เซินเจิ้น จีน--29 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
- เทนเซ็นต์ คลาวด์ ติดอันดับ 4 ในภูมิภาคเอเชีย/แปซิฟิก และอันดับ 5 ทั่วโลก โดยมีการเติบโตในทั้งสองตลาดเกิน 100%
การ์ทเนอร์ (Gartner) บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำระดับโลก ออกรายงาน "ส่วนแบ่งตลาดบริการไอทีทั่วโลกประจำปี 2562" (Market Share: IT Services, Worldwide 2019) [1] เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งปรากฏว่า เทนเซ็นต์ คลาวด์ (Tencent Cloud) ติดอันดับที่ห้าทั่วโลก ด้วยอัตราการเติบโต 111% และครองอันดับที่สี่ในตลาดเอเชีย/แปซิฟิก ด้วยอัตราการเติบโต 107.3%
ในปี 2562 ตลาดการให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที (Infrastructure as a Service) ทั่วโลก ยังคงขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโต 40.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่ขนาดของตลาดโดยรวมปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 4.89 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับในตลาดทั่วโลก เทนเซ็นต์ คลาวด์ ติดอันดับหนึ่งในห้าของผู้ให้บริการ เมื่อพิจารณาจากการเติบโต โดยมีการเติบโตเกิน 100% ทั้งในเอเชีย/แปซิฟิก และตลาดโลก
รายงานงบการเงินล่าสุดของเทนเซ็นต์ ระบุว่า เทนเซ็นต์ คลาวด์ มีรายได้กว่า 2.4 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.7 หมื่นล้านหยวน) โดยมีอัตราการเติบโตสูงกว่าอัตราเฉลี่ยของตลาด ด้วยการดึงดูดลูกค้าใหม่มากกว่าหนึ่งล้านรายในปี 2562 ทั้งนี้ บริษัทขยายส่วนแบ่งตลาด และเดินหน้าขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นในหลายภาคอุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึง บริการอินเทอร์เน็ต การท่องเที่ยว บริการด้านความเป็นอยู่ และภาคการผลิต นอกเหนือไปจากการช่วยบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ในการยกระดับด้านดิจิทัล โดยอาศัยความได้เปรียบจากเทนเซ็นต์ คลาวด์ในการเชื่อมโยงผู้บริโภคเข้าด้วยกัน
ปัจจุบัน เทนเซ็นต์ คลาวด์ มีโครงสร้างพื้นฐานใน 26 พื้นที่ทางภูมิศาสตร์ ครอบคลุมห้าทวีป และมีพื้นที่ให้บริการ (availability zone) 53 แห่ง บริษัทมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ระดับ Exabyte และมี acceleration nodes จำนวน 1300 โหนดทั่วโลก
ปีที่ผ่านมา เทนเซ็นต์ คลาวด์ ประสบความสำเร็จหลายด้านดังเช่นที่สะท้อนในตัวชี้วัดหลัก ๆ โดยในเดือนพฤษภาคม 2562 เทนเซ็นต์ ก้าวขึ้นเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของจีน และอันดับห้าของโลกที่มีเซิร์ฟเวอร์มากกว่า 1 ล้านเครื่อง และเป็นบริษัทอันดับหนึ่งของจีนที่มีความกว้างสูงสุดในการรับ-ส่งข้อมูล (peak bandwidth) แตะ 100 ล้านล้านไบต์
[1] ที่มา: Gartner, Market Share: IT Services, Worldwide 2019, Dean Blackmore et al., 13 April 2020