พลเมืองของประเทศพัฒนาแล้วสนใจลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานมากขึ้นเนื่องจากโควิด-19

ข่าวทั่วไป Tuesday September 15, 2020 15:00 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

ลอนดอน--15 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์ ความผันผวนอย่างรุนแรงอันเนื่องมาจากวิกฤตโควิด-19 ผลักดันให้การลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานพุ่งสูงขึ้น หลังจากที่เติบโตในอัตราคงที่ก่อนหน้านี้ โดยมีผู้สนใจเพิ่มขึ้นเกือบ 50% ระหว่างเกิดการระบาดทั่วโลกในระยะเวลา 6 เดือนจนถึงเดือนมิถุนายน 2563 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ความสนใจจากพลเมืองของประเทศเศรษฐกิจใหม่อย่างอินเดียและไนจีเรียเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว แต่ที่ไม่คาดคิดคือความสนใจที่เพิ่มสูงขึ้นจากพลเมืองของประเทศพัฒนาแล้ว ที่เด่นชัดที่สุดคือสหรัฐอเมริกา โดยพลเมืองสหรัฐแสดงความสนใจเพิ่มขึ้นถึง 100% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน พลเมืองแคนาดาและสหราชอาณาจักรก็แสดงความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน “เหตุการณ์วุ่นวายในปี 2563 ซึ่งรวมถึงภาวะชะงักงันอย่างไม่คาดคิดในช่วงล็อกดาวน์ครั้งใหญ่ ส่งผลให้ผู้คนหันมาทบทวนการใช้ชีวิตของตนเอง และผู้ที่มีความพร้อมก็เริ่มคิดถึงการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐาน” Dr. Juerg Steffen ซีอีโอบริษัท Henley & Partners กล่าว “ความผันผวนอย่างต่อเนื่องทั้งในแง่ของความมั่งคั่งและวิถีชีวิต ส่งผลให้นักลงทุนที่มีความมั่งคั่งสูงทั่วโลกมีมุมมองเกี่ยวกับที่พำนักทางเลือกและสัญชาติที่สองเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก” ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 ชาวอินเดียแสดงความสนใจลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานมากกว่าพลเมืองประเทศอื่นอย่างชัดเจน โดย Henley & Partners ได้รับการสอบถามจากพลเมืองอินเดียมากกว่าพลเมืองไนจีเรียที่เป็นอันดับสองถึง 96.5% ตามมาด้วยปากีสถาน และที่น่าตกใจคือสหรัฐอเมริกา หลายประเทศที่มีโปรแกรมการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานต่างรั้งอันดับต้น ๆ ในดัชนีระดับโลก เช่น ดัชนีสันติภาพโลกประจำปี 2563 ดัชนีความยากง่ายในการประกอบธุรกิจประจำปี 2563 ของธนาคารโลก และการประเมินความปลอดภัยระดับภูมิภาคในภาวะโควิด-19 ของบริษัท Deep Knowledge Analytics ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่พำนักทางเลือกในช่วงวิกฤต นิวซีแลนด์เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากรั้งอันดับ 1 ทั้งในดัชนีสันติภาพโลกและดัชนีความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ และรั้งอันดับ 2 ในการประเมินความปลอดภัยระดับภูมิภาคในภาวะโควิด-19 ส่วนตัวเลือกอื่นที่ปลอดภัยสำหรับครอบครัวที่มีความมั่งคั่งสูงคือสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ในอันดับ 7 ในดัชนีสันติภาพโลก อันดับ 2 ในดัชนีความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ และอันดับ 10 ในการประเมินความปลอดภัยระดับภูมิภาคในภาวะโควิด-19 และออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ในอันดับ 13, 14 และ 6 ของดัชนีทั้งสามตามลำดับ สำหรับตัวเลือกในยุโรปนั้น ออสเตรียเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเป็นอันดับต้น ๆ โดยรั้งอันดับ 4 ในดัชนีสันติภาพโลก อันดับ 27 ในดัชนีความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ และอันดับ 8 ในการประเมินความปลอดภัยระดับภูมิภาคในภาวะโควิด-19 ขณะที่มอนเตเนโกรอยู่ในอันดับ 69, 50 และ 83 ของดัชนีทั้งสามตามลำดับ ส่วนตัวเลือกในแคริบเบียนที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีความมั่งคั่งสูงคือเซนต์ลูเซีย ซึ่งรั้งอันดับ 93 ในดัชนีความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ และอันดับ 127 ในการประเมินความปลอดภัยระดับภูมิภาคในภาวะโควิด-19 แม้ว่าดัชนีสันติภาพโลกไม่ได้รวมประเทศเกาะขนาดเล็กในแคริบเบียนก็ตาม “ก่อนหน้านี้ ที่พำนักทางเลือกและสัญชาติที่สองเป็นสิ่งที่ “ถ้ามีก็ดี” เพื่อความสะดวกและสิทธิพิเศษในการเดินทาง รวมถึงเป็นที่พักร้อนหรือเป็นบ้านหลังที่สอง แต่ในศตวรรษที่ 21 ที่พำนักทางเลือกและสัญชาติที่สองเป็นสิ่งที่ “ต้องมี” ไม่ใช่แค่เพื่อความอยู่รอดเท่านั้น แต่เพื่อความสำเร็จด้วย” Dominic Volek หัวหน้าฝ่ายขายของ Henley & Partners กล่าว พร้อมกับระบุว่า 19 ประเทศสมาชิกกลุ่ม G20 มีมาตรการกระตุ้นการลงทุนในประเทศโดยแลกกับสิทธิในการพำนักอาศัย ขณะที่สมาชิกรายที่ 20 นั่นคือสหภาพยุโรป มีประเทศสมาชิก 60% ที่มีโปรแกรมการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐาน สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ Paddy Blewer อีเมล: paddy.blewer@henleyglobal.com
แท็ก โควิด-19  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ