เซินเจิ้น จีน--15 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์
ZTE Corporation ( 0763.HK / 000063.SZ ) ผู้ให้บริการรายใหญ่ของโลกด้านโซลูชันโทรคมนาคม เทคโนโลยีระดับองค์กร และเทคโนโลยีเพื่อการบริโภคสำหรับแวดวงอินเทอร์เน็ตมือถือ เผยแพร่รายงานฉบับล่าสุดในหัวข้อ "Security Transparence and Assurance in a 5G World" ร่วมกับ Omdia ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการวิจัยเทคโนโลยี
เนื้อหาในรายงานได้ระบุถึงความสำคัญของการรับประกันความปลอดภัยอย่างครอบคลุมทั่วทั้งระบบนิเวศในยุค 5G ตั้งแต่อุปกรณ์ IoT ไปจนถึงเครือข่าย 5G จากกฎระเบียบถึงการปฏิบัติงาน ซึ่งการจะรับประกันความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริงนั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือและการประสานงานกันระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควบคู่ไปกับการประเมินอย่างสม่ำเสมอ จึงจะสามารถรับมือกับความท้าทายที่กำลังเพิ่มขึ้นจากการใช้งาน 5G ทั่วโลกได้
ZTE ทุ่มความพยายามให้กับการค้นคว้าโซลูชันด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์เชิงรุกมาเป็นเวลาหลายปี และรายงานที่เผยแพร่ออกมาล่าสุดนี้ก็ได้ชี้ให้เห็นว่าแผนงาน ประสบการณ์ และความสามารถด้านความปลอดภัยที่ ZTE มีอยู่นั้น เป็นตัวอย่างสำคัญของกลไกลสำหรับการสร้างความร่วมมือ ความโปร่งใส และเปิดกว้าง เพื่อรับมือกับความท้าทายและความเสี่ยงที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาที่ยุค 5G มาถึง
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวยังชี้ให้เห็นอีกว่า ZTE ยึดถือความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในการมอบบริการและทำการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยได้มีการกำหนดกลไกลการรับประกันความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่มีความครอบคลุมซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดด้านมาตรฐานและในทางกฎหมายขึ้นมา และในขณะเดียวกันบริษัทยังได้นำเอามาตรการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์มาใช้ในกระบวนการทำงาน ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดแนวทางการป้องกัน 3 ระดับ, จัดตั้งทีมรับมือเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Product Security Incident Response Team: PSIRT), สร้างห้องปฏิบัติการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ตลอดจนการตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์อย่างรัดกุม
ทั้งนี้ ZTE เพิ่งผ่านการตรวจสอบ NESAS ของ GSMA เมื่อเดือนสิงหาคม 2563 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความปลอดภัยของวงจรและกระบวนการพัฒนา 5G ของบริษัท
“การเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลดำเนินการมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว และจำเป็นต้องมีการประกันความปลอดภัยที่ครอบคลุมเพื่อให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ซึ่งแนวคิดในเรื่องความเสี่ยงทางดิจิทัลนี้ รวมถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับผู้คน, กระบวนการ และเทคโนโลยี เพื่อปกป้องการรักษาความลับ, ความถูกต้อง และความพร้อมใช้ (CIA) ของข้อมูลล้วนเป็นเรื่องที่หลาย ๆ องค์กรควรต้องมีความตระหนัก” Maxine Holt ผู้อำนวยการอาวุโสแผนกวิจัยด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ของ Omdia กล่าว “ความปลอดภัยทางไซเบอร์ถือเป็นเรื่องท้าทายระดับโลกที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายการสร้างสรรค์เครือข่าย 5G ที่มีความปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพสูง”
“ZTE มีความพร้อมเต็มที่และหวังว่าจะได้ร่วมมือกับลูกค้า รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม ในการรับมือกับความท้าทายด้านความปลอดภัยที่รออยู่ข้างหน้า” Zhong Hong รองประธานและหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยของ ZTE กล่าว “เราหวังที่จะสร้างเครือข่าย 5G ที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือเพื่อให้ทุกคนได้มีชีวิตดิจิทัลที่ดีขึ้นกว่าเดิม”
ในอนาคต ZTE จะยังคงรักษาความโปร่งใสและเปิดกว้าง และนำเอาวิธีการที่ยึดหลักแนวความเสี่ยงมาใช้ในการจัดการกับปัญหาความปลอดภัยตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ต่อไป นอกจากนี้ บริษัทยังจะปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานทางเทคนิค ดำเนินการตรวจสอบ และเข้าร่วมการประเมินเพื่อขอการรับรองด้านต่าง ๆ ตามความต้องการของลูกค้าและหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง
อ่านรายงาน "Security Transparence and Assurance in a 5G World" ได้ที่
https://www.omdia.com/resources/product-content/2020/09/01/14/22/security-transparence-and-assurance-in-a-5g-world
ZTE และ Omdia จะร่วมกันจัดงานสัมมนาออนไลน์หัวข้อ "Comprehensive Security Assurance Is Essential in the 5G Era" ในวันที่ 16 กันยายน เวลา 17.00-18.00 น. (GMT+8) ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ได้ที่
https://www.lightreading.com/webinar.asp?webinar_id=1691&webinar_promo=5621
สื่อติดต่อ:
Margaret Ma
ZTE Corporation
โทร: +86 755 26775189
อีเมล: ma.gaili@zte.com.cn
รูปภาพ - https://photos.prnasia.com/prnh/20200915/2917281-1
คำบรรยายภาพ - ZTE จับมือ Omdia เผยแพร่รายงานว่าด้วยการรับรองและประกันความโปร่งใสด้านความปลอดภัยในโลกยุค 5G