เซี่ยงไฮ้--19 ก.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
DNV GL เป็นหนึ่งในองค์กรรับรองมาตรฐานชั้นนำของโลกที่มีประวัติความน่าเชื่อถือยาวนานกว่า 150 ปี ปัจจุบัน DNV GL ให้บริการลูกค้าในระดับองค์กรธุรกิจกว่า 100,000 ราย ซึ่งรวมถึงบริษัทชื่อดัง อาทิ Coca Cola, Tencent, Apple, Huawei, Ferrari และ Haier โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา องค์กรรับรองมาตรฐานระดับโลกแห่งนี้ดำเนินการอย่างจริงจังในการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ยุคดิจิทัล ทั้งที่ DNV GL Global และ DNV GL China และได้ค้นพบศักยภาพของเทคโนโลยีบล็อกเชนในการเพิ่มความโปร่งใส ความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับ และการเสริมสร้างประสิทธิภาพให้กับโซลูชั่นการตรวจสอบต่าง ๆ ที่ DNG GL มีอยู่ในปัจจุบัน
ขณะที่ VeChain เป็นบริษัทผู้ให้บริการเทคโนโลยีบล็อกเชนชั้นนำของโลก และเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนสาธารณะระดับองค์กรธุรกิจไปใช้กับอุตสาหกรรมอื่นที่นอกเหนือจากฟินเทค โดยบริษัทได้จับมือกับ DNV GL เพื่อร่วมกันพัฒนาโซลูชั่นธุรกิจที่ทำงานบนบล็อกเชน โดยใช้ VeChainThor Blockchain เพื่ออำนวยความสะดวกในการพลิกโฉมองค์กรสู่ยุคดิจิทัลแบบทุกขั้นตอน
เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 ทั้งสองฝ่ายได้ประกาศการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์โดยมีเป้าหมายร่วมกันเบื้องต้นคือ การรวมองค์ความรู้ของ DNV GL ในด้านการรับประกันคุณภาพ เข้ากับเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ก้าวล้ำของ VeChain เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการควบคุมสินค้าและบริการให้แก่ลูกค้า รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่า
นับตั้งแต่นั้นมา VeChain และ DNV GL ได้เริ่มต้นการเดินทางที่น่าตื่นเต้นในการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเชิงพาณิชย์อย่างแพร่หลาย โดยไม่จำกัดเฉพาะซัพพลายเชน ทั้งยังประสบความสำเร็จในการเปิดตัวโซลูชั่นบนบล็อกเชนหลายรายการ อาทิ My Story(TM) และ Digital Carbon Ecosystem ตลอดจนขยายการใช้งานเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้าสู่อุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม (F&B) สินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) สินค้าหรูหรา ยานยนต์ บริการสุขภาพ และอีกมากมาย ทั้งสองฝ่ายได้สร้างแบบจำลองที่ยอดเยี่ยมที่แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถสนับสนุนการรับประกันธุรกิจได้อย่างไร โซลูชั่นที่พัฒนาร่วมกันดังกล่าวช่วยเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ลูกค้าองค์กรแบบดั้งเดิมของ DNV GL ขณะเดียวกันก็ได้สร้างคุณค่าใหม่ ซึ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดให้แก่ทั้งสองฝ่ายได้เป็นอย่างมาก
สำหรับโซลูชั่น My Story(TM) นั้น ได้มีการผนวกรวม VeChain ToolChain ซึ่งเป็นพอร์ทัลสำหรับนักพัฒนา เพื่อรวบรวมข้อมูลทุกประเภททั้งการผลิต โลจิสติกส์ และค้าปลีก โดยข้อมูลที่เก็บรวบรวมมานั้นได้รับการตรวจสอบจาก DNV GL และถูกอัพโหลดขึ้นบน VeChainThor Blockchain เพื่อรับรองความถูกต้องและความน่าเชื่อถือ ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน ข้อมูลดังกล่าวจึงสามารถนำไปใช้ร่วมกันได้อย่างราบรื่นในกลุ่มผู้ผลิตและผู้บริโภค จึงช่วยแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมกันของข้อมูล และฟื้นคืนความไว้วางใจจากลูกค้าได้
ในกรณีของ Digital Carbon Ecosystem นั้น ได้มีการฝังสมาร์ทคอนแทรคของ VeChain ลงไปในแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่ DNV GL ได้ร่วมออกแบบกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม ซึ่งสมาร์ทคอนแทรคเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการคำนวณการลดคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า โดยองค์กรที่ลดคาร์บอนไดออกไซด์จะได้รับการตอบแทนด้วยคาร์บอนเครดิตตามความเหมาะสม ซึ่งสามารถนำไปใช้แลกสินค้าและบริการได้ ด้วยวิธีการนี้ จึงก่อให้เกิดเครือข่ายที่ประกอบไปด้วยองค์กรธุรกิจที่มีการเชื่อมโยงกันในแง่ของคุณค่า และผู้มีส่วนร่วมอื่น ๆ ภายในอีโคซิสเต็ม
สำหรับเทคโนโลยีเกิดใหม่ที่ยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้นอย่างบล็อกเชน นี่คือเวลาที่ดีที่สุด เนื่องจากขณะนี้ องค์กรธุรกิจและผู้คนทั่วโลกมีความตระหนักรู้มากขึ้นถึงความสำคัญของความปลอดภัยด้านอาหาร การต่อต้านการปลอมแปลง ความสามารถในการตรวจสอบย้อนหลัง และความยั่งยืน แต่บรรดายักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมยังไม่สามารถหาโซลูชั่นที่เชื่อถือได้มารองรับ อย่างไรก็ดี ด้วยโซลูชั่นที่ทำงานบน VeChainThor Blockchain ทาง DNV GL และ VeChain จะทำหน้าที่เป็นผู้นำตลาดเพื่อร่วมกันการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างโดดเด่นและไว้ใจได้แน่นอน
เราขอขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่ DNV GL ได้ดำเนินการเพื่อส่งเสริมการใช้โซลูชั่นบน VeChainThor Blockchain ตลอดจนให้การสนับสนุนการใช้งานที่หลากหลายในอุตสาหกรรมต่าง ๆ VeChain จะทำงานร่วมกับ DNV GL อย่างใกล้ชิดต่อไปในอนาคต เพื่อเร่งผลักดันการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัล และเพื่อการเป็นที่ยอมรับในวงกว้างขึ้นจากอุตสาหกรรมกระแสหลัก ควบคู่ไปกับการสำรวจรูปแบบการใช้งานใหม่ ๆ
เกี่ยวกับ VeChain
VeChain เปิดตัวในเดือนมิถุนายน 2558 เพื่อเชื่อมโยงเทคโนโลยีบล็อกเชนกับโลกแห่งความเป็นจริง ด้วยการวางโครงสร้างการบริหารครบวงจร โมเดลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และการบูรณาการ IoT ทั้งนี้ VeChain เป็นผู้บุกเบิกการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนสาธารณะในโลกแห่งความเป็นจริง และมีการดำเนินงานทั่วโลก ทั้งในสิงคโปร์ ลักเซมเบิร์ก โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ปารีส ฮ่องกง และซานฟรานซิสโก
ความร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง PwC และ DNV GL ทำให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์กับองค์กรชั้นนำมากมายในหลายหลากอุตสาหกรรม อาทิ Walmart China, BMW, BYD Auto, Haier, Bright Food, D.I.G, DB Schenker และ PICC เป็นต้น
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ VeChain สามารถติดตามได้ทางทวิตเตอร์ @vechainofficial หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.vechain.com/
วิดีโอ - https://www.youtube.com/watch?v=Y-h-8Xoj5rs
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/738233/Vechain_Logo.jpg