แม้ว่าเศรษฐกิจจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสถานการณ์โรคระบาด แต่รัฐบาลสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสก็สามารถจ่ายเงินให้กับลูกจ้างและผู้รับเงินบำนาญได้ทั้งหมด โดยกลุ่มความร่วมมือทางการเมือง Team Unity ของนายกรัฐมนตรีทิโมธี แฮร์ริส เป็นผู้จัดการเรื่องนี้ และสร้างความมั่นใจว่าไม่มีการปลดลูกจ้างแม้แต่คนเดียวในสถานการณ์โควิด-19
ในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีแฮร์ริสกล่าวว่า ปัจจุบัน รัฐบาลจ่ายเงินให้ลูกจ้างของรัฐ 6,400 คน โดยในปี 2564 มีการจ่ายเงินกว่า 115 ล้านดอลลาร์ให้แก่ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว และผู้รับเงินบำนาญ นอกจากนั้นยังจัดสรรงบประมาณ 21 ล้านดอลลาร์ให้แก่โครงการส่งเสริมการจ้างงาน Skills Training Empowerment Programme (STEP) ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ Citizenship by Investment (CBI) Programme
เขากล่าวเสริมว่า อีกหนึ่งโครงการที่ได้รับเงินจากโปรแกรม CBI นั่นคือ โครงการบรรเทาความยากจน Poverty Alleviation Programme (PAP) ที่มอบค่าครองชีพรายเดือนให้แก่ครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ ได้แจกจ่ายเงิน 13.4 ล้านดอลลาร์ให้ครอบครัวมากมายในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา และนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2561 ทางโครงการได้แจกจ่ายเงินไปแล้วกว่า 70.3 ล้านดอลลาร์
"โชคยังดีที่พลเมืองและผู้พำนักในเซนต์คิตส์และเนวิสที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สามารถเข้าถึงโครงการช่วยเหลือทางสังคมกว่า 20 โครงการ เช่น โครงการคูปองอาหาร, โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียน, โครงการบรรเทาความยากจน, โครงการสนับสนุนเด็กที่ได้รับการอุปถัมภ์, โครงการช่วยเหลือทางการแพทย์ที่นอกเหนือจากการรักษาฟรีในศูนย์ระดับชุมชนทุกแห่งสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ รวมถึงบริการทันตกรรมฟรี, โครงการสนับสนุนเครื่องแบบนักเรียน หนังสือ และค่าสอบ แม้รัฐบาลกำลังเผชิญกับสถานการณ์โรคระบาดที่ร้ายแรงที่สุดจนแม้กระทั่งประเทศมหาอำนาจยังพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ" นายกรัฐมนตรีแฮร์ริสกล่าว
การฝ่าฟันข้อจำกัดทางเศรษฐกิจอันเป็นผลมาจากโควิด-19 เป็นเรื่องยากมากสำหรับประเทศเล็ก ๆ อย่างเซนต์คิตส์และเนวิส อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนเป็นอย่างดีจากนักลงทุนต่างชาติผ่านโปรแกรม CBI ได้ช่วยให้ประเทศสามารถพัฒนาและบริหารการเงินได้
ในปี 2527 เซนต์คิตส์และเนวิสกลายเป็นประเทศแรกในโลกที่ริเริ่มโปรแกรม CBI เพื่อช่วยให้ชาวต่างชาติสามารถขอสัญชาติผ่านการลงทุน และเดินทางได้อย่างอิสระไปยังเกือบ 160 ประเทศ ทั้งยังมีที่พำนักสำรองยามเกิดวิกฤต โดยผู้ที่ลงทุนผ่านทางกองทุน Sustainable Growth Fund สามารถพักอาศัย ทำงาน และเรียนในเซนต์คิตส์และเนวิส ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากภาครัฐ
การลงทุนในกองทุนดังกล่าวเป็นช่องทางที่รวดเร็วและง่ายดายที่สุดในการขอสัญชาติเซนต์คิตส์และเนวิส โดยเปิดโอกาสให้ครอบครัวที่มีสมาชิกไม่เกิน 4 คนขอสัญชาติผ่านการลงทุนเพียง 150,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ต้องลงทุนถึง 195,000 ดอลลาร์ หรือจ่ายน้อยลงถึง 45,000 ดอลลาร์
ติดต่อ:
โทร: +447867942505
อีเมล: pr@csglobalpartners.com
เว็บไซต์: www.csglobalpartners.com