ลักเซมเบิร์ก--2 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Ferrero เดินหน้าเสริมแกร่งธุรกิจในตลาดอเมริกาเหนือ
Ferrero Group และบริษัทในเครือ ซึ่งเป็นผู้ผลิตขนมหวานรายใหญ่ของโลก ประกาศข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการเข้าซื้อธุรกิจคุกกี้ ขนมทำจากผลไม้และขนมรสผลไม้ โคนไอศกรีม และแป้งพายของบริษัท Kellogg Company ด้วยมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ (1.16 พันล้านยูโรตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) โดยธุรกิจเหล่านี้ทำยอดขายได้ราว 900 ล้านดอลลาร์ในปี 2561
Ferrero จะเข้าครอบครองแบรนด์คุกกี้ยอดนิยมหลายแบรนด์ ได้แก่ Keebler(R) คุกกี้ชื่อดัง, Famous Amos(R) คุกกี้แบบพกพายอดขายสูงสุด, Mother's(R) คุกกี้พรีเมียมสำหรับครอบครัว และ Murray(R) คุกกี้ไร้น้ำตาล รวมถึง Little Brownie Bakers(R) ที่ผลิตคุกกี้ให้กับลูกเสือหญิงแห่งอเมริกา นอกจากนี้ Ferrero จะครอบครองแบรนด์ขนมรสผลไม้ของ Kellogg ซึ่งรวมถึง Stretch Island(R) และ Fruity Snacks ตลอดจนโคนไอศกรีมและแป้งพายแบรนด์ Keebler(R)
นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา Ferrero ได้เข้าซื้อธุรกิจและแบรนด์มากมายในอเมริกา และความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะเปิดทางให้ Ferrero รุกสู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ ทั้งยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งของบริษัทในตลาดอเมริกาเหนือด้วย
นอกจากนี้ Ferrero จะครอบครองโรงงานผลิตอาหาร 6 แห่งของ Kellogg ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองอัลลีน รัฐวอชิงตัน, เมืองออกัสตา รัฐจอร์เจีย รวมถึงเมืองฟลอเรนซ์และเมืองลุยส์วิลล์ รัฐเคนทักกี ตลอดจนโรงงานอีก 2 แห่งในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ และโรงงานผลิตปล่อยเช่า 1 แห่งในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรีแลนด์
คุณ Giovanni Ferrero ประธานกรรมการบริหารบริษัท Ferrero Group กล่าวว่า "ธุรกิจคุกกี้ ขนมรสผลไม้ โคนไอศกรีม และแป้งพายของ Kellogg Company มีความเหมาะสมในเชิงกลยุทธ์สำหรับ Ferrero ในขณะที่เรากำลังเดินหน้าขยายธุรกิจและนำเสนอผลิตภัณฑ์ในตลาดอเมริกาเหนือ สำหรับการซื้อกิจการในครั้งนี้ ผมตั้งตารอที่จะนำแบรนด์ดังของ Kellogg มาเป็นส่วนหนึ่งของ Ferrero รวมถึงต้อนรับเพื่อนร่วมงานใหม่สู่บริษัทของเราที่ขยายใหญ่ขึ้น พร้อมกับเดินหน้าขยายแบรนด์ในเครือ Ferrero ต่อไป อย่างที่เราเคยประสบความสำเร็จมาแล้วในการเข้าซื้อกิจการของ Fannie May, Ferrara Candy Company และธุรกิจขนมหวานของ Nestle ในอเมริกา เราเคารพ Kellogg รวมถึงมรดกตกทอดและค่านิยมของบริษัท และภูมิใจที่ Kellogg เลือก Ferrero เป็นบ้านใหม่ที่อบอุ่นของธุรกิจเหล่านี้"
คุณ Lapo Civiletti ซีอีโอบริษัท Ferrero Group กล่าวว่า "เรากำลังครอบครองแบรนด์ที่มีรากฐานมั่นคงและเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้บริโภค ทั้งยังมีสถานะที่แข็งแกร่งในตลาด ทำให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น และได้ประโยชน์จากโอกาสใหม่ๆ ในตลาดคุกกี้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก"
คุณ Todd Siwak ซีอีโอบริษัท Ferrara Candy Company กล่าวว่า "การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับเป้าหมายการเติบโตเชิงกลยุทธ์ เราจะแบ่งปันแผนธุรกิจของเรากับลูกค้า ซัพพลายเออร์ และหุ้นส่วนต่างๆ ในอีกไม่กี่สัปดาห์และไม่กี่เดือนข้างหน้า และเราพร้อมต้อนรับเพื่อนร่วมงานใหม่จาก Kellogg"
การซื้อขายกิจการคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการปิดการขายและการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล
ทั้งนี้ JP Morgan Securities plc และ Davis Polk & Wardwell LLP ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของ Ferrero
เกี่ยวกับ Ferrero
Ferrero เป็นธุรกิจครอบครัวที่ก่อตั้งขึ้นในเมืองอัลบา ประเทศอิตาลี เมื่อปี 2489 ปัจจุบันเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ในตลาดช็อกโกแลตโลก ด้วยยอดขายกว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ บริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกว่า 170 ประเทศ และมีพนักงานมากกว่า 30,000 คน ใน 55 ประเทศทั่วโลก
Ferrero รุกเข้าสู่ตลาดอเมริกาในปี 2512 ด้วยผลิตภัณฑ์ลูกอมรสมินท์ Tic Tac(R) และปัจจุบันได้สร้างความสุขให้กับครอบครัวในอเมริกาด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพมากมาย ซึ่งรวมถึง FERRERO ROCHER(R) ช็อกโกแลตผสมเฮเซลนัทระดับพรีเมียม, NUTELLA(R) The Original Hazelnut Spread(R), KINDER JOY(R) และช็อกโกแลต FANNIE MAY หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดตามเราทาง @FerreroUSA
เกี่ยวกับ Ferrara Candy Company
Ferrara Candy Company บริษัทในเครือ Ferrero Group คือผู้นำในตลาดขนมหวานของอเมริกา และเป็นหนึ่งในบริษัทขนมหวานที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศ พนักงานผู้ทุ่มเทกว่า 4,000 คนร่วมกันแบ่งปันความสุขผ่านแบรนด์ชั้นนำที่กำหนดทิศทางตลาดขนมหวานมานานกว่า 100 ปี บริษัทมีแบรนด์ในเครือเกือบ 35 แบรนด์ เช่น SweeTARTS(R), Trolli(R), Brach's(R), Black Forest(R), Butterfinger(R), CRUNCH(R), Laffy Taffy(R) และ NERDS(R) รวมถึงแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Lemonhead(R), Red Hots(R) และ Now and Later(R) บริษัทมีสำนักงานใหญ่ในชิคาโก และมีเครือข่ายโรงงานผลิต ศูนย์จัดจำหน่าย รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาทั่วอเมริกาเหนือ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.ferrarausa.com