ลอนดอน--2 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
Kinesis Money ตอกย้ำความเป็นผู้นำระดับโลกด้านฟินเทค ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์มบล็อกเชน Kinesis Mint เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างสกุลเงินดิจิทัลของ Kinesis ซึ่งประกอบด้วยสกุลเงิน KAU (อิงทองคำ 1 กรัม) และสกุลเงิน KAG (อิงโลหะเงิน 1 ออนซ์)
Kinesis Money คือระบบเงินตราใหม่ที่ใช้สินทรัพย์จริง นั่นคือโลหะมีค่าอย่างทองคำและโลหะเงิน เป็นตัวค้ำสกุลเงินดิจิทัล โดยสกุลเงินดิจิทัลของ Kinesis มีอัตราแลกเปลี่ยนกับโลหะมีค่าที่ 1:1 ส่วนค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมจะสะสมไว้เมื่อมีการโอน ใช้จ่าย หรือเทรดสกุลเงินดังกล่าว และจะมีการแบ่งผลตอบแทนให้กับผู้ถือโทเคนและสกุลเงินของ Kinesis เพื่อจูงใจให้เกิดการใช้งาน
"Mint" คือการสร้างสกุลเงินดิจิทัลของ Kinesis ด้วยการฝากเงินกระดาษเพื่อซื้อโลหะมีค่า หรือฝากโลหะมีค่าที่มีอยู่แล้วไว้ในแพลตฟอร์ม Kinesis Mint จากนั้นโลหะมีค่าจะถูกโอนผ่านแพลตฟอร์มบล็อกเชน Stellar และแสดงให้เห็นในอีวอลเล็ตของผู้ใช้ การโอนผ่านแพลตฟอร์มบล็อกเชน Stellar ทำให้ทำธุรกรรมทั่วโลกได้มากกว่า 3,000 ครั้งต่อวินาที โดยใช้เวลาเพียง 3-5 วินาที และมีค่าธรรมเนียมเพียง 0.45%
ปัจจุบันเริ่มมีการกังขาเกี่ยวกับความน่าลงทุนของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและ stablecoin อิงเงินสด ตอนนี้จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการใช้ stablecoin อิงทองคำของบริษัทที่มีความรับผิดชอบทางการค้า
Kinesis กำลังปฏิวัติอุตสาหกรรมโลหะมีค่าด้วยการไม่คิดค่าธรรมเนียมในการเก็บรักษาทองคำและโลหะเงิน นอกจากนั้นยังมีการแบ่งผลตอบแทนจากการเก็บค่าธรรมเนียมอื่นๆ ให้กับผู้ถือครองทองคำและโลหะเงินด้วย
คุณ Thomas Coughlin ซีอีโอของ Kinesis Money กล่าวว่า "นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับเรา Kinesis Mint คือก้าวแรกของการเปิดตัวระบบเงินตราใหม่ของเราอย่างเต็มรูปแบบ ทั่วโลกกำลังเริ่มหันมาใช้สกุลเงินดิจิทัลแบบกระจายศูนย์กันมากขึ้น และ Kinesis Money ก็เป็นผู้บุกเบิกการใช้โลหะมีค่า สกุลเงินต่างๆมีความผันผวนและความไม่แน่นอน แต่สกุลเงินใหม่ของ Kinesis มีเสถียรภาพและเชื่อถือได้ในแบบที่ผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการ"
แวดวงสกุลเงินดิจิทัลมีการตรวจสอบอย่างละเอียด ดังนั้น stablecoin อย่างสกุลเงินดิจิทัลของ Kinesis จึงสามารถรับมือกับความวิตกกังวลที่มีต่อสกุลเงินดิจิทัลได้เป็นอย่างดี
Kinesis เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ใช้เวลาอย่างเต็มที่ก่อนที่จะปิดการขายโทเคนในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ บริษัทขายโทเคน Kinesis Velocity Tokens (KVT) ไปได้มากกว่า 65,000 โทเคนนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2561 โดยโทเคนนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากผู้ถือครองจะได้รับผลตอบแทนสูงสุด 20% จากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้น
Kinesis รู้สึกตื่นเต้นที่ได้ปล่อยผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง และภายในไตรมาส 4/2562 จะมีการปล่อยเทคโนโลยีใหม่ออกมาอีกสองตัว
คุณ Thomas Coughlin กล่าวเสริมว่า "ก่อนที่จะมีการเปิดตัว Kinesis Exchange ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เราได้เปิดตัว Kinesis Mint เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีบทบาทสำคัญในตลาดโลหะมีค่าได้นำโลหะมีค่ามาสู่ระบบนิเวศของ Kinesis เพื่อเพิ่มผลตอบแทนจากการถือครองโลหะมีค่า แพลตฟอร์ม Kinesis Mint คือก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การเปิดตัว Kinesis Monetary System อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งครอบคลุมถึงการเปิดตัวบัตรเดบิต VISA ของเราเอง และเราจะเดินหน้าเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆทั่วทุกภูมิภาคในอนาคต"
เทคโนโลยีลำดับถัดไปที่จะมีการเปิดตัวในเดือนกรกฎาคมนี้คือ Kinesis Exchange ที่จะเปิดโอกาสให้มีการเทรดสกุลเงินกระดาษและสกุลเงินดิจิทัลต่างๆ กับสกุลเงิน KAU และ KAG ซึ่งให้ผลตอบแทนอย่างรวดเร็วแก่ผู้ถือครองโลหะมีค่ากับ Kinesis
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.kinesis.money
วิดีโอ: https://www.youtube.com/watch?v=z46UvutJ8v4