สิงคโปร์--7 ส.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ขยายระบบนิเวศอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนลูกค้าและพาร์ทเนอร์
งาน Huawei APAC Enterprise Digitalization Summit ปิดฉากลงอย่างประสบความสำเร็จ โดยที่ HUAWEI CLOUD เดินหน้าสนับสนุนองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกอีกครั้ง เพื่อรองรับการทรานส์ฟอร์มทางดิจิทัลที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นในหัวข้อ “Digital Transformation Leading to Adaptive Enterprises” โดยได้สร้างแรงบันดาลใจให้ธุรกิจต่าง ๆ ในภูมิภาคทบทวนกลยุทธ์ใหม่ เพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางเทคโนโลยีในการคว้าโอกาสทางเศรษฐกิจที่มากมายท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง
ข้อมูลจาก IDC Worldwide Semiannual Digital Transformation Spending Guide ระบุว่า ในปี 2019 มีเม็ดเงินทั้งหมด 3.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐที่ใช้จ่ายไปกับเทคโนโลยีและบริการ เพื่อสนับสนุนการทรานส์ฟอร์มทางดิจิทัลในแนวปฏิบัติทางธุรกิจ ผลิตภัณฑ์ และองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยอัตราการเติบโตรายปีที่ 17.4% ภายในปี 2022 สิ่งนี้สะท้อนโอกาสทางธุรกิจที่ใหญ่โต ซึ่งผู้ที่ปรับตัวได้ตั้งแต่เริ่มแรกจะคว้าประโยชน์ได้ก่อนใคร
Sandra Ng รองประธาน IDC Group แสดงความเห็นว่า องค์กรต่าง ๆ ต้องมีความยืดหยุ่นและปรับตัวกับความท้าทายทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างหลักประกันว่าจะปฏิรูปได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้เธอยังนำเสนอวาระธุรกิจใหม่สำหรับฝ่ายบริหารของบริษัทต่าง ๆ ในภูมิภาค ได้แก่ ความจำเป็นในการสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีที่ไว้ใจได้ การประเมินประสบการณ์ลูกค้าใหม่ และศักยภาพในการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีใหม่และระบบอัจฉริยะ โดยเป็นการกำหนดบทบาทใหม่ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลใหม่นี้
คุณ Ng กล่าวว่า “โครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ประกอบด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัล/ไอที และเครือข่าย เป็นหนึ่งในวาระทางธุรกิจใหม่ของเหล่าซีอีโอ ในขณะที่องค์กรเร่งกระบวนการฟื้นตัวและเตรียมความพร้อมเพื่อแข่งขันในยุคความปกติใหม่”
ด้วยเหตุนี้ HUAWEI CLOUD จึงเสริมสร้างกลยุทธ์ในด้านเทคโนโลยีผ่านทางโซลูชัน AI ครบวงจรระดับท็อป รวมถึงสร้างระบบนิเวศที่ดีเพื่อมอบบริการและการสนับสนุนที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ทั่วภูมิภาค
“โซลูชัน AI ที่ครอบคลุมของ HUAWEI CLOUD มีการนำไปใช้ในระบบการผลิตระดับแกนกลาง เพื่อเร่งใช้ประโยชน์จาก AI ในสเกลใหญ่ในทุกอุตสาหกรรม” Edward Deng ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด Cloud & AI BG ของ Huawei กล่าว “โซลูชันนี้มอบทางเดินที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทรานส์ฟอร์มคลาวด์ขององค์กรขนาดใหญ่”
การทรานส์ฟอร์มกลายเป็นเรื่องที่เด่นชัดมากขึ้นนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดในช่วงต้นปี 2020 คุณ Deng เชื่อว่า บริการคลาวด์ โดยเฉพาะคลาวด์แบบไฮบริด จะมีความสำคัญในการปรับขั้นตอนดำเนินงานและตอบสนองได้ฉับไวระหว่างนั้น โดย IDC ยกให้ HUAWEI CLOUD อยู่อันดับที่ 3 ในตลาดคลาวด์ไฮบริดของเอเชียแปซิฟิก และกลายเป็นบริการคลาวด์ที่สำคัญในภูมิภาค
ความร่วมมือเป็นเรื่องที่สำคัญของบริการคลาวด์เพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีผู้ใช้และนักพัฒนา 3 ล้านคนที่ทำงานร่วมกับ HUAWEI CLOUD ซึ่งมอบโซลูชันกว่า 190 รายการที่เหมาะกับอุตสาหกรรมที่ต่างกัน โดยผลิตภัณฑ์กว่า 3,500 รายการมีวางจำหน่ายแล้วในตลาดคลาวด์ของบริษัท ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักพัฒนาและธุรกิจกว่า 3 ล้านราย นอกจากนี้ยังมีพาร์ทเนอร์ที่ปรึกษาราว 10,000 ราย และพาร์ทเนอร์เทคโนโลยี 2,000 รายทั่วโลก
หนึ่งในบรรดาลูกค้าและพาร์ทเนอร์ที่ประสบความสำเร็จคือกลุ่มบริษัท Sunway Group ของมาเลเซีย โดย Kevin Khoo ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของบริษัทดังกล่าว อธิบายว่า “คลาวด์เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์เราที่ Sunway และเราคาดหวังว่าหัวเว่ยจะช่วยเรายกระดับกลยุทธ์สู่ขั้นใหม่”
HUAWEI CLOUD พร้อมที่จะสนับสนุนพาร์ทเนอร์และลูกค้าเพิ่มเติม ผ่านการจัดตั้งระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง
คุณ Deng กล่าวว่า “เมื่อร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ของเราแล้ว HUAWEI CLOUD มุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งเพื่อความสำเร็จร่วมกัน” โดยเขาคาดหวังว่า ทีมของเขาจะได้ให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่ลูกค้าและพาร์ทเนอร์ในภูมิภาค
สำหรับอนาคตข้างหน้า คุณ Deng เชื่อว่าการทรานส์ฟอร์มทางดิจิทัลจะนำไปสู่การบรรจบกันของเทคโนโลยี 5G, คลาวด์ และ AI ด้วยการเชื่อมต่อพื้นฐานที่สนับสนุนโดยคลาวด์, 5G และอื่น ๆ การพัฒนาเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันใหม่ ๆ จะขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งในท้ายที่สุดจะนำไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่เหนือจินตนาการ
งาน Summit ครั้งนี้ได้นำผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมและผู้นำนักคิดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมารวมตัวกัน เพื่อพูดคุยกันถึงแนวทางที่เทคโนโลยี ICT จะช่วยองค์กรเร่งกระบวนการทรานส์ฟอร์มทางดิจิทัล และปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้นในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจภายนอก โดยผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียง ลูกค้า และพาร์ทเนอร์ได้แชร์ประสบการณ์และข้อมูลอินไซต์ที่โดดเด่นของพวกเขา ถึงแนวทางที่องค์กรจะสามารถใช้ประโยชน์จาก 5G, AI, คลาวด์ และเครือข่ายองค์กรได้อย่างเต็มที่ เพื่อรองรับเทรนด์การทรานส์ฟอร์มทางดิจิทัลที่หยุดไม่ได้