WORLD LOGISTICS PASSPORT (WLP) ขอต้อนรับสมาชิกใหม่สิบประเทศ ณ งานประชุมใหญ่นานาชาติเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างเป็นทางการ

- มาเลเซีย เคนยา ปารากวัย และเอกวาดอร์ คือประเทศล่าสุดที่เข้าร่วม World Logistics Passport

- สมาชิกใหม่เหล่านี้เข้าร่วมหลังจากเอธิโอเปีย บอตสวานา ซิมบับเว โมซัมบิก บูร์กินาฟาโซ และกินี ที่ได้เข้าร่วมเมื่อตอนต้นเดือนมิถุนายน

- สมาชิกใหม่ทั้งสิบประเทศนี้ทำให้จำนวนผู้แทนทั้งหมดในเครือข่าย WLP กลายเป็น 23 ราย โดยที่ท่าอากาศยานนานาชาติเดลีของอินเดียและ SAAFF ของแอฟริกาใต้ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อมอบสิทธิประโยชน์จากผู้ค้ารายต่าง ๆ ในเครือข่าย WLP

- ผู้นำและผู้บริหารด้านธุรกิจของทั่วโลกจากเครือข่าย World Logistics Passport ได้ประกาศคำปฏิญญาร่วมกันว่าจะเร่งพัฒนาการค้าระดับสากลและความยืดหยุ่นทางการค้า โดยได้รับแรงสนับสนุนจาก WLP 

World Logistics Passport (WLP) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มระดับสากลโดยภาคเอกชนที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการทางการค้าระหว่างประเทศและปลดล็อกการเข้าถึงตลาด โดยจะต้อนรับสมาชิกใหม่ทั้งสิบประเทศในงานประชุมใหญ่นานาชาติเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่อย่างเป็นทางการ

งานที่จะจัดขึ้นผ่านระบบเสมือนจริงในเวลา 16.00 น. ตามเวลา GST นั้น จะเป็นการรวมตัวกันของซีอีโอ รัฐมนตรีจากประเทศต่าง ๆ และผู้แทนจากองค์กรการค้าระหว่างประเทศชั้นนำ เพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ นำเสนอเงื่อนไข ข้อมูล และสิ่งจูงใจทางธุรกิจที่เหมาะสม เพื่อปลดล็อกศักยภาพของการค้าระดับสากลได้อย่างเต็มที่ งานประชุมจะมีการเปิดตัวสมาชิกใหม่ทั้งสิบประเทศที่เข้าร่วมในโปรแกรม และจะมีการแถลงถึงคำปฏิญญาที่สมาชิก WLP ทั้งหมดที่เข้าร่วมงานจะนำไปปฏิบัติใช้

สำหรับแผนการสะสมยอดจากการขนส่งระดับสากลแผนแรกของโลก WLP มอบสิทธิประโยชน์ให้แก่สมาชิกทั้งสิ้นสามระดับ ได้แก่ ระดับเงิน ระดับทอง และระดับแพลทินัม โดยเป็นสิทธิประโยชน์ที่ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตร WLP อย่างเช่น การท่าอากาศยาน ผู้ให้บริการท่าเรือ หน่วยงานบริการด้านศุลกากร และฝ่ายอื่น ๆ ที่ช่วยให้การดำเนินการด้านห่วงโซ่อุปทานมีประสิทธิผลได้มาขึ้น เมื่อ WLP มีการปฏิบัติการเต็มรูปแบบในประเทศ สมาชิก WLP รวมถึงผู้ค้าและผู้ให้บริการขนส่งสินค้า จะสามารถคาดการณ์ได้ถึงยอดการค้าที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5-10% ในแต่ละปี การสมัครเข้าร่วม WLP ไม่มีค่าใช้จ่ายและเปิดรับสมาชิกจากทุกประเทศที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดการเข้าร่วม 

สุลต่าน Ahmed bin Sulayem ประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ DP World กล่าวไว้ว่า: "งานประชุมใหญ่ในวันนี้เป็นสิ่งที่แสดงถึงความสำเร็จอันเยี่ยมยอดของ World Logistics Passport ที่มีสมาชิกประเทศการค้าเข้าร่วมมากถึง 23 ประเทศจากทั่วโลก ในเวลาเพียงแค่สิบสองเดือน WLP ช่วยให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกเติบโต ช่วยสร้างงาน สนับสนุนการเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ และเพิ่มระดับความยืดหยุ่นให้แก่ห่วงโซ่อุปทานระดับสากลที่อยู่ระหว่างดำเนินการ"

WLP ขยายความร่วมมือไปถึงแอฟริกา

การตัดสินใจของสมาคมการขนส่งและคลังสินค้าระหว่างประเทศของเคนยา (KIFWA) ในการเข้าร่วม WLP ในฐานะพันธมิตรรายแรกในเคนยา ช่วยสร้างรากฐานในการเปิดตัวเคนยาเป็นศูนย์การค้าสำหรับแอฟริกาตะวันออก ด้วยเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและความสัมพันธ์ทางการค้าที่แนบแน่นกับแอฟริกาตะวันออกและแอฟริกากลาง เคนยาจึงอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทต่าง ๆ ในภูมิภาค และ WLP จะร่วมมือกับว่าที่พันธมิตรรายอื่น ๆ ในเคนยาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสมาคมผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและหอการค้าในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อชักนำประเทศต่าง ๆ ให้เข้าร่วมในเครือข่าย

สมาคมผู้ขนส่งสินค้าแห่งแอฟริกาใต้ (SAAFF) ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรของ WLP ด้วยเช่นกัน การดำเนินการนี้ช่วยเร่งให้แอฟริกาใต้ปฏิบัติหน้าที่เป็นประเทศศูนย์กลางได้อย่างเต็มที่ ผ่านขีดความสามารถของ SAAFF ในการขับเคลื่อนผู้ขนส่งสินค้าและบริษัทโลจิสติกส์ชั้นนำในแอฟริกาใต้ให้เข้าร่วมเป็นสมาชิก

การพัฒนาทั้งสองด้านนี้เกิดขึ้นหลังจากข่าวดีเมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ประกาศว่าเอธิโอเปีย บอตสวานา โมซัมบิก บูร์กินาฟาโซ และกินี ล้วนเข้าร่วมเป็นสมาชิก WLP ด้วยความร่วมมือจากสมาชิกใหม่ในโปรแกรม นักธุรกิจจากแอฟริกาและทั่วโลกจะสามารถเข้าถึงตลาดการค้าจากฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตกได้อย่างง่ายดายมากขึ้น ทั้งยังสามารถสั่งสมทุนจากศูนย์กลางการค้าที่สำคัญในทั่วภูมิภาคแอฟริกาใต้และแอฟริกาตะวันออก

WLP ขยายความร่วมมือไปถึงลาตินอเมริกา

ในลาตินอเมริกา ทั้งปารากวัยและเอกวาดอร์จะสามารถเพิ่มความหลากหลายให้สินค้าส่งออกของตนเองได้ ด้วยการเพิ่มจุดหมายปลายทางระหว่างประเทศแห่งใหม่สำหรับนักธุรกิจ WLP ยังเปิดเส้นทางใหม่ให้การส่งออกของปารากวัยที่ปัจจุบันมีการส่งออกไปแค่ประเทศเพื่อนบ้านเท่านั้น และจะช่วยให้ปารากวัยเติบโตในฐานะแหล่งผลิตเชิงอุตสาหกรรมที่สำคัญของภูมิภาค นอกเหนือจากจุดหมายปลายทางใหม่ ๆ สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์อาหารของประเทศแล้ว WLP ยังช่วยปารากวัยลดอัตราการนำเข้าพลังงานและต้นทุนค่าแรงของประเทศได้เช่นกัน 

การเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ WLP จะช่วยให้เอกวาดอร์เติมเต็มศักยภาพด้านโลจิสติกส์ของประเทศ เร่งโปรแกรมการส่งออกที่มีอยู่ เพิ่มอัตราการส่งออกอาหาร พืชผัก และสินค้าประมง ที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของประเทศ รวมถึงการเพิ่มจุดเชื่อมโยงทางการค้ากับศูนย์ดำเนินการหลักในภูมิภา

ท่าเรือยะโฮร์ของมาเลเซียและท่าอากาศยานนานาชาติเดลีของอินเดีย ได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์รายใหม่ในภูมิภาคเอเชียของ WLP

WLP กำลังมีบทบาทที่แข็งแกร่งมากขึ้นในเอเชีย ผ่านการมีพันธมิตรรายใหม่ในอินเดียและการก่อตั้งศูนย์การดำเนินการของ WLP ในมาเลเซีย

การลงทะเบียนของท่าอากาศยานนานาชาติเดลี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของการขนส่งสินค้าทางอากาศของอินเดียนั้น จะช่วยให้นักธุรกิจในอินเดียสามารถส่งออกสินค้าไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้เร็วยิ่งขึ้น นิวเดลียังคงเป็นสถานีสำคัญบนเส้นทางการขนส่งสินค้าทางอากาศในภูมิภาคทรานส์เอเชีย โดยมีสินค้าขนส่งผ่านนิวเดลีกว่าหนึ่งล้านเมตริกตันไปยังจุดหมายปลายทางกว่า 77 แห่งทั่วโลก

การได้ท่าเรือยะโฮร์เข้ามาเป็นพันธมิตรรายใหม่ จึงทำให้มาเลเซียกลายเป็นหนึ่งในศูนย์การดำเนินการที่ใหญ่ที่สุดที่เข้าร่วมกับ WLP ท่าเรือยะโฮร์ยังคงเป็นส่วนหลักของโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งของเส้นทางช่องแคบยะโฮร์ และด้วยระยะทางไปยังสนามบินขนส่งสินค้าที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ 45 กิโลเมตรเท่านั้น ท่าเรือแห่งนี้จึงมีศักยภาพที่จะเติบโตสู่การเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ระดับสากลได้

การเปิดตัวพันธมิตรรายใหม่ทั้งสองรายของ WLP จะช่วยให้มีการเข้าถึงเส้นทางการค้าในลาตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชียได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยให้กระบวนการด้านการค้ามีความยืดหยุ่นและมีความแน่ชัด ในขณะที่สามารถขับเคลื่อนกระแสความนิยมสู่การผลิตสินค้ามูลค่าสูงและการค้าหลากหลายรูปแบบที่มีราบรื่นไร้ปัญหา  

พันธมิตร WLP ได้นำคำปฏิญญาเกี่ยวกับบทบาทของ WLP ไปใช้ในการสร้างระบบนิเวศการค้าที่ยืดหยุ่นและครอบคลุม พร้อมด้วยการสนับสนุนของพันธมิตรทั้งภาครัฐบาลและเอกชน

คำปฏิญญาที่นำไปปฏิบัติใช้โดยประเทศและสมาชิกที่รวมตัวกันอยู่ในงานประชุมนานาชาติของ WLP มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจทั่วโลกผ่านความพยายามที่ช่วยเสริมกิจกรรมที่องค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ ได้ดำเนินการไว้แล้ว คำปฏิญญาได้ระบุไว้ว่าฝ่ายต่าง ๆ จะต้อง:

- ตกลงเกี่ยวกับความสำคัญของการค้าระหว่างประเทศ เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความยืดหยุ่น และความร่วมมือแบบทวิภาค
- รับทราบถึงประโยชน์ของ WLP ในฐานะโครงการริเริ่มของภาคเอกชนที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนและเวลาในการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ
- ประกาศอย่างเป็นทางการว่า WLP จะต้องยอมรับและเปิดกว้างสำหรับทุกประเทศและบริษัทที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดขั้นพื้นฐาน
- รับทราบว่า WLP เป็นส่วนหนึ่งของดำเนินการทางเศรษฐกิจระดับสากล เพื่อกระตุ้นส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศท่ามกลางภาวะวิกฤติของโรคโควิด-19
- ประกาศว่า WLP จะช่วยส่งเสริมโครงการริเริ่มขององค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ เช่น WCO และ FIATA

งานประชุมใหญ่ภายใต้การบริหารงานของ HH Sheikh Ahmed bin Saeed al Maktoum ประธานกรรมการและซีอีโอของ Emirates Group จะมีวิทยากรและผู้ร่วมอภิปรายจากทั่วโลกสลับหมุนเวียนกันมาพูดคุยเพื่อเป็นตัวแทนของผู้นำจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึง:

- ฯพณฯ Amadou Hott รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การวางแผน และความร่วมมือระหว่างประเทศ เซเนกัล
- ฯพณฯ Marcelo Sampaio ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโครงสร้างพื้นฐาน บราซิล
- ฯพณฯ Bakhyt Sultanov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและการบูรณาการ คาซัคสถาน
- ฯพณฯ ดร. Thani Al Zeyoudi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าระหว่างประเทศและรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการด้านการแสวงหาบุคลากรและการดูแลบุคลากร สังกัดกระทรวงเศรษฐกิจ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- Pranab Kumar Das ผู้อำนวยการฝ่ายการปฏิบัติตามกฎระเบียบและการสนับสนุนแผนงาน องค์การศุลกากรโลก
- Sanjiv Edward ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ ท่าอากาศยานเดลี (DIAL)
- Elizabeth Getahun CEO ของ Panafric Global และประธานกรรกมารของสมาคมผู้ขนส่งสินค้าและสมาคมผู้แทนการขนส่งของเอธิโอเปีย
- Bruno Guella กรรมการผู้จัดการ Montevideo Free Airport อุรุกวัย
- Basil Pietersen ประธานกรรมการ สมาพันธ์ผู้ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (FIATA)
- สุลต่าน Ahmed bin Sulayem ประธานกรรมการกลุ่มธุรกิจและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ DP World
- Nabil Sultan รองประธานกรรมการอาวุโสประจำแผนกงาน Emirates SkyCargo

ผู้นำการอภิปรายที่งานประชุมใหญ่จะมีการนำเสนอข้อมูลกรรมสิทธิ์ที่เป็นข้อมูลใหม่จากดัชนีความยืดหยุ่นด้านการขนส่งสินค้าระดับสากล ผลการวิเคราะห์ที่จัดทำโดย Whiteshield Partners ได้จัดอันดับประเทศต่าง ๆ ตามโอกาสด้านนโยบายและผลการปฏิบัติงานด้านการขนส่งสินค้าของประเทศเหล่านั้น

สิงคโปร์ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งบน GFRI ประจำปี 2021 อย่างที่เคยเป็นมาตลอดห้าปีที่ผ่านมา ตามมาด้วยเนเธอร์แลนด์และเดนมาร์ก ในตำแหน่งรองอันดับสองและสาม 10 ประเทศที่ได้คะแนน GFRI สูงสุดก็มาจากกลุ่มประเทศในยุโรปเป็นส่วนใหญ่เช่นเคย ซึ่งเน้นย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นของโปรแกรมอย่างเช่น WLP เพื่อยกระดับขีดความสามารถและเร่งให้เกิดความยืดหยุ่นในระยะยาวสำหรับความสามารถด้านโลจิสติกส์และการค้าของประเทศในกลุ่มลาตินอเมริกา แอฟริกา และเอเชีย

ดัชนีประจำปี 2021 เปิดเผยข้อมูลออกมาตอนที่เรากำลังเรียนรู้บทเรียนจากการระบาดของโควิด-19 ที่เป็นตัวทดสอบระบบโลจิสติกส์ในปี 2020 ในการตอบสนองต่อแนวโน้มและเตรียมพร้อมรับมือสำหรับการเปลี่ยนแปลง ผู้จัดทำนโยบายสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่การขนส่งสินค้าได้ โดยการลงทุนเพิ่มเติมในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี การใช้นโยบายที่ยั่งยืน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมที่มีคุณภาพกับภาคเอกชน

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูที่ https://www.worldlogisticspassport.com/wlp-global-summit  

ติดตามข้อมูลบนสื่อสังคมของ WLP:
Twitter:  @WLP_Logistics
LinkedIn:  World Logistics Passport

ภาพถ่าย - https://mma.prnewswire.com/media/1527721/World_Logistics_Passport.jpg

---