นิวยอร์ก--2 ก.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
TUMI แบรนด์กระเป๋าเดินทางและไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลก สืบสานการผลิตสินค้าคุณภาพสูงมาอย่างยาวนาน และก้าวไปอีกขั้นด้วยการปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยมุ่งลดผลกระทบที่มีต่อโลกให้เหลือน้อยที่สุด ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ทนทานและทำจากวัสดุที่ยั่งยืนคอลเลคชัน Merge ซึ่งเป็นกระเป๋าเดินทางคอลเลคชันแรกที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล รวมถึงเปิดตัวสินค้าใหม่ในคอลเลคชัน Alpha Bravo และ Devoe ซึ่งสินค้าใหม่เหล่านี้ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเลือกสิ่งที่ดีต่อโลกของเรา โดยไม่ลดทอนคุณภาพหรือความสวยงาม
"ถึงเวลาแล้วที่นักเดินทางจะได้กลับมาท่องโลกอีกครั้ง พันธกิจของเราไม่ใช่แค่การปกป้องข้าวของส่วนตัวที่มีค่าเท่านั้น แต่เราต้องปกป้องโลกที่พวกเขาเดินทางไปสัมผัสความงามด้วย" Victor Sanz ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ของ TUMI กล่าว "แบรนด์ TUMI มีความทันสมัยเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว และเราเลือกที่จะมีความยั่งยืนควบคู่ไปด้วย ด้วยเหตุนี้ เราจึงมุ่งมั่นออกแบบสินค้าและกระบวนการผลิตที่ทันสมัยเพื่อปกป้องโลกของเรา พร้อมกับรับประกันว่าคนของเราได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพและความเอาใจใส่อย่างดี"
TUMI มุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น จึงริเริ่มโครงการที่ตอกย้ำความสำคัญของความยั่งยืนในทุกแง่มุมของธุรกิจ โดยให้ความสำคัญในด้านต่าง ๆ ดังนี้
- การพัฒนาผลิตภัณฑ์: ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ทนทานและทำจากวัสดุรีไซเคิล โดยมีการนำขวดพลาสติกกว่า 980,000 ขวดมาผลิตสินค้า
- การลดคาร์บอน: ดำเนินการเพื่อลดอัตราการปล่อยคาร์บอนให้ได้ 15% และเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ภายในปี 2025
- การยกระดับห่วงโซ่อุปทาน: ซัพพลายเออร์ทุกรายต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของ TUMI ในส่วนของการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรม
- การให้ความสำคัญกับบุคลากร: สร้างสภาพการทำงานที่ปลอดภัยให้แก่ทีมงานทั่วโลก รวมทั้งมอบโอกาส วัฒนธรรมองค์กร และการสนับสนุนอย่างดีที่สุด โดยมีแนวคิดการยอมรับความหลากหลายและความแตกต่าง (Diversity & Inclusion) เป็นเสาหลักของความยั่งยืนของแบรนด์
TUMI ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงเพราะบุคลากร โดยความรักและความทุ่มเททำให้บุคลากรทุกคนเป็นสมบัติล้ำค่าของแบรนด์ และในฐานะธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับบุคลากร TUMI มอบโอกาสมากมายให้แก่บุคลากรทุกคน ผ่านการลงทุนเพื่อความสำเร็จของทุกคน และสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนทั้งใกล้และไกลยังเป็นส่วนสำคัญของความพยายามในการสร้างความยั่งยืน โดย TUMI ได้ทำงานร่วมกับองค์กรการกุศลต่าง ๆ เพื่อทำให้เส้นทางที่ยากลำบากนำไปสู่ที่ที่ดีกว่าเดิม เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืนและถาวรทั่วโลก
"เรายังคงเดินทางอย่างต่อเนื่อง เราเดินหน้าขยายธุรกิจและสร้างความมั่นใจว่าเราทำงานด้วยความซื่อตรงในทุกย่างก้าว" Jean DeCicco ผู้จัดการทั่วไปของ TUMI North America กล่าว "ผมทำงานกับบริษัทมานานกว่า 10 ปี และได้เห็นพัฒนาการที่ดีของบริษัทด้วยตัวเอง ผมยินดีที่ได้นำพาบริษัทก้าวไปข้างหน้าด้วยการกระทำที่มีเป้าหมายชัดเจน ในฐานะแบรนด์ นอกจากต้องรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์ที่เราวางขายแล้ว ที่สำคัญที่สุด เรายังต้องรับผิดชอบต่อบุคลากรของเราและต่อโลกของเราด้วย"
ความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืนของ TUMI ฝังอยู่ในดีเอ็นเอของแบรนด์มาตั้งแต่เริ่มต้น ทางแบรนด์ให้ความสำคัญตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์แม้หลังวางขายแล้ว เพราะความยั่งยืนไม่ได้หยุดอยู่แค่การใช้วัสดุรีไซเคิลเท่านั้น และเนื่องจากคุณค่ามีความสำคัญมากกว่าที่เคย TUMI จึงตั้งใจออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สามารถซ่อมแซมได้ เพื่อสร้างสรรค์กระเป๋าที่สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น นอกจากนี้ เครือข่ายซ่อมแซมกระเป๋าที่ครอบคลุมทั่วโลกยังช่วยสร้างความมั่นใจว่ากระเป๋า TUMI จะใช้งานได้ยาวนาน ซึ่งจะช่วยลดขยะในที่สุด
"เราออกแบบและทดสอบวัสดุทั้งหมดเพื่อรับประกันความทนทาน และมุ่งมั่นรักษาคุณภาพในระดับสูงสุด" Christine Riley Miller ผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืน กล่าว "เพื่อความยั่งยืน TUMI จะเดินหน้าเปลี่ยนแปลงธุรกิจในทุกแง่มุม เพื่อลดผลกระทบที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขวด PET รีไซเคิลที่เรานำมาใช้ผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวดทั้ง 30 ขั้นตอน ช่วยให้เราได้ใช้วัสดุที่รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมโดยไม่ลดทอนคุณภาพ และยังคงยึดมั่นในการปกป้องโลกที่สวยงามน่าท่องเที่ยวของเรา"
ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน
กระเป๋าคอลเลคชันใหม่ Merge ที่ทนทานและมีน้ำหนักเบา รวมถึงกระเป๋าบางรุ่นในคอลเลคชัน Alpha Bravo ที่เรียบหรูและทนทาน และคอลเลคชัน Devoe ที่ออกแบบอย่างประณีต ต่างใช้วัสดุที่สะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์และมอบชีวิตใหม่ให้กับพลาสติกซึ่งไม่เป็นที่ต้องการ โดยผลิตภัณฑ์ TUMI ประจำซีซั่น Spring 2020 ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล ช่วยลดขวดพลาสติกกว่า 395,000 ขวด
กระเป๋าคอลเลคชัน Merge ใช้ผ้าซับในทำจากขวด PET รีไซเคิล ทำให้ไม่กลายเป็นขยะ ส่วนผ้าของตัวกระเป๋าด้านนอกทำจากไนลอน ซึ่งมาจากพลาสติกที่จะกลายเป็นขยะเช่นกันหากไม่ได้นำมาแปรรูปเป็นเส้นใยที่ทนทานเหมาะสำหรับการเดินทางในยุคปัจจุบัน ขณะที่กระเป๋าคอลเลคชัน Alpha Bravo และ Devoe ใช้ไนลอนรีไซเคิลจากอุตสาหกรรมในการทำผ้าของตัวกระเป๋า และใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิลทำผ้าซับใน
Merge กระเป๋าเดินทางเพื่อความยั่งยืนคอลเลคชันแรกของ TUMI
- ผ้ากระเป๋า: ไนลอนรีไซเคิลจากอุตสาหกรรม
- ผ้าซับใน: ขวด PET รีไซเคิลจากการบริโภค
- จำนวนขวดที่ใช้ในการผลิตเบื้องต้น: 214,000 ขวด
Alpha Bravo รุ่นพิเศษทำจากวัสดุรีไซเคิล
- ผ้ากระเป๋า: ไนลอนรีไซเคิลจากอุตสาหกรรม
- ผ้าซับใน: ขวด PET รีไซเคิลจากการบริโภค
- จำนวนขวดที่ใช้ในการผลิตเบื้องต้น: 172,800 ขวด
Devoe รุ่นพิเศษทำจากวัสดุรีไซเคิล
- ผ้ากระเป๋า: ไนลอนรีไซเคิลจากอุตสาหกรรม
- ผ้าซับใน: ขวด PET รีไซเคิลจากการบริโภค
- จำนวนขวดที่ใช้ในการผลิตเบื้องต้น: 8,600 ขวด
เกี่ยวกับ TUMI
นับตั้งแต่ปี 1975 TUMI ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์กระเป๋าหลากหลายดีไซน์สำหรับการเดินทางเชิงธุรกิจและท่องเที่ยว โดยเน้นงานออกแบบที่ช่วยให้ทุกรายละเอียดของการเดินทางง่ายขึ้นและเปี่ยมด้วยรสนิยม ผสานฟังก์ชั่นการใช้งานอันชาญฉลาด เข้ากับจิตวิญญาณของความแคล่วคล่อง TUMI ปรารถนาที่จะเป็นเพื่อนเดินทางของทุกคนที่ออกแสวงหาและเติมเต็มความฝัน ผลิตภัณฑ์ของเราวางจำหน่าย ณ จุดจำหน่ายกว่า 2,000 แห่ง ในกว่า 75 ประเทศทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.TUMI.com
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/214382/tumi_logo.jpg