รายงานว่าด้วยแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในเอเชีย พร้อมนำเสนอคู่มือเพื่อการเข้าถึงโอกาสจากนวัตกรรมและการเติบโตของผลิตภาพที่เกิดจากการนำเทคโนโลยีมาใช้
Premia Partners บริษัทผู้ออกกองทุน ETF ชั้นนำในฮ่องกง เผยแพร่รายงานฉบับล่าสุดในวันนี้ เรื่อง "Where to find growth: Tailwinds from Asia Megatrends & Playbook to participate in Asia Innovations and Technology-enabled Productivity Growth" ซึ่งแนะนำโอกาสการลงทุนจากเมกาเทรนด์ในเอเชีย พร้อมนำเสนอคู่มือเพื่อร่วมเป็นผู้เล่นในวงการนวัตกรรมของเอเชียและการเติบโตของรผลิตภาพในภูมิภาคที่เกิดจากการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้
หากเทียบกับตลาดที่พัฒนาแล้ว กองทุน ETF ของเอเชียยังคงขาดการขยายผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถเติบโตได้ในระยะยาว (secular growth) อีกทั้งถูกจำกัดจากวิธีการคำนวณที่เป็นที่นิยมอย่างการถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาด (market capitalization-weighted) สิ่งนี้ก่อให้เกิดช่องว่างสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างผลประโยชน์จาก tailwinds (ลมส่งท้าย) ในอุตสาหกรรมต่างๆ ของภูมิภาค เช่น รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ & พลังงานใหม่, 5G, AI, คลาวด์คอมพิวติ้ง, เทคโนโลยีชีวภาพ & ชีววิทยาศาสตร์, การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล, IoT, หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ, อีสปอร์ต และอีกมากมาย
เนื่องด้วยนักลงทุนต่างกำลังมองหาโอกาสการเติบโตในเอเชียกันมากขึ้น การค้นพบแนวทางการลงทุนที่สอดคล้องจึงมีความสำคัญยิ่งกว่าที่เคย ยิ่งไปกว่านั้น เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่จะต้องเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุนด้วยการนำเสนอ use cases ที่แสดงให้เห็นว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้เข้ากันได้กับกลยุทธ์การลงทุนโดยรวมของนักลงทุนอย่างไร เนื่องจากบ่อยครั้งที่การจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Asset Allocation ไม่สามารถตอบรับกับแนวโน้มเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสให้กับนักลงทุนด้วยคู่มือแผนการเล่นที่จะทำให้นักลงทุนก้าวเป็นผู้นำของวันพรุ่งนี้ตั้งแต่วันนี้ โดยรายงานกล่าวถึง
- โอกาสการเติบโตมากมายจากเมกาเทรนด์ที่กำลังมีบทบาทสำคัญในเอเชีย
- การหลุดจากกรอบความคิดเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรม GICS แบบดั้งเดิม และคิดใหม่เกี่ยวกับ "เทคโนโลยีนวัตกรรม" ในแบบที่เป็นองค์รวมมากขึ้น
- วิธีการที่ Premia FactSet Asia Innovative Technology Index (AIT) ปรับตัวขึ้นตามการเติบโตของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่นำนวัตกรรมมาปรับใช้เพื่อพลิกโฉมอุตสาหกรรม
- การนำเสนอ use cases ของ AIT เพื่อเป็นพื้นฐานการจัดพอร์ตสำหรับนักลงทุนทั่วโลก
"ในอดีต อาจดูเหมือนว่ามีเพียงกลยุทธ์ทางเลือกเท่านั้นที่นักลงทุนจะสามารถใช้เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในบริษัทที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมที่กำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงในเอเชีย" Rebecca Chua หุ้นส่วนผู้จัดการของ Premia Partners กล่าว "บัดนี้ ด้วยการใช้ระบบการจำแนกอุตสาหกรรม FactSet RBICS เรามีความยินดีที่จะได้นำเสนอเครื่องมือที่มีต้นทุนต่ำ มีสภาพคล่อง และโปร่งใสแก่นักลงทุนเพื่อให้นักลงทุนเข้าถึงโอกาสเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
สำหรับปี 2563 ที่ผ่านมา กองทุน Premia Asia Innovative Technology ETF (3181 HK / 9181 HK) ซึ่งติดตามดัชนี AIT Index ให้ผลตอบแทนรวม 59.8% และเป็นหนึ่งในกองทุน ETF ของเอเชียที่ทำผลงานดีที่สุดจากทั่วโลก กองทุนดังกล่าวคิดค่าธรรมเนียม (Total Expense Ratio) ในอัตรา 0.5% ต่อปี โดยไม่มีค่าส่วนแบ่งจากผลกำไร ค่าอากรแสตมป์ และยกเว้นภาษีหัก ณ ที่จ่าย หรือภาษีส่วนต่างราคาหลักทรัพย์
ดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มได้ที่ https://www.premia-partners.com/insight/where-to-find-growth-white-paper
เกี่ยวกับ Premia Partners
Premia Partners ก่อตั้งขึ้นในฮ่องกงเมื่อปี 2559 และได้ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้จัดการกองทุน ETF อิสระชั้นนำของเอเชียที่มีความมุ่งมั่นในการสร้างและรักษากองทุน ETF ของเอเชียที่มีผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมและเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน (Rule-Based) เป้าหมายของเราคือเพื่อสร้างระบบนิเวศ ETF ที่ดีขึ้นในเอเชียและเพื่อเอเชีย ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 Premia Partners บริหารจัดการกองทุน ETF จำนวน 6 กองทุน ซึ่งรวมถึง Premia CSI Caixin China New Economy ETF ที่เติบโตจนเป็นกองทุน ETF หุ้น A-shares ขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ในฮ่องกง และยังเป็นผู้ชนะรางวัล HKEx 2019 Top Performing ETF - Total Return Award สำหรับกองทุน ETF อื่นๆ ของ Premia ประกอบด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่ครอบคลุมจีน, ตลาดเกิดใหม่อาเซียน, เทคโนโลยีนวัตกรรมเอเชีย, เวียดนาม และพันธบัตรสหรัฐ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.premia-partners.com