30 ปีหลังการพัฒนาและเปิดกว้างของจีน เขตผู่ตงในนครเซี่ยงไฮ้ทางภาคตะวันออกของจีนได้รับสองบทบาทใหม่ในการพัฒนาประเทศโดยรวมในช่วง 3 ทศวรรษข้างหน้า
เขตผู่ตงจะเป็นหัวหอกในการปฏิรูปและเปิดกว้างมากขึ้น รวมถึงเป็นแนวหน้าในการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ระหว่างการรวมตัวครั้งใหญ่ในเซี่ยงไฮ้เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 30 ปีแห่งการพัฒนาและเปิดกว้างเขตผู่ตง
นายสี จิ้นผิง ผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวว่า จีนเริ่มการเดินทางครั้งใหม่เพื่อบรรลุเป้าหมายในการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ภายในกลางศตวรรษนี้ และเขตผู่ตงต้องแบกรับภารกิจครั้งประวัติศาสตร์เพื่อส่งเสริมกระบวนการดังกล่าว
อ่านบทความต้นฉบับได้ที่ https://news.cgtn.com/news/2020-11-12/Xi-Jinping-addresses-event-marking-30-years-of-Shanghai-s-Pudong-Vm6iNfqX3q/index.html
ผู้นำจีนได้ให้กำลังใจเขตผู่ตงในการ "แบกรับหน้าที่อันหนักหน่วงที่สุด" และ "แก้ปัญหาที่ยากที่สุด" เพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปและพัฒนาประเทศให้ทันสมัย
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
สี จิ้นผิงให้ความสำคัญกับการเปิดกว้างและพัฒนาเขตผู่ตง: https://news.cgtn.com/news/2020-04-19/How-Xi-Jinping-cares-about-Pudong-s-opening-up-and-development-POqyajwWf6/index.html
30 ปี เขตผู่ตง: ตัวอย่างการพัฒนาความทันสมัยและการเปิดกว้าง: https://news.cgtn.com/news/2020-11-10/Pudong-30-years-on-Epitome-of-China-s-modernization-and-opening-up-ViIUjRCf8k/index.html
กลไกขับเคลื่อนนวัตกรรม
งานเมื่อวันพฤหัสบดีเปิดฉากขึ้นสองสัปดาห์หลังเสร็จสิ้นการประชุมใหญ่ครั้งที่ 5 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 19 ซึ่งบรรดาผู้นำจีนได้กำหนดเส้นทางการพัฒนาประเทศสำหรับ 15 ปีข้างหน้า
ตามข้อเสนอของผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (ปีงบประมาณ 2564-2568) และวัตถุประสงค์ระยะยาวถึงปี 2578 นั้น จีนจะให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและการพึ่งพาตนเองด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการพัฒนาชาติ โดยมีเป้าหมายในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลก
ภายใต้บริบทดังกล่าว นายสี จิ้นผิง ขอให้เขตผู่ตงเพิ่มบทบาทในฐานะกลไกขับเคลื่อนนวัตกรรม รวมถึงพัฒนาแบบก้าวกระโดดในด้านเทคโนโลยีหลักที่มีความสำคัญ นอกจากนี้ เขตผู่ตงควรพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนวัตกรรมในภาคส่วนสำคัญและสร้างกลุ่มอุตสาหกรรมระดับโลกในด้านต่าง ๆ เช่น วงจรรวม ชีวการแพทย์ และปัญญาประดิษฐ์
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
จีนเผยโรดแมปการพัฒนาประเทศในระดับใหม่: https://news.cgtn.com/news/2020-10-30/Officials-outline-China-s-development-roadmap-at-new-stage-V0qHUKueT6/index.html
จีนเผยพิมพ์เขียวเพื่อก้าวเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมระดับโลก: https://news.cgtn.com/news/2020-11-04/China-unveils-blueprint-to-become-global-leader-in-innovation-V8ymvHioog/index.html
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า เขตผู่ตงควรส่งเสริมภาคเอกชนให้เป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยี รวมถึงทำงานใกล้ชิดกับผู้เล่นรายอื่น ๆ ในเขตพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี พร้อมเรียกร้องให้มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดดในด้านส่วนประกอบหลักและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์
นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้เขตผู่ตงเริ่มปฏิรูปในภาคส่วนสำคัญและจุดเชื่อมโยงที่สำคัญ ตลอดจนสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่อิงตลาดและมีความเป็นสากล
เขตผู่ตงควรเดินหน้าเปิดกว้างด้านกฎระเบียบ ข้อบังคับ การบริหารจัดการ และมาตรฐาน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านความร่วมมือและความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก
เขากล่าวเสริมว่า เขตพิเศษหลินกังในเขตการค้าเสรีนำร่องจีน (เซี่ยงไฮ้) ซึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ควรพยายามทดสอบภาวะวิกฤตมากกว่านี้ และพัฒนาในมิติต่าง ๆ แบบก้าวกระโดด
บทบาทในการจัดสรรทรัพยากรระดับโลก
นายสี จิ้นผิง กล่าวถึงหลักชัยสำคัญในการปฏิรูปและเปิดกว้างของจีนเป็นครั้งที่สองภายในระยะเวลาหนึ่งเดือน ก่อนหน้านี้ในช่วงกลางเดือนตุลาคม เขาได้เดินทางเยือนเมืองเซินเจิ้นในมณฑลกวางตุ้งทางภาคใต้ของจีน และร่วมฉลองครบรอบ 40 ปีการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเซินเจิ้น โดยเขาเรียกร้องให้เซินเจิ้นเดินหน้าปฏิรูปและเปิดกว้างในทุกมิติ
เซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้เป็นแนวหน้าของการปฏิรูปและเปิดกว้างของจีนมานานหลายทศวรรษ โดยทั้งสองเมืองเป็นบ้านของตลาดหลักทรัพย์เพียงสองแห่งของจีนแผ่นดินใหญ่ ดังนั้นจึงมีบทบาทสำคัญยิ่งในการจัดสรรทรัพยากรสำหรับประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก
บทบาทของเซินเจิ้นและเซี่ยงไฮ้มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ในขณะที่จีนพยายามสนับสนุนการพัฒนารูปแบบใหม่ที่ยึดตลาดในประเทศเป็นหลัก และเปิดโอกาสให้ตลาดในประเทศและต่างประเทศส่งเสริมซึ่งกันและกัน
นายสี จิ้นผิง เรียกร้องให้เพิ่มขีดความสามารถของเขตผู่ตงในการจัดสรรทรัพยากรระดับโลก เพื่อให้สามารถรองรับการพัฒนารูปแบบใหม่ได้ดียิ่งขึ้น โดยเขตผู่ตงควรประสานทรัพยากรในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนเสริมสร้างอิทธิพลระดับโลกในการระดมปัจจัยต่าง ๆ เช่น เงินทุน ข้อมูล เทคโนโลยี บุคลากร และสินค้า
ผู้นำจีนกล่าวว่า เขตผู่ตงควรพัฒนาตัวเองให้เป็นฮับของตลาดในประเทศและจุดเชื่อมทางยุทธศาสตร์ของตลาดในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนรับบทบาทผู้นำในการพัฒนาพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซีแบบบูรณาการ
ประธานาธิบดีจีนยังเรียกร้องให้เขตผู่ตงจัดตั้งแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงินระหว่างประเทศ รวมถึงพัฒนาตัวเองให้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัทต่าง ๆ มากขึ้น และผลักดันให้ตัวเองเป็นฮับสำคัญของห่วงโซ่อุตสาหกรรม ห่วงโซ่อุปทาน และห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก
ขณะเดียวกัน นายสี จิ้นผิง เรียกร้องให้พัฒนาธรรมาภิบาลของเมืองและสร้างเขตผู่ตงให้เป็นบ้านที่สวยงาม ซึ่งประชาชนและธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน
เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2533 จีนได้ประกาศพัฒนาและเปิดกว้างเขตผู่ตง ซึ่งเวลานั้นเป็นพื้นที่ด้อยพัฒนา ที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกของแม่น้ำหวงผู่ในนครเซี่ยงไฮ้
จีดีพีของเขตผู่ตงขยายตัวกว่า 210 เท่าตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ปัจจุบัน จีดีพีของเขตผู่ตงคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของจีดีพีเซี่ยงไฮ้ นอกจากนั้นยังเป็นบ้านของสถาบันการเงินกว่า 1,000 แห่ง สำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของบริษัทข้ามชาติกว่า 300 แห่ง รวมถึงศูนย์วิจัยและพัฒนาที่ต่างชาติลงทุนกว่า 240 แห่ง