กระทรวงพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติของมาเลเซีย (KeTSA) มีความยินดีที่จะประกาศผู้ชนะรางวัล National Energy Awards (NEA) 2020 โดยมี 30 รายชื่อจากผู้เข้าร่วม NEA ทั้งหมด 110 ราย ที่ได้รับเลือกเป็นผู้ชนะ NEA 2020 ผ่านทางการประเมินอย่างเข้มงวดจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ประกอบด้วย 3 หมวดหมู่ ได้แก่ หมวดที่ 1 - การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ, หมวดที่ 2 - พลังงานหมุนเวียน และหมวดที่ 3 - รางวัลพิเศษ
ผู้เข้าร่วมประกวดรางวัล NEA 2020 ประกอบด้วยองค์กรต่างๆ ที่ปฏิรูปการดำเนินงานหรือเปลี่ยนแปลงอาคารให้ใช้พลังงานคุ้มค่ามากขึ้น และ/หรือ ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการใช้ระบบพลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน โดย KeTSA ยังคงมุ่งมั่นทำตามคำสัญญาในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเชื่อว่าการสนับสนุนจากผู้เล่นในอุตสาหกรรมด้านการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้ประเทศบรรลุเป้าหมาย
ผู้ชนะในหมวดที่ 1 และ 2 จะได้เป็นตัวแทนของมาเลเซียในการชิงรางวัล ASEAN Energy Awards (AEA) 2020 โดยการประกาศผู้ชนะ AEA 2020 จะมีขึ้นในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีด้านพลังงานของอาเซียน (AMEM) ครั้งที่ 38 ในวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้
มีความคาดหวังว่าการยอมรับในระดับชาติจะนำผู้เล่นในอุตสาหกรรมก้าวออกจากพรมแดนของประเทศ และผลักดันพวกเขาเข้าไปในสปอตไลต์บนเวทีระดับโลก ผู้ชนะรางวัล NEA 2020 ล้วนอยู่ในตำแหน่งที่สมบูรณ์แบบในการก้าวเป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังเฉิดฉายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดด้วย
YB Dato' Dr. Shamsul Anuar bin Hj Nasarah รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ แสดงความยินดีกับผู้ชนะสำหรับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนาภูมิทัศน์ด้านพลังงานที่ยั่งยืนของมาเลเซีย
"ผู้ชนะต่างทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในการพัฒนาประเทศไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนขึ้น ในฐานะส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์นี้ ผมหวังว่าพวกเขาจะแชร์แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดกับองค์กรอื่นๆ เพื่อที่ว่าพวกเขาจะสามารถพัฒนาแนวทางที่ยั่งยืนรวมถึงเพิ่มผลประโยชน์ของการบริหารจัดการพลังงานอย่างคุ้มค่าได้เช่นกัน ซึ่งจากความสำเร็จที่ผ่านมา ผมหวังว่าองค์กรมาเลเซียจะโบกสะบัดธงชาติของเราต่อไปในงาน ASEAN Energy Awards 2020" YB Dato' Dr. Shamsul Anuar bin Hj Nasarah รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและทรัพยากรธรรมชาติ กล่าว
นอกจากนี้ ยังมีการประกาศ 3 รางวัลพิเศษสำหรับสถาบันอุดมศึกษาในด้านพลังงานที่ยั่งยืน, การเงิน และการทำสัญญาด้านประสิทธิภาพของพลังงาน (EPC) บนเวที NEA นี้ด้วย เพื่อส่งเสริมให้มหาวิทยาลัยเอกชนและมหาวิทยาลัยรัฐมีความริเริ่มด้าน RE และ EE รวมถึงเพื่อให้การยอมรับสถาบันการเงินที่ส่งเสริมโครงการ RE และ EE และเพื่อส่งเสริมการทำสัญญาด้านประสิทธิภาพของพลังงาน (EPC) ในมาเลเซีย
"การเพิ่มขึ้นของภาคส่วนที่มาเข้าร่วมประกวดรางวัล NEA เป็นสัญญาณบวกว่า มีผู้เล่นอุตสาหกรรมจำนวนมากขึ้นที่ใส่ใจกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ซึ่งกำหนดโดยผู้ชนะเลิศด้านพลังงานที่ยั่งยืนในประเทศ ESCOs ดำเนินบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าในการดำเนินงานของธุรกิจ ขณะที่สถาบันการเงินควรสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อดึงดูดการลงทุนด้าน RE และ EE" Shamsul Anuar กล่าว
ท้ายที่สุด เป้าหมายของ NEA คือการส่งเสริมให้บริษัทและสถาบันต่างๆ ในมาเลเซียลดการปล่อยคาร์บอนโดยลดการพึ่งพาไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล สิ่งที่ได้จากโครงการริเริ่มนี้ครอบคลุมไปถึงอนาคตที่สะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มประโยชน์ในการกระตุ้นการเติบโตของ GDP ผ่านทางแหล่งพลังขับเคลื่อนใหม่ๆ จากการใช้เทคโนโลยี RE และแนวปฏิบัติด้าน EE
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nationalenergyawards.com.my
เกี่ยวกับ NEA
NEA คือการมอบรางวัลประจำปีเพื่อรับรองความสำเร็จที่โดดเด่นและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการขับเคลื่อนวาระด้านพลังงานที่ยั่งยืนของมาเลเซีย รางวัลนี้เริ่มมอบครั้งแรกในปี 2561 โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มของมาเลเซียเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนในมาเลเซีย
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1337692/WinnersNEA_4pm.jpg
คำบรรยายภาพ: ผู้ชนะรางวัล National Energy Awards 2020 (NEA 2020)