ปานามาซิตี--17 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ไร่กาแฟ Ninety Plus จากปานามา ขายกาแฟ "เกชา" หรือ "เกอิชา" (Gesha/Geisha) สายพันธุ์ดั้งเดิม ในดูไบไปด้วยราคา 10,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดในโลก และยังทำลายสถิติเดิมของตัวเองในการประมูลเมื่อปี 2560 ที่ 5,001.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัมอีกด้วย
กาแฟเกชา (เกอิชา) สำหรับทดลอง ซึ่งพัฒนาโดย Joseph Brodsky ผู้ก่อตั้ง Ninety Plus สร้างความประทับใจอย่างมากให้กับ Ibrahim Al Mallouhi ผู้ประกอบชาวยูเออีและผู้ก่อตั้ง The Espresso Lab จนถึงขั้นโน้มน้าวให้ Brodsky ขายกาแฟบางส่วนให้เขา ซึ่งคิดเป็นราคาขายถ้วยละ 250 ดอลลาร์สหรัฐ กาแฟสายพันธุ์ดั้งเดิมดังกล่าวใช้วิธีการเพาะปลูกที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด และใช้ยีสต์สายพันธุ์ท้องถิ่นในระหว่างการหมักแบบหลายขั้นตอน
กาแฟของ Ninety Plus คว้ารางวัลจากการแข่งขัน World Brewers Cup มาแล้วถึง 5 ครั้ง และได้รับคะแนนรีวิวมากกว่าไร่กาแฟทุกแห่งในโลกถึง 97 จุด ดังคำกล่าวของ Al Mallouhi ที่ว่า ต้นแบบกาแฟเหล่านี้ "เป็นกุญแจสำคัญของผลิตภัณฑ์จริงในอนาคต และเป็นตัวแทนของรสชาติใหม่อย่างแท้จริง"
Joseph Brodsky ก่อตั้ง Ninety Plus ขึ้นในปีพ.ศ. 2549 และย้ายไปเอธิโอเปีย ที่ซึ่งเขาได้สรรสร้างรูปแบบใหม่ของการผลิตและแปรรูปร่วมกับผู้ผลิตในท้องถิ่น กาแฟเหล่านี้กลายเป็นกาแฟที่มีราคาสูงที่สุดในโลกอย่างรวดเร็ว จากนั้น เขาได้นำวิธีการเหล่านี้ไปใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมมากขึ้นในเมืองโวลแคน จังหวัดชิริกี ประเทศปานามา ซึ่งเป็นที่ตั้งของการระเบิดครั้งสุดท้ายของภูเขาไฟบารู ก่อนที่จะเริ่มต้นพัฒนาสายพันธุ์กาแฟเอธิโอเปีย เกชา (Ethiopia Gesha) ในเวลาต่อมา
งานของ Brodsky ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในปานามา ซึ่งได้รับการยอมรับอยู่แล้วว่าเป็นพื้นที่เพาะปลูกกาแฟ (coffee terroir) ชั้นนำของโลก โดยกาแฟ Boquete ถูกขายไปในราคา 2,263 ดอลลาร์สหรัฐต่อกิโลกรัมในการประมูลเมื่อเดือนกรกฎาคม ผู้ผลิตกาแฟที่มีความคิดก้าวหน้าของปานามาได้ร่วมงานกับ Brodsky ในการเดินหน้าพัฒนาแนวทางปฏิบัติทีดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การรับรู้ทางประสาทสัมผัสไปสู่ระดับใหม่ โดยหนึ่งในนักคิดหัวก้าวหน้าคือ Guillermo de Saint Malo Eleta ซีอีโอของกองทุน ELETA ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์รายใหม่ของ Brodsky โดย ELETA ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตกาแฟด้วยนั้น มองเห็นโอกาสในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนสำหรับกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของปานามา "ความร่วมมือของเราสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมความร่วมมือในหมู่ผู้ผลิตกาแฟปานามาทั้งหมด เพื่อสร้างความยุติธรรมทางสังคมและความยั่งยื่นทางสิ่งแวดล้อมในห่วงโซ่คุณค่า"
นอกจากนี้ Ninety Plus ยังได้คิดค้นรูปแบบการปลูกป่าซึ่งทำให้สามารถปลูกกาแฟภายใต้ร่มเงา โดยมีกลุ่มชนพื้นเมือง Ngaebes (คนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในปานามาตะวันตก) เป็นกลุ่มผู้ปลูกที่ได้รับค่าแรงสูงสุด และยังเป็นส่วนหนึ่งของวงจรนวัตกรรมแห่งนี้ด้วย "ฟาร์มของเราให้ความรู้สึกเหมือนอุทยานสัตว์ป่า ที่มีกาแฟและคนกลมกลืนกันอยู่ในระบบนิเวศ" Brodsky กล่าว
ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลปานามาและการท่องเที่ยวแห่งปานามา เกษตรกรผู้เพาะปลูกในปานามาจึงได้พัฒนา Coffee Circuit ในลักษณะเดียวกับการท่องเที่ยวเพื่อชิมไวน์ทั่วโลก โดยมีไร่กาแฟที่เปิดให้บริการต้อนรับนักท่องเที่ยว พร้อมมอบประสบการณ์การชิมกาแฟ (cupping) ซึ่งรวมถึงไร่กาแฟ Ninety Plus ที่เปิดให้สำรองการเยี่ยมชมพร้อมไกด์นำเที่ยวเช่นกัน
Ninety Plus (R) Coffee เป็นผู้ปลูกและผู้ผลิตกาแฟสายพันธุ์เดียวจากแหล่งเพาะปลูกเดียว (single-origin, single-variety) ในปานามาและเอธิโอเปีย โดยมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ด้านรสชาติอันน่าทึ่ง ผ่านนวัตกรรมกระบวนการผลิต พร้อมด้วยหลักการชี้แนะเรื่องรสชาติ มนุษยธรรม และนิเวศวิทยา รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ninetypluscoffee.com
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/995832/Ninety_Plus_Benjamin_Tugri.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/995833/Ninety_Plus_founder.jpg