ปักกิ่ง--9 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
สถานีโทรทัศน์ CGTN รายงานว่า จีนได้จัดการประชุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อเชิดชูบุคคลต้นแบบที่มีส่วนในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่ลุกลามเร็วที่สุด ส่งผลกระทบในวงกว้างที่สุด และท้าทายมากที่สุดเท่าที่จีนเคยเผชิญนับแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปีพ.ศ. 2492
จง หนานซาน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจชื่อดัง ได้รับเหรียญแห่งสาธารณรัฐ (Medal of the Republic) ซึ่งเป็นเกียรติยศสูงสุดของประเทศ คุณจงเป็นผู้ค้นพบไวรัส SARS เมื่อปี 2546 และปัจจุบันเป็นผู้นำของภาครัฐในการรับมือกับโควิด-19
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์อีก 3 ท่านได้รับตำแหน่งกิตติมศักดิ์แห่งชาติ “วีรบุรุษของประชาชน” (People's Hero) ได้แก่ จาง โป๋หลี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีน ซึ่งเป็นประธานโครงการวิจัยด้านการรักษาโรคโควิด-19 แบบผสมผสานการแพทย์แผนจีนและการแพทย์แผนตะวันตก, จาง ติ้งอวี่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจินอิ๋นถาน ซึ่งรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในอู่ฮั่นโดยเฉพาะ และ เฉิน เว่ย นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ของกองทัพ ซึ่งสร้างความสำเร็จครั้งสำคัญในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนและยาป้องกันโรคโควิด-19
นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และประธานคณะกรรมาธิการทหารกลาง กล่าวหลังพิธีมอบเหรียญเกียรติยศว่า “บุคลากรทางการแพทย์เปรียบเสมือนเทวดา และเป็นที่รักมากที่สุดในยุคใหม่นี้ ชื่อและผลงานของพวกเขาจะไม่มีวันลบเลือนไปจากประเทศ ประชาชน และประวัติศาสตร์ของจีน และจะสลักอยู่บนอนุสาวรีย์ของชาติ”
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า บุคลากรทางการแพทย์หลายล้านคนเป็นแนวหน้าในการรับมือกับโควิด-19 ที่แพร่ระบาดทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ 540,000 คนในมณฑลหูเป่ยและเมืองเอกอย่างอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด
ความพยายามร่วมกันเพื่อรับมือกับความท้าทายระดับโลก
นายสี จิ้นผิง ให้คำมั่นว่าจีนจะร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก
เขาระบุว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 คือการแพร่ระบาดที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่โลกเคยเผชิญในรอบ 100 ปี พร้อมกับเน้นย้ำว่าจีนพร้อมร่วมมือต่อสู้กับโควิด-19 ทั่วโลก
เขาเน้นย้ำว่า จีนทำงานด้วยความ “เปิดกว้าง โปร่งใส และมีความรับผิดชอบ” โดยแสดงความรับผิดชอบต่อประชาคมโลกตั้งแต่เริ่มเกิดการแพร่ระบาด
เขากล่าวว่า “จีนรีบให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 แก่องค์การอนามัยโลก (WHO) รวมถึงองค์กรที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค และเปิดเผยลำดับจีโนมของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้”
นอกจากนี้ จีนยังแบ่งปันประสบการณ์ในการควบคุมการแพร่ระบาดกับประเทศต่าง ๆ รวมถึงองค์กรระดับภูมิภาคและระดับโลกมากกว่า 70 ครั้ง
นายสี จิ้นผิง ระบุว่า จีนได้ประกาศมอบเงินสนับสนุนสองครั้งรวม 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่ WHO และได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ 34 ทีมไปยัง 32 ประเทศ ทั้งยังเสนอความช่วยเหลือให้กับ 150 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศ 4 แห่ง นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 15 มีนาคม ถึง 6 กันยายน จีนได้ส่งออกหน้ากากอนามัย 1.515 แสนล้านชิ้น ชุดป้องกัน 1.4 พันล้านชุด แว่นนิรภัย 230 ล้านชิ้น เครื่องช่วยหายใจ 209,000 เครื่อง ชุดทดสอบ 470 ล้านชุด และเทอร์โมมิเตอร์อินฟราเรด 80.14 ล้านเครื่อง
เขากล่าวว่า การระบาดใหญ่แสดงให้เห็นว่า มนุษยชาติคือชุมชนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน พร้อมกับเรียกร้องให้ทั่วโลกสามัคคีและร่วมมือกันรับมือโควิด-19
เขาเน้นย้ำว่า จีนจะเดินหน้าส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการควบคุมการแพร่ระบาด รวมถึงสนับสนุน WHO ในฐานะผู้นำการต่อสู้ และร่วมสร้างชุมชนสุขภาพดีเพื่อมวลมนุษยชาติ
จีนมุ่งมั่นสร้างอนาคตที่ดีกว่าเดิม
นายสี จิ้นผิง ได้ทบทวนมาตรการที่จีนใช้รับมือโควิด-19 พร้อมกับขอให้ประชาชนทั่วประเทศร่วมแรงร่วมใจกันข้ามผ่านอุปสรรคต่าง ๆ และบรรลุเป้าหมายการพัฒนา
กว่า 7 เดือนที่ผ่านมา ชาวจีนกว่า 80,000 คนติดเชื้อโควิด-19 และมีผู้เสียชีวิตราว 4,700 ราย ตัวเลขดังกล่าวคงมากกว่านี้หากปราศจากการใช้มาตรการที่เข้มงวดในหลายระดับ รวมถึงความเสียสละของบุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรในชุมชน รวมถึงประชาชนที่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด
“ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน เราสามารถควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้เพิ่มขึ้นมากได้ ในเวลาเพียงสองเดือน จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันในประเทศก็ลดลงแตะระดับเลขหลักเดียว และในเวลาเพียงสามเดือน เราก็ได้รับชัยชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในการต่อสู้เพื่อปกป้องมณฑลหูเป่ยและเมืองอู่ฮั่นจากโควิด-19” นายสี จิ้นผิง กล่าว
เขากล่าวว่า หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย จีนได้ประกาศนโยบายหลายอย่างเพื่อช่วยเหลือภาคเอกชน สร้างงาน กระตุ้นการลงทุนและการบริโภค และเดินหน้าแก้ปัญหาความยากจน
เศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองของโลก มีการขยายตัว 3.2% ในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว หลังจากหดตัวลง 6.8% ในไตรมาสแรก
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า “จีนเป็นประเทศเศรษฐกิจใหญ่ประเทศแรกที่เศรษฐกิจกลับมาขยายตัวอีกครั้งนับตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาด”
เขากล่าวว่า จีนต้องเดินหน้าใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องเพื่อเอาชนะโควิด-19 อย่างเด็ดขาด
เขาย้ำว่าต้องมีการเสริมสร้างหลักประกันระดับสถาบันเพื่อปกป้องชีวิตและสุขภาพของประชาชน พร้อมกับเรียกร้องให้มีการพัฒนาระบบสาธารณสุขที่แข็งแกร่ง รวมถึงยกระดับระบบป้องกัน ควบคุม และรักษาโรคระบาดสำคัญ ๆ
นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้เพิ่มความพยายามเพื่อรับประกันการเติบโตทางเศรษฐกิจและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน พร้อมกับเน้นย้ำว่าเป้าหมายการพัฒนาของชาติต้องบรรลุผลสำเร็จ
จีนตั้งเป้าขจัดความยากจนให้หมดสิ้นไป และสร้างสังคมที่เจริญรุ่งเรืองทุกด้านภายในปี 2563
ขณะเดียวกัน นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำถึงความสำคัญของการระมัดระวังความเสี่ยงและคิดถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น พร้อมกับเรียกร้องให้พยายามยกระดับความสามารถในการป้องกันและขจัดความเสี่ยงต่าง ๆ ตลอดเส้นทางการพัฒนาของจีน
นายสี จิ้นผิง แสดงความมั่นใจในอนาคตของจีนยุคใหม่ โดยกล่าวว่า “ไม่มีใครและอำนาจใดที่สามารถหยุดยั้งชาวจีนไม่ให้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิม”
บทความต้นฉบับ: https://news.cgtn.com/news/2020-09-08/China-honors-pandemic-fighters-vows-to-carry-on-fighting-COVID-19-TCeSeTaCze/index.html
วิดีโอ - https://cdn5.prnasia.com/202009/CGTN/video.mp4