เซินเจิ้น, จีน--14 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
- มุ่งลงทุนด้าน R&D ต่อเนื่อง เพื่อสร้างความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการวิเคราะห์ลำดับเบสที่บริเวณ upstream ของยีน
MGI บริษัทในเครือ BGI Group เปิดเผยว่า บริษัทได้รับเงินลงทุนกว่า 200 ล้านดอลลาร์ในการระดมทุนรอบแรก ซึ่งถือเป็นมูลค่าการระดมทุนขนาดใหญ่ที่สุดในวงการพันธุกรรมของจีนในปี 2561 โดยนักลงทุนประกอบด้วยสถาบันที่มีชื่อเสียง เช่น CITIC Goldstone Capital, Green Pine Capital Partners และ Orient Securities Capital Investment
นอกจากนี้ MGI ยังได้ชูความก้าวหน้าของนวัตกรรมเทคโนโลยีการวิเคราะห์ลำดับเบสที่บริเวณ upstream ของยีน
โดยปัจจุบัน เครื่องหาลำดับเบสของ MGI ได้ถูกนำไปติดตั้งใน 16 ประเทศและดินแดนทั่วโลก ครอบคลุมผู้ใช้งานกว่า 300 ราย เครื่องหาลำดับเบสเหล่านี้ผลิตข้อมูลรวมกันได้ถึง 20 เพตะไบต์ (Pb) และมีการตีพิมพ์เผยแพร่เอกสารงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ระดับสูงมากกว่า 300 ฉบับ
เมื่อไม่นานมานี้ MGI ได้ร่วมมือกับสถาบัน China Academy of Chinese Medical Sciences เพื่อพัฒนาเครื่องอ่านลำดับเบสที่รองรับปริมาณงานสูงสำหรับการทำดีเอ็นเอบาร์โค้ดของพืชสมุนไพรจีน เครื่องดังกล่าวซึ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 เมษายน ถือเป็นเครื่องมืออัจฉริยะเครื่องแรกของโลกสำหรับการหาลำดับเบสในสารพันธุกรรมของยาสมุนไพรจีน และสามารถระบุตัวอย่างยาสมุนไพรจีนได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
กุญแจสู่ความสำเร็จของ MGI ในการผงาดขึ้นเป็นผู้พัฒนาเครื่องมือชีววิทยาศาสตร์รายสำคัญคือ การเดินหน้าลงทุนและการพัฒนาความก้าวหน้าใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องในด้านเทคโนโลยีการหาลำดับเบสที่บริเวณ upstream ของยีน โดย MGI ลงทุนเป็นมูลค่ารวมประมาณ 5 พันล้านหยวนในด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสิทธิบัตรเทคโนโลยีการวิเคราะห์ลำดับเบส โดยมีการยื่นขอจดสิทธิบัตรทางเทคนิคมากกว่า 580 รายการ ซึ่งกว่า 80 รายการเป็นการยื่นคำขอสิทธิบัตรระหว่างประเทศ (PCT)
MGI ได้เปิดตัวเครื่องวิเคราะห์ลำดับเบสประเภทต่าง ๆ หลากหลายรุ่นมาตั้งแต่ปี 2558 โดยผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ เครื่อง MGISEQ-2000 ที่วิเคราะห์ลำดับเบสในสารพันธุกรรมได้อย่างครอบคลุม รองรับชิปสองแบบที่แตกต่างกันด้วยระบบปฏิบัติการที่เป็นอิสระ เครื่องรุ่นนี้ใช้เวลาเพียง 48 ชั่วโมงในการหาลำดับ PE100 เมื่อเครื่องทำงานอย่างเต็มกำลัง และใช้เวลาไม่ถึง 48 ชั่วโมงในการตรวจหาตัวอย่างเนื้องอกได้อย่างรวดเร็วถึง 24 ตัวอย่างโดยเฉลี่ย นอกจากนี้ยังมีเครื่องรุ่น MGISEQ-T7 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคม 2561 และยังคงเป็นเครื่องวิเคราะห์ลำดับเบสที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดจนถึงขณะนี้ โดยสามารถให้ปริมาณข้อมูลสูงถึง 6Tb ในวันเดียว และใช้เวลาเพียง 24 ชั่วโมงในการหาลำดับ PE150 ขณะที่มีต้นทุนต่อ Gb เพียง 5 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นต้นทุนการหาลำดับเบสที่ต่ำที่สุดในโลก
MGI ค่อย ๆ ทำลายการผูกขาดตลาดในอุตสาหกรรมการวิเคราะห์ลำดับเบสที่บริเวณ upstream ของยีน และสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมที่มั่นคงและเปิดกว้าง ด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องวิเคราะห์ลำดับเบส ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาอิสระ ซึ่งได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบอุตสาหกรรมแบบปิดให้กลายเป็นอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างมากขึ้น
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า อุตสาหกรรมวิเคราห์ลำดับเบสทั่วโลกจะมีมูลค่าตลาดเติบโตแตะ 1.245 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2565 และคาดว่าตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะขยายตัวแตะ 2.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ภายในปี 2563 อุตสาหกรรมหาลำดับเบสในสารพันธุกรรมของจีน จะมีมูลค่าตลาดแตะที่ 9.8 พันล้านหยวน (ประมาณ 1.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
MGI เป็นบริษัทเดียวในประเทศจีน และเป็นหนึ่งในสามแห่งของโลกเท่านั้นที่สามารถพัฒนาเครื่องวิเคราะห์ลำดับเบสของยีนที่รองรับปริมาณงานสูง พร้อมผลิตเครื่องดังกล่าวได้ในปริมาณมาก ความสำเร็จในการระดมทุนรอบแรกของ MGI แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในขีดความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงความเป็นสากลของบริษัท MGI วางแผนที่จะส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตลอดจนผลิตเครื่องวิเคราะห์ลำดับเบสของยีนรุ่นใหม่ ๆ สร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม รวมทั้งมุ่งมั่นต่อการพัฒนาตลาดและสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมการวิเคราะห์ลำดับเบสของยีนให้เดินหน้าต่อไป