เคปคานาเวอรัล, รัฐฟลอริดา--6 ธ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ภารกิจดังกล่าวขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของ SpaceChain ในด้านเครือข่ายดาวเทียมบล็อกเชนแบบเปิด
SpaceChain ประกาศว่าเทคโนโลยีชุดฮาร์ดแวร์บล็อกเชนกำลังอยู่บนเส้นทางสู่สถานีอวกาศนานาชาติ (ISS) โดยขึ้นไปพร้อมกับจรวด SpaceX Falcon 9 ในฐานะส่วนหนึ่งของภารกิจเติมเสบียงเชิงพาณิชย์ CRS-19 ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับเป็นการสาธิตเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์บล็อกเชนบน ISS ครั้งแรก โดยจะมีการติดตั้งกับแพลตฟอร์มพาณิชย์ Nanorack บนสถานีอวกาศ ซึ่งถือเป็นการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนสู่วงโคจรอวกาศครั้งที่ 3 ของ SpaceChain ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา และเป็นการต่อยอดวิสัยทัศน์ของ SpaceChain ในการกระจายศูนย์กลางสู่วงโคจรนอกโลกสำหรับแอปพลิเคชั่นฟินเทคและธุรกิจ ภารกิจสาธิตของ ISS สามารถลุล่วงได้ผ่านทาง Nanoracks และข้อตกลง Space Act ที่ทำร่วมกับองค์การ NASA
เมื่อมีการใช้งานแล้ว เทคโนโลยีที่นำขึ้นสู่สถานีอวกาศจะแสดงให้เห็นการรับ, อนุญาต และส่งผ่านธุรกรรมบล็อกเชน, สร้างธุรกรรมแบบ "multisig" ที่ต้องใช้ลายเซ็น (อนุมัติ) มากมายเพื่อให้เสร็จสิ้น และเพิ่มความปลอดภัยของการดำเนินงาน โดยข้อมูลทั้งหมดจะมีการถ่ายทอดสัญญาณขึ้นและลงโดยตรงผ่านทางแพลตฟอร์มพาณิชย์ของ Nanorack การใช้เทคโนโลยีของ SpaceChain ได้เพิ่มศักยภาพด้านความห่างไกลและความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานอวกาศกับเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อวางรากฐานสำหรับผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ที่สร้างขึ้นบนเทคโนโลยีนี้
หลักชัยสำคัญนี้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ SpaceChain ในการแก้ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบรวมศูนย์บนภาคพื้น ขณะเดียวกันก็ช่วยเร่งพัฒนาความก้าวหน้าของเทคโนโลยี, ความร่วมมือระดับนานาชาติ และการใช้ประโยชน์จากอวกาศสำหรับธุรกิจสมัยใหม่
ก่อนหน้านี้ SpaceChain ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากองค์การอวกาศยุโรป (ESA) ภายใต้โครงการ Kick-start Activity เพื่อพัฒนาและกำหนดการใช้งานเพิ่มเติมของเทคโนโลยีบล็อกเชนดาวเทียม ซึ่งจากการเพิ่มเทคโนโลยีบนอวกาศในเครือข่ายที่มีอยู่แล้ว ธุรกิจต่างๆ จะสามารถเสริมสร้างความปลอดภัยในการรับส่งสินทรัพย์ดิจิทัลที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์และการแฮ็ก หากอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ศูนย์กลางบนพื้นโลก
"การนำเทคโนโลยีขึ้นสู่อวกาศครั้งที่ 3 นี้นับเป็นหลักชัยสำคัญ ไม่เพียงสำหรับ SpaceChain เท่านั้น แต่ยังสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจอวกาศใหม่" Zee Zheng ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ SpaceChain กล่าว "การบูรณาการอวกาศกับเทคโนโลยีบล็อกเชนทำให้เกิดความเป็นไปได้และโอกาสใหม่ๆ ซึ่งเรารู้สึกตื่นเต้นมากกับโอกาสที่จะได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ให้บริการการเงินและนักพัฒนาฟินเทค, ผู้ให้บริการ IoT, สถาบันวิจัย, และหน่วยงานด้านอวกาศในไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อเร่งกระบวนการพัฒนาภายในระบบนิเวศ"
"บล็อกเชนเป็นผู้ดิสรัปต์รายใหญ่รายถัดไปในอวกาศ" Jeff Garzik ผู้ร่วมก่อตั้งและซีทีโอของ SpaceChain กล่าว "SpaceChain พบความเสี่ยงที่เป็นอันตรายในระบบการเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลในเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโต แต่ด้วยเทคโนโลยีที่ผ่านการบูรณาการนี้ กระบวนทัศน์ใหม่ที่เคยอยู่ไกลเกินเอื้อมจะสามารถสร้างขึ้นได้จริงและเพิ่มองค์ประกอบที่น่าตื่นตาตื่นใจในเศรษฐกิจอวกาศใหม่"
SpaceChain คาดว่า การทดสอบเทคโนโลยีบนสถานีอวกาศจะเสร็จสิ้นภายในช่วงต้นปี 2020
เกี่ยวกับ SpaceChain
SpaceChain คือแพลตฟอร์มอวกาศบนชุมชนที่เชื่อมอวกาศกับเทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อสร้างเครือข่ายดาวเทียมบล็อกเชนแบบเปิดรายแรกของโลก ซึ่งเกิดขึ้นมาเมื่อปี 2560 เพื่อเปิดทางให้ผู้ใช้สามารถพัฒนาและใช้แอปพลิเคชั่นได้บนอวกาศ
เทคโนโลยีที่กระจายศูนย์กลางของ SpaceChain เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการสร้างระบบเศรษฐกิจอวกาศใหม่ ซึ่งทำให้การพัฒนาแอปพลิเคชั่นอวกาศง่ายขึ้น และทำให้อวกาศเป็นที่ที่เข้าถึงได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังสร้างนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่ง โดยแอปพลิเคชั่นแรกขององค์กรจะเป็นเทคโนโลยี multisig บนอวกาศสำหรับบริการทางการเงิน
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.spacechain.com