กันตาร์ (Kantar) บริษัทผู้ให้คำปรึกษาด้านแบรนด์และผู้ให้บริการข้อมูลวิเคราะห์ชั้นนำของโลก ประกาศเผยแพร่ผลสำรวจเบื้องต้นจากการศึกษาครั้งใหม่ เพื่อสำรวจนิยามของคำว่าความยั่งยืนในมุมมองของผู้บริโภคชาวเอเชีย โดยผลสำรวจ Asia Sustainability Foundational Study ของกันตาร์ ได้สัมภาษณ์ความคิดเห็นของผู้บริโภคเกือบ 10,000 คนจาก 9 ประเทศทั่วภูมิภาค เพื่อทำความเข้าใจความกังวลและสิ่งที่ผู้บริโภคเหล่านี้ให้ความสำคัญ รายงานดังกล่าวมีข้อค้นพบสำคัญดังนี้
- ผู้บริโภคชาวเอเชียไม่ถึงครึ่งให้ความสนใจหรือมีส่วนร่วมในประเด็นด้านความยั่งยืน
- 19% มองว่าตนเองมีส่วนร่วมในประเด็นด้านความยั่งยืน ขณะที่ 30% มองว่าตนเองให้ความสนใจในประเด็นด้านความยั่งยืน
- 31% มองว่าตนไม่ค่อยสนใจประเด็นด้านความยั่งยืน ขณะที่ 19% ไม่ค่อยเชื่อในเรื่องนี้
- สิ่งที่ผู้บริโภคชาวเอเชียกังวลมากที่สุด 3 เรื่องแรกคือประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม
- มลพิษทางน้ำ (เช่น จากย่าฆ่าแมลงหรือน้ำมันรั่ว)
- สภาพอากาศรุนแรง (น้ำท่วม พายุเฮอร์ริเคน ไฟป่า ภัยแล้ง)
- มลพิษทางอากาศ
- ผู้บริโภค 58% จะยอมสละเวลาและเงินเพื่อสนับสนุนบริษัทที่มีความรับผิดชอบ
- ผู้บริโภค 53% ได้หยุดซื้อผลิตภัณฑ์และบริการที่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
- ผู้บริโภค 58% เผยว่า ตนได้รับผลกระทบจากปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมด้วยตนเอง
การศึกษาดังกล่าวซึ่งเผยแพร่ในเว็บบินาร์ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังได้วัดผลปัจจัย 3 ประการที่บั่นทอนพฤติกรรมความยั่งยืนของผู้บริโภคด้วย ได้แก่ ต้นทุน ความสบายใจ และความสะดวก ซึ่งก่อให้เกิดช่องว่างระหว่างความพอใจกับการกระทำ หรือ Value-Action-Gap ในภูมิภาค การวิจัยดังกล่าวยังนำเสนอกรอบความยั่งยืนของกันตาร์ เพื่อสร้างกลยุทธ์ความสำเร็จที่ยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลางด้วย สิ่งนี้นำแนวทาง 'ดาบและโล่' ไปใช้ เพื่อทำความเข้าใจแนวทางของแบรนด์หมวดต่าง ๆ ในการจัดการกับประเด็นด้านความยั่งยืนอย่างมีความรับผิดชอบ ด้วยการระบุจุดที่ควรให้ความสนใจ หาวิธีปรับจุดมุ่งหมายของแบรนด์ให้สอดรับกับความตึงเครียดของผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ และหาแนวทางคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อเอาชนะช่องว่างระหว่างความพอใจกับการกระทำที่ว่านี้
คุณ Trezelene Chan หัวหน้าฝ่าย Sustainable Transformation Practice ประจำสิงคโปร์ของกันตาร์ สรุปผลการค้นพบนี้ว่า "ระดับการเติบโตของเอเชีย และข้อเท็จจริงที่ว่าเอเชียเป็นแหล่งรวมบริษัทที่ล้ำนวัตกรรมเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกนั้น ทำให้ภูมิภาคนี้มีศักยภาพมหาศาลในการสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์และจัดการกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ผู้บริโภคต่างมองหาแบรนด์ที่มีจุดมุ่งหมายด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเมื่อมองจากแง่มุมทางการตลาดแล้ว จุดมุ่งหมายคือสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ และความยั่งยืนเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเลือกของผู้บริโภค งานวิจัยของเราสะท้อนให้เห็นความสำคัญของการจัดการประเด็นด้านความยั่งยืนด้วยแนวทางแบบท้องถิ่น แม้จุดมุ่งหมายของบริษัทควรมีความมั่นคงแน่วแน่ในระดับสากล การเปลี่ยนสิ่งนั้นให้เป็นการกระทำควรนำปัญหาตึงเครียดของแต่ละตลาดมาพิจารณาด้วย การวิจัยนี้ซึ่งใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับการวิจัยกลุ่มเดียวกัน ทำให้เราค้นพบเป็นครั้งแรกว่า ผู้บริโภคในแต่ละประเทศนั้นใส่ใจประเด็นความยั่งยืนหัวข้อใดมากที่สุด และคำแนะนำในการนำการค้นพบนี้มาแปลงเป็นการกระทำให้สอดรับกับผู้บริโภคแต่ละหมวด"
รายงาน Asia Sustainability Foundational Study 2021 ของกันตาร์ ครอบคลุม 9 ตลาดด้วยกัน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยให้ผลการค้นพบล่าสุดเพื่อช่วยให้แบรนด์ทราบสิ่งที่ชาวเอเชียให้ความสำคัญ และสิ่งที่ควรทำเพื่อช่วยให้องค์กรเดินบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้รวมถึงชมเว็บบินาร์ได้ที่ https://www.kantar.com/campaigns/apac-foundational-study
เกี่ยวกับการศึกษา
รายงาน Asia Sustainability Foundational Study 2021 ของกันตาร์ ครอบคลุม 9 ตลาดด้วยกัน โดยให้ผลการค้นพบล่าสุดเพื่อช่วยให้แบรนด์ทราบสิ่งที่ชาวเอเชียให้ความสำคัญ และสิ่งที่ควรทำเพื่อช่วยให้องค์กรเดินบนเส้นทางแห่งความยั่งยืนได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานฉบับนี้รวมถึงชมเว็บบินาร์ได้ที่ https://www.kantar.com/campaigns/apac-foundational-study
เกี่ยวกับกันตาร์
กันตาร์ เป็นบริษัทที่ปรึกษาและให้บริการข้อมูลเชิงลึกอย่างมีหลักฐานรองรับชั้นนำระดับโลก เรามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและรอบด้านเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้คนคิด รู้สึก และกระทำ ในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก เราผนวกรวมความเชี่ยวชาญของบุคลากรของเรา แหล่งข้อมูลและมาตรฐานของเรา รวมถึงการวิเคราะห์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยของเรา เพื่อช่วยให้ลูกค้าของเราเข้าใจคนและสามารถผลักดันธุรกิจให้เติบโต