ปักกิ่ง--30 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
งานแสดงสินค้าในภาคบริการ 2019 China International Fair for Trade in Services (CIFTIS) เปิดฉากขึ้นเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ กรุงปักกิ่ง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนและความร่วมมือระดับสูงด้านการค้าบริการระหว่างประเทศ
งาน CIFTIS เดิมชื่อว่า China (Beijing) International Fair for Trade in Services แต่ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ในปีนี้ ขณะเดียวกันยังได้รวมงานนิทรรศการที่มีชื่อเสียงอีกหลายแห่งเข้ามาไว้ด้วยกัน
CIFTIS จัดตั้งขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนการบริการด้านการเงิน บริการด้านการสื่อสาร บริการด้านวัฒนธรรม บริการด้านกฎหมาย ผ่านเวทีการเจรจาการค้าและการประชุมย่อยเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบริการ
นับตั้งแต่ปี 2012 งาน CIFTIS ได้ดึงดูดผู้ค้ารวม 646,000 ราย จาก 179 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งรวมถึงทุกประเทศและภูมิภาคชั้นนำ 20 อันดับแรกในด้านการค้าบริการระหว่างประเทศ
ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป งาน CIFTIS ได้เปลี่ยนรูปแบบการจัดงานจากสองปีครั้งเป็นหนึ่งปีครั้ง โดยมีสถาบันจีนและต่างประเทศประมาณ 8,000 แห่ง ตัวแทนธุรกิจมากกว่า 36,000 ราย ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการกว่า 300 คนเข้าร่วมงาน
ปริมาณการนำเข้าและการส่งออกด้านการค้าบริการของจีนรั้งอันดับ 2 ของโลกมาเป็นเวลา 5 ปีติดต่อกัน คิดเป็นสัดส่วนการค้าระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยคุณภาพและโครงสร้างที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ประกอบกับผลิตภัณฑ์ด้านบริการบนฐานความรู้ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนาย Jin Xu ประธานสมาคมการค้าระหว่างประเทศของจีนในกรุงปักกิ่ง แสดงความเห็นว่า ด้วยแพลตฟอร์มที่กว้างขวางของงาน จึงคาดว่า CIFTIS จะเปิดประตูใหม่ด้านการค้าบริการให้กับจีนเพื่อเข้าสู่ตลาดขนาดใหญ่
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งได้เดินหน้าเปิดอุตสาหกรรมการค้าบริการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับการเติบโตของงาน CIFTIS โดยในปี 2015 คณะรัฐมนตรีจีนได้อนุมัติอย่างเป็นทางการให้กรุงปักกิ่งเป็นเมืองนำร่องเพียงแห่งเดียวที่ครอบคลุมการขยายและการเปิดกว้างสำหรับอุตสาหกรรมด้านการค้าการบริการในประเทศจีน ซึ่งสร้างโอกาสใหม่ ๆ แก่ผู้ประกอบการในประเทศ รวมทั้งบริษัททุนต่างชาติที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้
บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระหว่างประเทศ เช่น Moody's, S&P และ Fitch ต่างจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นในกรุงปักกิ่ง ขณะที่ UBS Securities Co. Limited ซึ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์แห่งแรกของจีนที่ได้รับอนุญาตให้ต่างชาติลงทุน และบริษัท Avex Group ค่ายเพลงของญี่ปุ่น ได้เข้ามาตั้งธุรกิจในปักกิ่งเช่นเดียวกัน
ในปี 2018 การค้าบริการของกรุงปักกิ่งมีมูลค่าเพิ่มคิดเป็น 81.0% ของ GDP ของเมือง เพิ่มขึ้น 3.1% จากปี 2014 และเนื่องจากกรุงปักกิ่งได้กลายเป็นเมืองนำร่องด้านการค้าการบริการ จึงมีผู้ประกอบการใหม่ถึง 640,200 รายมาจัดตั้งธุรกิจที่นี่ ซึ่ง 95.2% ในจำนวนนี้เป็นบริษัทในภาคบริการ