จาการ์ตา อินโดนีเซีย--26 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
กองทุนใหม่นี้จะเป็นกองทุนที่ 8 ของ East Ventures ขณะที่บริษัทยังมีความหวังในเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน และคาดการณ์ว่าบรรดาบริษัทสตาร์ทอัพจะเข้ามาเปลี่ยนภูมิทัศน์ในอาเซียนหลังยุคล็อกดาวน์ให้ดีขึ้น
สรุปข้อมูลสำคัญ:
- East Ventures นักลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยีที่ทรงพลังที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปิดการระดมทุนระดับ Seed Fund ครั้งล่าสุด เพื่อนำเงินไปสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในยุคหลังโควิด-19
- กองทุนใหม่นี้จะเป็นการลงทุนด้านเทคโนโลยีครั้งที่ 8 ของ East Ventures โดยบริษัทตั้งเป้าระดมทุน 88 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากบรรดาหุ้นส่วนจำกัด
- เงินทุนดังกล่าวรวบรวมมาจากนักลงทุนสถาบัน กองทุนระดับโลก และสำนักงานดูแลทรัพย์สินครอบครัว
- East Ventures เพิ่งได้รับการยกย่องให้เป็นกองทุนร่วมลงทุนที่มีผลงานเสมอต้นเสมอปลายมากที่สุดในโลกโดย Preqin
- นอกเหนือจากการให้เงินทุนสนับสนุนสตาร์ทอัพรายใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว East Ventures ยังทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัทที่เคยให้การสนับสนุนมาก่อนหน้านี้ พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับความเป็นผู้นำในภาวะสงคราม
East Ventures นักลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพเทคโนโลยีที่ทรงพลังที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบความสำเร็จในการปิดการระดมทุนระดับ Seed Fund โดยมีเป้าหมายในการสนับสนุนบริษัทดิจิทัลที่กำลังฟื้นตัวหลังการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19
กองทุนดังกล่าวเป็นกองทุนที่ 8 ของ East Ventures โดยบริษัทตั้งเป้าระดมทุนจากบรรดาหุ้นส่วนจำกัดให้ได้สูงสุดไม่เกิน 88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การที่ทั่วโลกอยู่ในภาวะชะลอตัวอันเนื่องมาจากโควิด-19 ส่งผลให้บริษัทต่าง ๆ ในภูมิภาคต่างต้องดิ้นรนเพื่อให้อยู่รอด ขณะที่ชีวิตของผู้คนก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ผู้ประกอบการในท้องถิ่นถูกบีบให้เปลี่ยนวิธีดำเนินธุรกิจ ทำความเข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นจริง ๆ และเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตโดยลดการสัมผัส ด้วยเหตุนี้ หลายบริษัทจึงก้าวกระโดดในการพลิกโฉมธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล โดยก้าวข้ามกระบวนการเปลี่ยนผ่านซึ่งปกติต้องใช้เวลานานหลายปี
กองทุนล่าสุดของ East Ventures ดึงดูดนักลงทุนสถาบันทั้งในภูมิภาคและทั่วโลก
Tow Heng Tan ซีอีโอของ Pavilion Capital กล่าวว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้สานต่อความร่วมมือกับ East Ventures ซึ่งเป็นบริษัทที่พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ดำเนินธุรกิจอย่างเต็มศักยภาพ”
Sunil Mishra หุ้นส่วนของ Adams Street Partners กล่าวเสริมว่า “Adams Street ยินดีที่ได้ร่วมลงทุนในกองทุนใหม่ของ East Ventures เรารู้สึกประทับใจกับผลงานของทีมงาน ชื่อเสียงในตลาด และความสามารถในการร่วมงานกับบรรดาผู้ก่อตั้งบริษัทรุ่นใหม่ เพื่อช่วยเหลือและผลักดันให้พวกเขาสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างเป็นกอบเป็นกำต่อไป”
วิกฤตก่อให้เกิดความชัดเจน
ทีมผู้บริหารของ East Ventures เชื่อว่า เงื่อนไขใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นทั่วโลกอันเป็นผลมาจากโควิด-19 ทำให้ผู้บริหารบริษัทสตาร์ทอัพเห็นภาพชัดขึ้นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
“การแพร่ระบาดทั่วโลกเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้คิดถึงปัญหาใหม่ ๆ และวิธีการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยี” Willson Cuaca หุ้นส่วนผู้จัดการของ East Ventures กล่าว “เรายังคงมีมุมมองบวกเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และตั้งความหวังอย่างมากกับตลาดอินโดนีเซีย เรารู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนี้ได้พิสูจน์ความเชื่อที่ว่า ผู้ก่อตั้งบริษัทที่มีความสามารถจะหาทางทำให้บริษัทเจริญรุ่งเรืองได้แม้ในช่วงเวลาวิกฤต และกาลเวลาจะพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ของคน”
คุณ Cuaca กล่าวเสริมว่า กองทุนที่ 8 ของ East Ventures จะยังคงลงทุนโดยไม่เน้นด้านใดเป็นพิเศษ เนื่องจากมีผู้ก่อตั้งบริษัทที่โดดเด่นอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม
East Ventures ระบุว่า ทีมงานตั้งใจจำกัดวงเงินของกองทุนล่าสุดให้ไม่เกิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากนำเงินไปสนับสนุนบริษัทสตาร์ทอัพได้ง่ายกว่า โดยกองทุนนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ East Ventures บรรลุเป้าหมายหลักในการเป็นสินทรัพย์ชั้นยอดสำหรับบรรดาหุ้นส่วนจำกัดภายในเวลาอันรวดเร็ว
หัวใจของการลงทุน
ทีมผู้บริหารของ East Ventures เชื่อว่า เป้าหมายหลักของการลงทุนในระยะเริ่มต้นคือการหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาดให้เร็วที่สุด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำงานร่วมกับผู้ก่อตั้งบริษัทเพื่อจับทิศทางตลาดและขจัดอคติต่าง ๆ
การมีทีมงานเต็มรูปแบบในหลายเมืองและมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในตลาดสิงคโปร์และอินโดนีเซีย ทำให้ East Ventures สามารถลดอคติทางวัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสตาร์ทอัพในสิงคโปร์ที่กำลังหาทางขยายธุรกิจไปยังอินโดนีเซีย นอกจากนั้นยังเป็นประโยชน์ต่อสตาร์ทอัพในอินโดนีเซียที่ต้องการใช้แนวทางสากลเพื่อครองตลาดในประเทศ
หลักการเดียวกันนี้ยังสามารถนำไปปรับใช้นอกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตลอด 11 ปีที่ผ่านมา East Ventures ได้สร้างแนวทางและองค์ความรู้สู่ความสำเร็จในการลงทุนด้านเทคโนโลยี ซึ่งต่อยอดมาจากองค์ความรู้ในอินโดนีเซีย หนึ่งในตลาดเกิดใหม่ที่มีความก้าวหน้าด้านนวัตกรรมดิจิทัลมากที่สุด
East Ventures พัฒนาทฤษฎีที่ว่า อินโดนีเซียมี “Flywheel Effect” โดยบริษัททำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้มีส่วนได้เสียทุกราย ทั้งผู้เล่นในอุตสาหกรรมท้องถิ่น สำนักงานดูแลทรัพย์สินครอบครัว ผู้ประกอบการ สตาร์ทอัพ และบริษัทที่เติบโตเต็มที่แล้ว เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อนที่ไร้แรงเสียดทาน โดยได้สร้างวงจรชีวิตสตาร์ทอัพครบวงจรตั้งแต่การลงทุนในระยะเริ่มต้น การค้นหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับตลาด การสร้างมูลค่าและขยายธุรกิจ ไปจนถึงการขายกิจการและทำการลงทุนใหม่อีกครั้ง
การตอบสนองต่อโควิด-19
“เราตระหนักว่าซีอีโอส่วนใหญ่ไม่เคยประสบกับวิกฤตมาก่อน” คุณ Cuaca กล่าว “ด้วยเหตุนี้ เราจึงทำการตรวจสุขภาพบริษัทที่เราให้การสนับสนุน และแทนที่จะแนะนำแผนธุรกิจทันที เราตัดสินใจพยายามช่วยให้ผู้ก่อตั้งบริษัทเข้าใจวิกฤตและความรุนแรงของผลกระทบที่มีต่อบริษัทก่อน เมื่อผู้ก่อตั้งบริษัทเข้าใจแล้วจึงเริ่มพัฒนากลยุทธ์ของตนเองและใช้งานอย่างมีชั้นเชิง ในจุดนี้ เราพยายามแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความเป็นผู้นำในภาวะสงคราม”
ตลาดยิ่งมีขนาดใหญ่ก็ยิ่งมีกำลังขับเคลื่อน
เศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตของอินโดนีเซียคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของเศรษฐกิจภูมิภาค โดยมีการเติบโตอย่างรวดเร็วจากการซื้อขายเฉพาะกลุ่มในตลาดเกม ไปสู่การซื้อขายสินค้าในชีวิตประจำวันในทุกอุตสาหกรรม
เงินร่วมลงทุนเป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างใหม่สำหรับนักลงทุนในภูมิภาค โดย East Ventures มีประวัติอันโดดเด่นในฐานะผู้บุกเบิกรายแรก ๆ และบริษัทมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทั้งยังมีส่วนช่วยให้บริษัทหลายแห่งประสบความสำเร็จในการขายกิจการ
บริษัทบางแห่งขายกิจการได้ในราคาสูงกว่าเงินลงทุนนับ 1,000 เท่า โดย East Ventures มีอัตรา Distributions to Paid-in Capital (DPI) สูงถึง 7 เท่า ตัวอย่างความสำเร็จในการขายกิจการคือ กรณีที่ Grab ซื้อกิจการ Kudo ในปี 2560 รวมถึงกรณีที่ GoJek ซื้อกิจการ Loket และ Moka POS ทั้งนี้ 2 ใน 4 ของกองทุนของ East Ventures ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเงินลงทุนของบรรดาหุ้นส่วนจำกัด
เกี่ยวกับ East Ventures
East Ventures คือนักลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ โดยก่อตั้งขึ้นในปี 2552 และให้การสนับสนุนบริษัทกว่า 170 แห่งจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ทำธุรกิจในอินโดนีเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไทย และเวียดนาม
East Ventures เป็นผู้บุกเบิกการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพอินโดนีเซีย และเป็นนักลงทุนรายแรกของบริษัทยูนิคอร์นหลายแห่ง เช่น Tokopedia และ Traveloka นอกจากนั้นยังลงทุนในบริษัทที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย เช่น Mercari, Ruangguru, Warung Pintar, Fore Coffee, Kudo (ขายกิจการให้ Grab), Loket (ขายกิจการให้ Gojek), Tech in Asia, Xendit, IDN Media, MokaPOS, ShopBack, CoHive, Koinworks, Waresix และ Sociolla
ในปี 2562 East Ventures ยังคงเป็นนักลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพที่ทรงพลังที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเมื่อไม่นานมานี้ East Ventures เพิ่งได้รับการยกย่องให้เป็นกองทุนร่วมลงทุนที่มีผลงานเสมอต้นเสมอปลายมากที่สุดในโลกโดย Preqin
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200626/2841728-1
คำบรรยายภาพ - Willson Cuaca ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการของ East Ventures