Laiye ผู้นำด้านระบบการทำงานอัตโนมัติอัจฉริยะของจีน ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทระดมทุนได้ 50 ล้านดอลลาร์จากการระดมทุนรอบ series C+ ซึ่งเป็นรอบที่ระดมทุนร่วมกันนำโดย Ping An Global Voyager Fund และ Shanghai Artificial Intelligence Industry Equity Investment Fund ร่วมกับ Lightspeed China Partners, Lightspeed Venture Partners, Sequoia Capital China และ Wu Capital
ในรอบปีที่ผ่านมา Laiye ประสบความสำเร็จหลายครั้งผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ และระบบอีโคซิสเต็มที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว Laiye ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศได้เร็วขึ้น แม้เผชิญกับโรคระบาดในขณะนี้ และกำลังให้บริการฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัทหลายแห่งที่ติดทำเนียบฟอร์จูน 500, องค์กรของภาครัฐ และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMB) รายได้จากการสมัครใช้ซอฟต์แวร์ RPA รายปีของ Laiye ก็พุ่งขึ้นมากด้วยอัตราการเติบโตเมื่อเทียบรายปีถึง 900% ขณะที่ Laiye Chatbot ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ AI ตอบกลับการสนทนาของผู้จำหน่ายระบบทำงานอัตโนมัติอัจฉริยะรายนี้ ยังคงได้รับการตอบรับที่น่าพอใจจากกลุ่มผู้ใช้ด้วย ความสำเร็จต่าง ๆ เหล่านี้ก็สอดคล้องกับ Laiye ซึ่งได้รับกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นสำหรับธุรกิจในองค์กร และความสามารถในการทำกำไรสำหรับธุรกิจแชทบอทในไตรมาส 4 ปี 2020
LI Wei ซีอีโอร่วม และประธาน Laiye กล่าวว่า การระดมทุนรอบนี้จะนำไปใช้เพื่อการขยายธุรกิจไปทั่วโลก และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยธุรกิจต่าง ๆ ในการสร้างระบบการทำงานอัตโนมัติอัจฉริยะแบบครบวงจร Laiye ตั้งเป้าที่จะส่งเสริมการนำเสนอ RAP ที่มีความสามารถด้าน native AI, สามารถทำงานกับระบบปฏิบัติการอื่น ๆ เช่น Linux และ Android และติดตั้งลงในแพลตฟอร์มบนคลาวด์ตัวหลัก ๆ ทั้งหมดได้ บริษัทจะยังคงสรรหาบุคลากรระดับหัวกะทิเพื่อมาพัฒนาโซลูชันที่ใช้เฉพาะกับอุตสาหกรรม และพัฒนาระบบอีโคซิสเต็มของนักพัฒนาและพันธมิตรให้แข็งแกร่งขึ้น
ปัจจุบัน Laiye ดำเนินธุรกิจไปทั่วโลกครอบคลุมทั่วเอเชีย สหรัฐ และยุโรป โดยมีพันธมิตรระดับโลกอย่าง Microsoft, Deloitte, KPMG และ Digital China นอกจากนี้ Laiye ยังประสบความสำเร็จในการตั้งสำนักงานใหม่ในต่างประเทศในสิงคโปร์ เพื่อรองรับการเป็นสำนักงานใหญ่ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก บริษัทยังขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยจะหาทางเป็นพันธมิตรกับบริษัทชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะทำความเข้าใจความคาดหวังและเทรนด์ทางเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วในภูมิภาคต่าง ๆ เพื่อรับรองว่าโซลูชันของบริษัทจะมีความหมายกับตลาดเป้าหมาย
Jonathan Larsen ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรม Ping An Group และซีอีโอ Ping An Global Voyager Fund ซึ่งนำการระดมทุนในรอบนี้ กล่าวว่า "Laiye ได้สร้างตัวเองขึ้นมาเป็นผู้นำที่ชัดเจนในจีนในวงการที่กำลังมีการเติบโตเร็วมาก และน่าสนใจมากจริงๆ โซลูชันของ Laiye มีความสำคัญเป็นพิเศษกับสถาบันการเงิน ซึ่งสถาบันในจีนเพิ่งจะเริ่มได้ผลตอบแทนจากการใช้งาน RPA ทั้งนี้ Ping An รู้สึกยินดีมากที่ได้เป็นพันธมิตรกับ Laiye เพื่อช่วยให้ Laiye ก้าวไปสู่การเติบโตในระยะต่อไป"
WU Wei กรรมการผู้จัดการ Shanghai Artificial Intelligence Industry Equity Investment Fund ซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายล่าสุดของ Laiye กล่าวว่า "Laiye มีความรู้ลึกซึ้งในด้าน RPA รวมทั้งเทคโนโลยี AI เช่น deep learning, NLP และการปฏิสัมพันธ์ที่อาศัยรูปแบบหลากหลาย ประกอบกับความสามารถในการวางโซลูชันแบบเชิงลึกและเบ็ดเสร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาจึงสามารถช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สร้างเครื่องมืออัจฉริยะและโซลูชันกระบวนการทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจะสนับสนุน Laiye ต่อไป เพื่อทำให้ผู้เล่นมากขึ้นในวงการนี้ในเซี่ยงไฮ้และที่อื่น ๆ ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงไปสู่เทคโนโลยีดิจิทัล"
James Mi หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งจาก Lightspeed China ซึ่งเป็นผู้ลงทุนรายแรก ๆ ของ Laiye กล่าวว่า "นับตั้งแต่ที่เราลงทุนใน Laiye ในการระดมทุนรอบก่อตั้งธุรกิจ (seed round) เราก็ได้เห็นการเติบโตของ Laiye จนกลายมาเป็นผู้นำของจีนในด้านระบบการทำงานอัตโนมัติอัจฉริยะ และสร้างชุมชนนักพัฒนาและระบบอีโคซิสเต็มพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดของจีนขึ้นมา"
Laiye มีชุมชนขนาดใหญ่ โดยมีนักพัฒนากว่า 400,000 ราย และพันธมิตรกว่า 500 ราย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในจีน และกำลังเร่งขยายชุมชนนอกจีนอย่างรวดเร็วผ่านพันธมิตรต่าง ๆ อาทิ SAMART RAASPAL จากไทย
Wang Guanchun ประธานและซีอีโอ Laiye กล่าวว่า "Laiye ได้พัฒนาชุมชนนักพัฒนาให้เติบโตขึ้น ด้วยการจัดการแข่งขัน RPA+AI และเปิด bot store ที่เชื่อมโยงธุรกิจ SMB ที่มีความต้องการระบบทำงานอัตโนมัติกับนักพัฒนาที่ทำงานแบบฟรีแลนซ์ Laiye ตั้งเป้าที่จะสนับสนุนชุมชนนักพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดของโลกสำหรับซอฟต์แวร์โรบอท และสร้างตลาดซื้อขายบอทที่ใหญ่ที่สุดในโลกในอีก 3 ปีข้างหน้า เรายังมีแผนที่จะรับรองนักพัฒนาซอฟต์แวร์โรบอท 1 ล้านคนเป็นอย่างต่ำภายในปี 2025 เราเชื่อว่า การทำงานในรูปแบบดิจิทัล (digital workforce) และระบบทำงานอัตโนมัติแบบอัจฉริยะจะเข้าถึงคนทุกสาขาอาชีพทั้งหมด ตราบใดที่คนได้รับการพัฒนาทักษะด้วยความรู้ในด้าน RPA และ AI กันมากขึ้น"
เกี่ยวกับ Laiye
Laiye มีประสบการณ์มากมายในด้าน RPA + AI โดยช่วยให้ธุรกิจและผู้คนทำให้ศักยภาพที่เต็มเปี่ยมของพวกเขาเกิดขึ้นจริง ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการทำงานร่วมกันของมนุษย์และเครื่องจักร ด้วยโซลูชันในการทำงานที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย มีการพัฒนาไม่หยุดนิ่ง มีระบบดิจิทัลที่ส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน และใช้โค้ดน้อย Laiye ส่งมอบโซลูชัน AI/RPA/NLP แบบเชิงลึกที่สุดและทันสมัยที่สุด เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ มีประสิทธิผล มีประสิทธิภาพ คล่องตัว และประสบผลสำเร็จมากขึ้น บริษัทยังช่วยปลดปล่อยผู้คนเพื่อไปให้ความสำคัญกับการริเริ่มสร้างงานที่มีความสำคัญ เป็นนวัตกรรมใหม่ และมีความสำคัญต่อภารกิจ
เทคโนโลยีที่เป็นแกนหลักได้แก่กระบวนการทำงานอัตโนมัติโดยหุ่นยนต์ (RPA) การทำเหมืองกระบวนการ การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ปัญญาประดิษฐ์ในการตอบโต้การสนทนา การรู้จำข้อความ และการจดจำรูปภาพ
www.laiye.com/en