วาดุซ--30 ส.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
LGT กลุ่มธุรกิจบริการด้านไพรเวทแบงก์และการลงทุนทรัพย์สินของราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์รายงานผลกำไรของกลุ่มที่ 155.6 ล้านฟรังก์สวิส และฐานลูกค้าที่เติบโตขึ้นในครึ่งปีแรกของปี 2562 ผลประกอบการชี้ให้เห็นถึงรายได้เฉลี่ยทั้งปีที่เติบโตอย่างเข้มแข็งและการเดินหน้าลงทุนของ LGT เพื่อขยายธุรกิจในตลาดต่างๆ ถึงแม้ในช่วงต้นของปีที่ตลาดการลงทุนโดยรวมยังซบเซา สินทรัพย์ใหม่ภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจที่ 5,800 ล้านฟรังก์สวิส นับเป็นการเติบโตเฉลี่ยรายปีร้อยละ 6 และเมื่อเทียบกับปลายปี 2561 นับเป็นการเพิ่มของมูลค่าสินทรัพย์โดยรวมภายใต้การบริหารร้อยละ 8 มาอยู่ที่ 215,000ล้าน ฟรังก์สวิส LGT มีความมั่นใจว่าจะยังคงเติบโตด้วยผลกำไรในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562
หลังจากเริ่มต้นปี 2562 ด้วยสถานการณ์ตลาดที่ซบเซาจากความไม่แน่นอนของการลงทุนโดยรวมและปริมาณธุรกรรมของลูกค้าที่ปรับตัวน้อยลงในต้นปี LGT กลับมารายงานการเติบโตของรายได้ที่เข้มแข็งจากฐานธุรกิจที่หลากหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี กลุ่มธุรกิจบริการด้านไพรเวทแบงก์และการบริหารสินทรัพย์ได้ลงทุนเพิ่มเพื่อขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศและฐานกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยได้เปิดสำนักงานที่กรุงเทพในเดือนมีนาคม และประกาศการตกลงซื้อหุ้นใหญ่ของ Validus Wealth บริษัทบริหารสินทรัพย์สัญชาติอินเดียในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นการตอกย้ำเส้นทางการเจริญเติบโตที่ประสบความสำเร็จของ LGT
รายได้จากการดำเนินธุรกิจของ LGT เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 อยู่ที่ 848.2 ล้านฟรังก์สวิสในครึ่งแรกของปี 2562 โดยรายได้จากการบริการลดลงร้อยละ 1 มาอยู่ที่ 536.1 ล้านฟรังก์สวิสจากกิจกรรมของลูกค้าที่ซบเซาในช่วงเริ่มต้นปีและฐานของสินทรัพย์โดยเฉลี่ยที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 2561 อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการลงบัญชีซึ่งทำให้บางธุรกรรมถูกบันทึกเป็นกิจกรรมการซื้อขายจากเดิมเป็นการบริการ ทึ้งนี้รายรับดอกเบี้ยสุทธิและการสำรองจากการให้สินเชื่อคงที่ที่ 138.7 ล้านฟรังก์สวิส การเปลี่ยนแปลงทางบัญชีที่ได้กล่าวมาข้างต้นทำให้รายได้จากธุรกรรมการซื้อขายและการดำเนินการด้านอื่นๆเพิ่มขึ้นร้อยละ 16 มาอยู่ที่ 173.4 ล้านฟรังก์สวิส
ค่าใช้จ่ายรวมจากการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ที่ 616.1 ล้านฟรังก์สวิสในครึ่งแรกของปี 2562 ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 ที่ 482.2 ล้านฟรังก์สวิส โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนบุคลากรร้อยละ 4 จากการลงทุนอย่างต่อเนื่องในธุรกิจเกี่ยวกับการบริการลูกค้า ในทางตรงกันข้ามค่าใช้จ่ายด้านธุรกิจและสำนักงานลดลงร้อยละ 10 ที่ 133.9 ล้านฟรังก์สวิส เนื่องจากเงินค่าเช่าบางรายการถูกบันทึกเป็นค่าตัดจำหน่ายตามมาตรฐานการบัญชี IFRS 16 ทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่าย และประมาณการหนี้สินดังกล่าว
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมอยู่ที่ร้อยละ 74.0 ณ. สิ้นปี 2561 เทียบกับร้อยละ 72.6 ณ. สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 กำไรรวมของกลุ่มอยู่ที่ 155.6 ล้านฟรังก์สวิส ใน 6 เดือนแรกของปี 2562 เทียบกับ 174.8 ล้านฟรังก์สวิส หรือติดลบร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
LGT มีเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่ร้อยละ 20.3 ณ. สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 และมีสภาพคล่องสูง
สินทรัพย์ใหม่เพิ่มขึ้นบนฐานที่ครอบคลุม
LGT รายงานการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ไหลเข้าอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งหนึ่งในครึ่งแรกของปี 2562 ที่ 5,800ล้าน ฟรังก์สวิส ซึ่งนับเป็นการเติบโตเฉลี่ยรายปีที่ร้อยละ 6 มาจากผลการดำเนินงานที่เติบโตของทุกภูมิภาคและทั้งสองธุรกิจหลักของกลุ่มที่มีการเพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ไหลเข้าเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง
ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2562 สินทรัพย์รวมภายใต้การบริหารอยู่ที่ 215,000ล้านฟรังก์สวิส นับเป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเที่ยบกับสิ้นปีก่อนหน้า เนื่องจากสินทรัพย์ใหม่ภายใต้การบริหารที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการจากภาวะตลาดที่ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น
กลยุทธ์และแนวโน้ม
LGT มั่นใจว่าด้วยธุรกิจที่ให้บริการในระดับนานาชาติ และสถานะการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในหลายตลาดและครอบคลุมสินทรัพย์ที่หลากหลาย จะทำให้ธนาคารจะยังคงเติบโตและสร้างผลกำไรต่อไปในปี 2562 ทั้งยังจะเดินหน้าลงทุนในธุรกิจของตนต่อเนื่องอย่างระมัดระวัง
เจ้าชายแมกซ์ ฟอน อนด์ ซู ลิกเตนสไตน์ (H.S.H. Prince Philipp von und zu Liechtenstein) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ LGT ตรัสว่า "เราปิดช่วงครึ่งแรกของปี 2562 โดยมีผลประกอบการที่ดีท่ามกลางสภาวะตลาดที่ผันผวน อันเป็นผลเนื่องมาจากความมั่นคงของเรา กลยุทธ์ระยะยาว และความเชี่ยวชาญด้านการลงทุน LGT จึงยังคงเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งสำหรับลูกค้า ดังที่เห็นได้จากการไหลเข้ามาของสินทรัพย์สุทธิที่แข็งแกร่งของเราอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เรากำลังลงทุนเพื่อขยายธุรกิจในตลาดภูมิภาคเอเชีย และเพิ่มความเชี่ยวชาญในด้านการลงทุน รวมถึงการลงทุนเพื่อสังคมอีกด้วย นอกเหนือจากนี้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายสำหรับลูกค้าและพนักงานที่มีความมุ่งมั่นของเรา เราจึงอยู่ในฐานะที่สามารถจะเดินหน้าเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเราในฐานะไพรเวทแบงก์และผู้ให้บริการธนบดีธนกิจชั้นนำระดับโลก"
เกี่ยวกับ LGT
LGT เป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำที่ดำเนินงานด้านไพรเวทแบงก์และการจัดการสินทรัพย์ในระดับนานาชาติ ซึ่งบริหารงานโดยราชวงศ์แห่งลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein Princely Family) มาเป็นเวลานานกว่า 80 ปี ตัวเลข ณ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ระบุว่า LGT จัดการสินทรัพย์มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 2.15 แสนล้านฟรังก์สวิส (2.205 แสนล้านเหรียญสหรัฐ) สำหรับลูกค้ารายบุคคลระดับมหาเศรษฐีและลูกค้าองค์กร LGT โดยมีพนักงานมากกว่า 3,500 คน ในสำนักงานมากกว่า 20 แห่งในยุโรป เอเชีย อเมริกา และตะวันออกกลาง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.lgt.com
ตัวเลขสำคัญ ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2562
. 30มิ.ย.2562 30มิ.ย. . 2561[ 1] เปลี่ยนแปลง
(ร้อยละ)
. . . .
งบการเงินรวม (ล้านฟรังก์สวิส) . . .
รายได้ดอกเบี้ยสุทธิและความสูญเสียจากการให้เครดิต 138.7 139.3 -0.4
รายได้จากการบริการ 536.1 541.8 -1.1
รายได้จากการซื้อขายและการดำเนินงานด้านอื่น 173.4 150.1 15.5
รายได้รวมจากการดำเนินงาน 848.2 831.2 2.0
ค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร 482.2 445.4 8.2
ค่าใช้จ่ายด้านธุรกิจและสำนักงาน 133.9 148.5 -9.8
ค่าใช้จ่ายรวมด้านปฏิบัติการ 616.1 593.9 3.7
ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและประมาณการหนี้สิน 60.6 39.6 53.1
ภาษีและส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 16.0 22.9 -30.4
กำไรกลุ่มบริษัท 155.6 174.8 -11.0
การไหลเข้าของสินทรัพย์สุทธิ 5.8 5.0 .
(พันล้านฟรังก์สวิส)
. . . .
. 30.06.2019 31.12.2018 .
. . . .
สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ 215.0 198.2 8.5
(พันล้านฟรังก์สวิส)
. . . .
สินทรัพย์รวม (พันล้านฟรังก์สวิส) 46.9 43.4 7.9
. . . .
เงินกองทุนของกลุ่ม (ล้านฟรังก์สวิส) 4 339 4 112 5.5
. . . .
อัตราส่วน (ร้อยละ) . . .
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวม 72.6% 74.0% .
อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 20.3% 17.6% .
อัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง 231.7% 203.3% .
. . . .
จำนวนพนักงาน 3 544 3 405 4.1
. . . .
การจัดอันดับของธนาคาร LGTโดย Aa2 / A + Aa2 / A + .
Moody's/Standard & Poor's
[1] ผลจากการใช้ IFRS 9 การจัดประเภทของตัวเลขเปรียบเทียบสำหรับครึ่งแรกของปีการเงิน 2561 นั้นแตกต่างจากตัวเลขที่เผยแพร่ล่าสุด กำไรของกลุ่มยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ความสูญเสียจากการให้เครดิตถูกบันทึกภายใต้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิและความสูญเสียจากการให้เครดิตแทนการถูกบันทึกภายใต้ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่ายและประมาณการหนี้สิน นอกจากนี้เงินปันผลจากการลงทุนในหลักทรัพย์สะท้อนถึงรายได้จากการดำเนินงานอื่น ๆ และไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิอีกต่อไป