โมนาโก--27 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
- TAG Heuer เปิดฉากงานเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของนาฬิการุ่นคลาสสิกอย่าง Monaco ณ งาน Monaco Formula 1 Grand Prix ซึ่งถือเป็นงานอีเวนท์ประวัติศาสตร์อันเป็นที่มาของชื่อนาฬิการุ่นนี้เมื่อปี 1969
- TAG Heuer เผยโฉม 1 ใน 5 นาฬิการุ่นใหม่สำหรับนักสะสม ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนาฬิกา Monaco รุ่นออริจินัล โดยนาฬิกาทั้ง 5 รุ่นจะเผยโฉมต่อเนื่องตลอดปี 2019 นี้
- TAG Heuer เปิดประตูต้อนรับแขกสู่งานอันทรงเกียรติและน่าตื่นเต้นเป็นอันดับต้น ๆ ในโมนาโก ซึ่งรวมถึงงานปาร์ตี้ในช่วงเย็นบนเรือ TAG Heuer Yacht นำโดย Patrick Dempsey และ Bella Hadid
ทุกสายตาทั่วโลกต่างจับจ้องไปที่ Rock of Monaco อันเป็นสถานที่จัดงาน Formula 1 Grand Prix สุดสัปดาห์นี้ รวมถึงนาฬิการุ่นโด่งดังของ TAG Heuer ที่กำลังเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปี ณ ดินแดนแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งนี้ TAG Heuer จึงประกาศว่า ทางแบรนด์จะทยอยเปิดตัวนาฬิกาทั้ง 5 รุ่นใหม่ตลอดทั้งปีนี้ ซึ่งแต่ละรุ่นนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากเทรนด์ในแต่ละทศวรรษตั้งแต่ปี 1969 ถึง 2019 อีกทั้งยังเป็นการออกแบบโดยอุทิศให้กับดีไซน์ที่งดงามเหนือกาลเวลา พร้อมนวัตกรรมที่แข็งแกร่งทนทาน และสไตล์ที่มีความร่วมสมัยมากกว่าเดิม
ดีไซน์ที่มีความโลดโผนและทรงเอกลักษณ์คือสิ่งที่ทำให้นาฬิการุ่น Monaco กลายเป็นที่จดจำของผู้คน อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ใหม่ไม่ว่าจะในมุมมองใด ส่งผลให้ Monaco กลายเป็นนาฬิกาที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนไม่ว่าจะในเรื่องของการออกแบบหรือเทคโนโลยี ทั้งนี้ TAG Heuer Monaco ไม่ได้เป็นแค่เพียงนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมรุ่นแรกที่สามารถกันน้ำได้ แต่ยังเป็นนาฬิการุ่นแรกที่ใช้กลไกออโตเมติกอีกด้วย
นับตั้งแต่การเปิดตัว นาฬิการุ่น Monaco และการแข่งขัน Monaco Grand Prix ซึ่ง TAG Heuer รับหน้าที่เป็นสปอนเซอร์นาฬิกาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2011 นั้น มีความเชื่อมโยงกันอย่างเหนียวแน่น โดยการแข่งขัน Grand Prix ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฤดูกาล Formula 1 นี้ เป็นที่มาของชื่อนาฬิกาคอลเลคชั่น TAG Heuer Monaco เมื่อปี 1969 ฉะนั้น จึงไม่มีสถานที่ใดที่จะเหมาะสมสำหรับการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของนาฬิการุ่นนี้ไปมากกว่านี้อีกแล้ว
ด้วยการยึดพื้นที่ของโมนาโกตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่วุ่นวายที่สุดของปี TAG Heuer ได้เปิดตัวนาฬิการุ่น Monaco ฉบับลิมิเต็ดเอดิชันเรือนแรก ณ Key Largo Villa โดยมี Stephane Bianchi ซีอีโอของ LVMH Watchmaking Division และซีอีโอของ TAG Heuer ร่วมด้วย Frederic Arnault ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และดิจิทัล มาเป็นสักขีพยานในการเปิดตัวครั้งนี้ เช่นเดียวกับนักซิ่งดาวรุ่งอย่าง Max Verstappen จาก Martin Red Bull Racing Team รวมถึง Patrick Dempsey, Bella Hadid, Winnie Harlow, Kai Lenny และแขกท่านอื่น ๆ จากทั่วโลก
ตลอดงานสุดพิเศษระยะเวลา 3 วัน แขกผู้ร่วมงานต่างมีโอกาสเข้าร่วมอีเว้นท์ที่ทรงเกียรติและน่าตื่นเต้นเป็นอันดับต้น ๆ ในโมนาโก ตั้งแต่ทัวร์พิพิธภัณฑ์ Monaco Top Cars Collection แบบส่วนตัว รวมถึงการย้อนดูประวัติของนาฬิกา Monaco จนถึงการตอบคำถามเกี่ยวกับคุณสมบัติของ Grand Prix อย่างละเอียดกับ Christian Horner หัวหน้าทีม Aston Martin Red Bull Racing Team แขกผู้ร่วมงานยังได้เข้าร่วมงานปาร์ตี้สุดพิเศษที่จัดบนเรือยอร์ช TAG Heuer Yacht เมื่อคืนวันเสาร์ พร้อมการแสดงสุดพิเศษจากดีเจชื่อดังชาวฝรั่งเศสอย่าง Bob Sinclair รวมถึงแขกรับเชิญพิเศษอย่าง Patrick Dempsey, Bella Hadid, Winnie Harlow, Jourdan Dunn, Kai Lenny และ Jean-Éric Vergne อีเว้นท์ดังกล่าวปิดฉากลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยสิทธิ์ VIP เพื่อเข้าร่วมงาน Formula 1 Grand Prix ซึ่งมี TAG Heuer เป็นสปอนเซอร์นาฬิกาอย่างเป็นทางการ
ย้อนประวัติศาสตร์ 50 ปีของ TAG Heuer Monaco และ Calibre 11
เมื่อครั้งที่ Heuer Monaco (ณ เวลานั้น TAG ยังไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อบริษัท) ได้เปิดตัวที่งานแถลงข่าวในนิวยอร์กและเจนีวาพร้อมกันเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 1969 นักข่าวและผู้คลั่งไคล้นาฬิกาจากทั่วโลกต่างรู้สึกทึ่ง เพราะทุก ๆ ส่วนของนาฬิกานั้นดูแปลกตาไปจากนาฬิกาอื่น ๆ อย่างที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ทั้งในแง่ของการออกแบบและเทคโนโลยี การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นของ Monaco ทำให้ตัวนาฬิกาเป็นที่จดจำในทันที ด้วยเคสกันน้ำทรงสี่เหลี่ยมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
สิ่งนี้คือส่วนเติมเต็มที่สมบูรณ์แบบแก่เทคโนโลยีสุดล้ำที่นำเสนอโดยผู้ผลิตนาฬิกาจากสวิตเซอร์แลนด์รายนี้ในขณะนั้น โดย Heuer ได้พัฒนาและวางจำหน่ายกลไก Calibre 11 ซึ่งเป็นกลไกนาฬิกาออโตเมติกรุ่นแรกของโลก
Jack Heuer ซีอีโอของ Heuer ในเวลานั้น เชื่อว่านวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้จำเป็นต้องมีการออกแบบที่จะดึงดูดความสนใจ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ Monaco ทำได้อย่างสมบูรณ์
เพียงหนึ่งปีหลังจากเปิดตัว Monaco ได้ไปอยู่บนข้อมือของ Jo Siffert แบรนด์แอมบาสเดอร์และนักขับรถแข่ง และในปี 1971 ได้ไปปรากฏอยู่ในหนังเรื่อง Le Mans โดยมี Steve McQueen เป็นผู้สวมใส่
นาฬิกาในดวงใจนักสะสม ด้วยการออกแบบที่สะท้อนถึงช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970
นาฬิกาใหม่ 5 รุ่นนี้ชูให้เห็นการออกแบบที่ล้ำสมัยแต่ยังคงคุณค่าเหนือกาลเวลาของ Monaco รุ่นออริจินัล โดย TAG Heuer สร้างสรรค์นาฬิการุ่นใหม่ดังกล่าวโดยได้รับแรงบันดาลใจจากเทรนด์ สี และสไตล์ ที่แสดงตัวตนในแต่ละทศวรรษตลอดประวัติศาสตร์ 50 ปีของ Monaco ด้วยสัญลักษณ์ทรงเรขาคณิตและสีจากคริสต์ทศวรรษ 1970 ผสมกับลวดลาย Cotes de Geneve ที่งดงามเหนือกาลเวลา ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งในองค์ประกอบอันโดดเด่นของนาฬิการุ่นแรก เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของนาฬิการุ่น Monaco
นาฬิกาตัวเรือนสแตนเลสสตีลนี้ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 169 เรือน มาพร้อมสายหนังสีน้ำตาลและรูสายนาฬิกาสีน้ำตาลอ่อน หน้าปัดนาฬิกาสีเขียวแต่งแต้มด้วยสีน้ำตาลและเหลือง ประดับลวดลาย Cotes de Geneve เข็มนาฬิกาเคลือบด้วย SuperLuminova(R) เพียงแค่มองปราดเดียวที่หน้าปัดเล็กและตำแหน่งของเม็ดมะยม ก็ทำให้นึกถึงความเป็นนาฬิการุ่น Monaco ในนาฬิการุ่นนี้ได้แล้ว
ฝาหลังของเรือนนาฬิกาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 1970 นี้ มีการสลักโลโก้ "Monaco Heuer" เหมือนกับรุ่นออริจินัล ทั้งยังสลักคำว่า "1969-1979 Special Edition" และ "One of 169" ด้วย
ภายในตัวเรือนเป็นกลไก Calibre 11 อันโด่งดัง ซึ่งเป็นกลไกจับเวลาขึ้นลานอัตโนมัติรุ่นใหม่ที่เคยเปิดตัวครั้งแรกจากรุ่น Monaco ตัวออริจินัลเมื่อปี 1969
ดาวเด่นที่มีปฏิทรรศน์
ตลอดช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา นาฬิการุ่น Monaco มีความเชื่อมโยงอย่างเหนียวแน่นกับการผลิตนาฬิกาชั้นสูง จนนำมาซึ่งกลไก การออกแบบ และวัสดุใหม่ ๆ ตามมา เมื่อเวลาผ่านไป นาฬิการุ่น Monaco ยังมีจิตวิญญาณแห่งการปฏิวัติที่สร้างทั้งชื่อเสียงและชื่อเสีย โดยเรื่องราวที่สมบูรณ์เบื้องหลังนาฬิการะดับตำนานนี้ได้รับการเล่าขานในหนังสือ Paradoxical Superstar เล่มใหม่ ซึ่งรวบรวมข้อความที่ตัดตอนและภาพร่างของการออกแบบและการเคลื่อนไหว ทั้งยังมี Nicholas Foulkes นักเขียนและนักข่าวชาวอังกฤษ Gisbert Brunner ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฬิกา และ Michael Clerizo นักเขียนชาวอเมริกัน ร่วมกันสรรสร้างแต่ละบทที่รวบรวมมรดกและนวัตกรรมที่บ่งบอกถึงความเป็นนาฬิการุ่น Monaco โดยมีเจ้าชายอาลแบร์ที่ 2 องค์อธิปัตย์แห่งโมนาโกเป็นผู้เขียนคำนำของหนังสือเล่มนี้ เพื่อตอกย้ำความผูกพันของนาฬิการุ่น Monaco กับดินแดนที่เป็นเจ้าของชื่อนาฬิการุ่นนี้
การแข่งขัน Monaco Grand Prix ครั้งที่ 77
ไม่มีการแข่งขันหรือสนามแข่ง Formula 1 ใดจะสามารถเทียบเคียงกับความเลอเลิศ ความหรูหรา และความท้าทายกับการแข่งขัน Monaco Grand Prix ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น Casino Square ไปจนถึงโค้งที่โด่งดังที่สุดในโลก ผ่านอุโมงค์และเรือยอร์ชสุดหรู เมืองมอนติคาโลจึงถือเป็นสนามแข่งระดับตำนานที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์
นอกจากสร้างความท้าทายสุดขีดแก่นักขับและทีมแล้ว เส้นทางการแข่งขันอันสุดคับแคบบนถนนที่สวยงามในดินแดนแห่งนี้ ต่างเติมเต็มความใฝ่ฝันของนักแข่งรถมายาวนานหลายทศวรรษ เส้นทางการแข่งขันที่คับแคบนี้แทบจะไม่เปิดโอกาสให้เอาชนะ ซึ่งสำหรับนักแข่งบางคนแล้ว การชนะรางวัล Monaco Grand Prix มีเกียรติมากกว่าการคว้าแชมป์ระดับโลกมาครองเสียด้วยซ้ำ
ในปี 2019 การแข่งขัน Monaco Grand Prix ได้เพิ่มความพิเศษเป็นสองเท่า เนื่องจากเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปีของการแข่งขันที่จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 เมษายน 1929 ในวาระครบรอบ 90 ปี การแข่งขัน Grand Prix สุดโดดเด่นนี้ ได้รับการยอมรับในแวดวงการแข่งขันกีฬารถแข่งตลอดจนสร้างช่วงเวลาของการแข่งขัน Formula 1 Grand Prix ที่บ้าระห่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ การพัฒนาและกลยุทธ์ที่คาดไม่ถึงเป็นหัวใจสำคัญของอีเว้นท์อันทรงเกียรติในแวดวงรถแข่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการปะทะกันที่ Sainte-Devote การเปลี่ยนกริปในอุโมงค์เมื่อแข่งวันฝนตก การวิ่งผ่านเข้าใกล้ราวส่วนที่ติดกับสระว่ายน้ำ โดยการแข่งขันทั้ง 78 แลปและ 19 เทิร์นนี้ ทำให้นักขับก้าวข้ามข้อจำกัดของตนเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่นเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือ การได้รับการบันทึกชื่อในการแข่งขัน Monaco Grand Prix ในวันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2019
MONACO 1969–1979 LIMITED EDITION
หมายเลขอ้างอิง CAW211V.FC6466
ข้อมูลและขนาด
กลไก
กลไก TAG Heuer Automatic Calibre 11 เส้นผ่านศูนย์กลาง 30 มม. ทับทิม 59 เม็ด ตุ้มน้ำหนักความถี่ที่การสั่น 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (4 Hz) พร้อมพลังงานสำรอง 40 ชั่วโมง
การทำงาน
ประกอบด้วยเข็มบอกวินาทีและนาที โดยมีเข็มบอกวัน ชั่วโมง นาที และวินาทีบริเวณ 3 นาฬิกา
ตัวเรือน
เส้นผ่านศูนย์กลาง 39 มม. ตัวเรือนทำจากสแตนเลสสตีล ขอบนาฬิกาสแตนเลสสตีล พร้อมแซฟไฟร์คริสตัล เม็ดมะยมเหล็กกล้าขัดเงาบริเวณ 9 นาฬิกา และปุ่มกดบริเวณ 2 และ 4 นาฬิกา กันน้ำสูงสุด 100 เมตร (10 บาร์) หลังตัวเรือนทำจากเหล็กกล้าและสลักคำว่า "1969-1979 Special Edition" และ "One of 169"
หน้าปัด
หน้าปัดสีเขียวตกแต่งแบบ Cotes de Geneve บริเวณเข็มเล็กเป็นสีดำสะท้อนแสงและชุบทองเฉพาะจุด เข็มใหญ่ขัดเงาเจียระไน ตกแต่งสีน้ำตาลและเหลืองบริเวณเข็มและขีดบอกเวลา
สายนาฬิกา
สายหนังลูกวัวสีน้ำตาล บานพับล็อกสแตนเลสสตีลขัดเงา
จำนวนจำกัด 169 ชิ้น
แพคเกจออกแบบพิเศษ
เฉกเช่นเดียวกับตัวนาฬิกา กล่องบรรจุนาฬิการุ่นพิเศษนี้ก็ได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นออริจินัลด้วยเช่นกัน โดยนาฬิการุ่นพิเศษแต่ละเรือนบรรจุอยู่ในกล่องสีเดียวกันกับตัวนาฬิกาและทศวรรษประจำนาฬิกาเรือนนั้น ผลงานนาฬิกาที่ได้รับแรงบันดาลใจจากช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 นี้มาพร้อมกับกล่องสีนำเงินเข้ม ประดับโลโก้ Heuer และแถบลายหมากรุกแนวนอน ตัวเรือนวางอยู่บนนวมสีเหลือง ตกต่างภายในด้วยสีเขียวสีเดียวกับหน้าปัด
เกี่ยวกับ TAG Heuer
ย้อนกลับไปยังปี 1860 คุณ Edouard Heuer วัย 20 ปี ได้ก่อตั้งโรงงานผลิตนาฬิกาของตนขึ้นในภูเขาจูราของสวิตเซอร์แลนด์ จนได้สร้างสรรค์นาฬิการุ่น Mikrograph ขึ้นเมื่อปี 1916 ขึ้นแท่นผู้สนับสนุนทีม Formula 1 ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 และเปิดตัวนาฬิกาอัจฉริยะสุดหรูรุ่นแรกในปี 2015 ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นไม่กี่ตัวอย่างที่สะท้อนถึงความเป็นเลิศทางนวัตกรรมเทคโนโลยี ความแม่นยำ และความมุ่งมั่นในดีไซน์ที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของแบรนด์ TAG Heuer มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองลาโชซ์เดอฟองด์ และมีฐานการผลิต 4 จุด ครอบคลุมการผลิตนาฬิกาครบทุกขั้นตอน โดยมีการวางจำหน่ายทุกทวีปผ่านจุดขาย 4,500 จุด รวมถึงร้านบูติก TAG Heuer 170 สาขา และยังเปิดให้สั่งซื้อที่ www.tagheuer.com ในบางประเทศด้วย TAG Heuer สร้างสรรค์นาฬิกาที่ตอบโจทย์ผู้ที่หลงใหลความท้าทาย โดยมีแกนการสื่อสารแยกเป็น 3 ส่วนหลักด้วยกัน ได้แก่ กีฬา ไลฟ์สไตล์ และมรดกตกทอด ที่แฝงด้วยความเป็นมาและดีเอ็นเอของแบรนด์ พันธมิตรและผู้ที่เป็นทูตประจำแบรนด์ ต่างสะท้อนถึงวัฒนธรรมอันเปิดกว้างของเรา โดยมีผู้ทรงเกียรติและผู้มีหัวล้ำยุคผนึกกำลังกับ TAG Heuer มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Aston Martin Red Bull Racing Team, Formula 1 Monaco Grand Prix, การแข่งขัน Formula E, การแข่งขันฟุตบอลลีกฟอร์มยักษ์ของยุโรป ทวีปอเมริกา และเอเชีย ไปจนถึงสโมสร Manchester United, เทรนด์เซ็ตเตอร์อย่าง Cara Delevingne และนักแสดงชื่อดังอย่าง Chris Hemsworth และ Patrick Dempsey
#DontCrackUnderPressure เป็นมากกว่าเพียงคำเคลม แต่เป็นถึงความสุขุมหนักแน่น รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tagheuer.com
อินสตาแกรม: @tagheuer, ทวิตเตอร์: @TAGHeuer, เฟซบุ๊ก: www.facebook.com/TAGHeuer
ดาวน์โหลด
ดาวน์โหลดสื่อประชาสัมพันธ์ทั้งหมดได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายที่ https://presscorner.tagheuer.com/directlogin
รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.image.net/TAGHeuerMonaco50th
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
Sonja Hagmann, International PR Manager
โทร. +41 32 919 81 52
มือถือ: +41 79 898 54 73
อีเมล: sonja.hagmann@tagheuer.com
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/892782/TAG_Heuer_Max_Verstappen.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/892783/TAG_Heuer_50th_Anniversary_Dinner.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/892784/TAG_Heuer_Bella_Hadid.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/892785/TAG_Heuer_Winnie_Harlow_Jourdan_Dunn.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/892817/MONACO__Logo.jpg