเดือนมกราคม-กันยายน หน่วยงานด้านภาษีของนครหางโจวเก็บภาษีจากบริษัทต่างๆ ลดลง 15.43% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นการช่วยลดภาระด้านภาษี ต้นทุนการดำเนินงาน และต้นทุนทางการเงินของผู้ประกอบการ
สำหรับบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงบริษัทใหม่ นอกเหนือจากมาตรการลดหย่อนภาษี ความช่วยเหลือทางการเงิน และนโยบายสนับสนุนอื่นๆแล้ว นครหางโจวยังจัดตั้งและให้การสนับสนุนกองทุนต่างๆด้วย หนึ่งในนั้นคือกองทุนเพื่อผู้ประกอบการและการลงทุน ที่ให้การสนับสนุน 473 โครงการ ณ เดือนกันยายน 2561 อันนำไปสู่การลงทุนทางสังคมมูลค่าเกือบ 5 พันล้านหยวน ซึ่งเป็นการนำทุนทางสังคมมาพัฒนานวัตกรรมและธุรกิจ นอกจากนั้นยังมีการจัดตั้งแพลตฟอร์มเพื่อผู้ประกอบการและนวัตกรรมอีกมากมาย เช่น ศูนย์สร้างสรรค์นวัตกรรม ศูนย์บ่มเพาะธุรกิจด้านเทคโนโลยี และเมืองนวัตกรรมต่างๆ
นอกจากนี้ นครหางโจวยังให้บริการพิเศษฟรีสำหรับนักลงทุนที่มาจากที่อื่น เช่น การให้คำปรึกษาด้านการลงทุน การส่งเสริมการลงทุน การคุ้มครองการลงทุน และอีกมากมาย
ตัวอย่างผู้ที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายสนับสนุนเหล่านี้คือ WeDoctor บริษัทด้านสุขภาพที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "โรงพยาบาลออนไลน์" ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2553 และเติบโตอย่างรวดเร็วโดยได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลนครหางโจว เมื่อเดือนพฤษภาคม WeDoctor ก้าวขึ้นเป็นบริษัทด้านสุขภาพเพียงแห่งเดียวในโลกที่ติดทำเนียบ "30 บริษัทเทคโนโลยีเอกชนมูลค่าสูงสุดในโลก" นอกจากนั้นยังเป็นบริษัท "ยูนิคอร์น" ด้านเทคโนโลยีสุขภาพรายใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์
"รัฐบาลรับผิดชอบเรื่องสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ส่วนบริษัทต่างๆรับผิดชอบเรื่องการเติบโตทางธุรกิจ นี่คือภาพที่แท้จริงของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในนครหางโจว" คุณเหลียว เจี่ยหยวน ผู้ก่อตั้ง WeDoctor กล่าว พร้อมกับเสริมว่า สำหรับบริษัทเอกชนนั้น นอกเหนือจากการพัฒนาตนเองแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในทิศทางเดียวกัน
"เราดูแลเศรษฐกิจภาคเอกชนและบริษัทเอกชนอย่างดีเหมือนเป็นครอบครัวของเราเอง" คุณโจว เจียงหยง สมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลเจ้อเจียง และเลขาธิการคณะกรรมการกลางนครหางโจว กล่าว พร้อมกับเสริมว่า เศรษฐกิจภาคเอกชนคือกำลังภายในที่ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ ส่วนสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเปรียบเหมือนแสงแดด สายฝน และผืนดินอุดมสมบูรณ์ที่ช่วยบำรุงให้เศรษฐกิจภาคเอกชนเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
สำหรับนครหางโจวซึ่งเศรษฐกิจภาคเอกชนคือกำลังสำคัญของตลาดนั้น ความคึกคักของเศรษฐกิจภาคเอกชนและเทรนด์ของบริษัทเอกชนถือเป็นตัวบ่งชี้ทิศทางของสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและคุณภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจของนครแห่งนี้
คุณติง เหล่ย ประธานคณะกรรมการบริหารและซีอีโอบริษัท NetEase กล่าวว่า "ผมรักหางโจวมาก คณะกรรมการกลางนครหางโจวรวมถึงบริการของภาครัฐทำให้ผมประทับใจมาก ผมหวังว่าจะได้ช่วยบ่มเพาะบริษัทไฮเทคใหม่ๆให้แก่หางโจวต่อไป" ทั้งนี้ NetEase คือบริษัทเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตชั้นนำของจีน ซึ่งมีชื่อเสียงในหลากหลายธุรกิจ เช่น เกม อีคอมเมิร์ซ ข่าว อีเมล วัฒนธรรมและความบันเทิง การศึกษาออนไลน์ และอีกมากมาย
ด้วยสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ได้รับการพัฒนาอย่างดีที่สุด นครหางโจวจึงค่อยๆก้าวขึ้นมาเป็นเมืองชั้นนำของจีนที่มีเศรษฐกิจภาคเอกชนแข็งแกร่ง โดยในการจัดอันดับ "500 บริษัทเอกชนชั้นนำของจีนประจำปี 2561" ปรากฏว่าบริษัทจากหางโจวติดโผมากถึง 36 บริษัท นอกจากนี้ หางโจวยังมีจำนวนบริษัทจดทะเบียนมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ 16 ปีติดต่อกันแล้ว
"การพัฒนาอย่างมีคุณภาพคือรากฐานสำคัญของการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ" คุณโจว เจียงหยง กล่าว พร้อมกับเสริมว่า เทศบาลนครหางโจวจะยึดมั่นในการผสานตลาดที่มีประสิทธิภาพกับรัฐบาลที่ทำงานเชิงรุก รวมถึงเดินหน้าปรับปรุงนโยบายพัฒนาอุตสาหกรรม พร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ และจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่จะทำให้ผู้ประกอบการและองค์กรต่างๆเติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ทางภาครัฐไม่เพียงสนับสนุนให้บริษัทนอกพื้นที่เข้ามาลงทุนในหางโจวเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้บริษัทในหางโจวได้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและกลายเป็น "ป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์"
ที่มา: คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งนครหางโจว
AsiaNet 77009