VeChain สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้ให้บริการโซลูชั่นบล็อกเชนสาธารณะชั้นนำของโลก หลังจากสั่งสมประสบการณ์การให้บริการมาเป็นเวลาหลายปี
เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ของเราในการทำให้เทคโนโลยีบล็อกเชนสาธารณะถูกนำไปใช้ในวงกว้างได้อย่างยืดหยุ่น ทีมวิจัยและพัฒนาของ VeChain จึงได้สร้าง SURFACE (PoA 2.0) ซึ่งย่อมาจาก Secure, Use-case-adaptive, Relatively Fork-free Approach of Chain Extension หมายถึงส่วนต่อขยายที่ปลอดภัย ปรับให้เข้ากับรูปแบบการใช้งานได้ และลดความน่าจะเป็นของการเปลี่ยนกฎเกณฑ์และการตั้งค่าต่าง ๆ ในระบบบล็อกเชน
กลไกการสร้างฉันทามติแบบใหม่นี้สร้างขึ้นเพื่อขจัดจุดอ่อน และเพื่อใช้ประโยชน์ของฉันทามติหลักสองประเภท ได้แก่ Nakamoto Consensus และ Byzantine Fault Tolerance (BFT) ด้วยกลไกใหม่นี้ บล็อกเชน VeChainThor สามารถเพิ่มความสามารถในการรับส่งข้อมูลสูงสุด ควบคู่ไปกับการรับรองความสมบูรณ์ของข้อมูล สิ่งนี้มีหมายความในทางปฏิบัติว่า กรณีการใช้งานที่มีปริมาณมากสามารถเกิดขึ้นได้บนเครือข่าย on-chain ที่มีระดับความปลอดภัยของข้อมูลสูงสุด ซึ่งหาไม่ได้ในแพลตฟอร์มบล็อกเชนอื่น ๆ
การอัปเดตครั้งใหญ่นี้ทำให้ VeChainThor กลายเป็นแพลตฟอร์มโอเพนซอร์สที่ยอดเยี่ยมสำหรับบริษัท รัฐบาล หรือใครก็ตามที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชันของตนเองบนบล็อกเชนสาธารณะที่มีความปลอดภัย ต้นทุนต่ำ แก้ไขเปลี่ยนแปลงไม่ได้ และมีคุณสมบัติครบถ้วน
วันนี้ VeChain Foundation มีความภูมิใจที่ได้เปิดตัวเครือข่ายทดสอบ (testnet) สาธารณะใหม่ล่าสุดที่มีการติดตั้งใช้งาน VIP-193 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งนับเป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่การใช้ PoA 2.0 อย่างเต็มรูปแบบบนเครือข่ายหลัก (mainnet)
ตามที่มีการอธิบายไว้ในรายงานเรื่อง SURFACE: A Practical Blockchain Consensus Algorithm for Real-World Networks อัลกอริทึมฉันทามติ PoA 2.0 ประกอบด้วยสามองค์ประกอบหลัก ได้แก่
- แหล่งที่มาของการสุ่มโดยใช้ VRF
- กระบวนการผลิตบล็อกที่รับรองโดยคณะกรรมการ
- กระบวนการยืนยันการสรุปบล็อกแบบพาสซีฟ
อัลกอริทึมนี้ถูกเสนอผ่าน VIPs (VeChain Improvement Proposals) สองรายการ ได้แก่ VIP-193 และ VIP-200 โดย VIP-193 มุ่งเน้นไปที่สององค์ประกอบแรก ในขณะที่ VIP-200 อธิบายองค์ประกอบสุดท้าย
ตามแผนงานของเราที่แสดงไว้ด้านล่างนั้น การใช้ VIP-193 บนเครือข่ายทดสอบสาธารณะได้ช่วยเสริมความมั่นใจให้กับเราในการดำเนินการอัปเกรดอัลกอริทึมหลักนี้อย่างเป็นทางการ
PoA 2.0: รากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัล
PoA 2.0 ปูทางสู่การนำบล็อกเชนสาธารณะไปใช้ในวงกว้าง ด้วยการจัดการกับจุดอ่อนของกลไกลักษณะเดียวกันที่พบในบล็อกเชนอื่น ๆ โดยมีคุณสมบัติที่สำคัญ ดังนี้:
แหล่งที่มาของการสุ่มโดยใช้ VRF: เป็นฟังก์ชันที่สร้างความสมดุลระหว่างความคาดเดาไม่ได้กับความเป็นกลางของกำหนดการเสนอบล็อก เพื่อให้มั่นใจถึงระดับความปลอดภัยสูงสุดของข้อมูล ตัวอย่างเช่น การกล่าวหา (adversaries) จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการคัดเลือกผู้นำเพื่อควบคุมผู้เสนอบล็อกติดต่อกันหลายราย รวมทั้งไม่สามารถคาดเดาและทำลายผู้เสนอบล็อกติดต่อกันได้ด้วยเช่นกัน
การผลิตบล็อกที่รับรองโดยคณะกรรมการ: เป็นกระบวนการที่ลดความน่าจะเป็นของการเปลี่ยนกฎเกณฑ์และการตั้งค่าต่าง ๆ ในระบบบล็อกเชน (fork) ได้อย่างมาก ซึ่งลดความล่าช้าในการยืนยันและเพิ่มปริมาณงาน (TPS)
กลไกการสรุป: ฟีเจอร์นี้จะช่วยในการสรุปบล็อก โดยมีประสิทธิภาพที่ดีแม้ในสภาวะแบบอะซิงโครนัส (asynchronous) อีกทั้งยังมีความสอดคล้องกัน ด้วยเหตุนี้ บล็อกที่อยู่ใน PoA 2.0 จะได้รับการยืนยันก่อนในขั้นแรกด้วยเวลาแฝงที่ต่ำมาก จากนั้นจึงจะมีการสรุปผลภายในระยะเวลาที่นานขึ้น ซึ่งหมายความว่าบล็อกที่สรุปผลแล้ว (รวมถึงธุรกรรมทั้งหมดที่บรรจุอยู่ในบล็อก) สามารถพิสูจน์ได้ในทางทฤษฎีว่าเปลี่ยนแปลงแก้ไขไม่ได้ในทุกสถานการณ์
อนาคตที่แน่นอน
PoA 2.0 ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและความปลอดภัยที่มากขึ้นจากลูกค้าระดับองค์กรและธุรกิจที่กำลังพัฒนาโซลูชันด้วยชุดเครื่องมือของเรา และด้วยการมีส่วนร่วมของผู้เชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนจากพันธมิตรชั้นนำของ VeResearch กลไก PoA 2.0 จึงถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมบล็อกเชนทั้งหมด
ทั้งนี้ หลังจากที่ VIP-193 ได้รับการเปิดตัวสู่สาธารณะแล้ว VeChainThor จะยังคงเดินหน้าภารกิจในการจัดหาโปรโตคอลระดับโครงสร้างพื้นฐานที่ปลอดภัย ปรับขนาดได้ เชื่อถือได้ และคุ้มค่าใช้จ่าย ในระหว่างที่รอคอยการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลทั่วโลกที่กำลังใกล้เข้ามา
เกี่ยวกับ VeChain Foundation
VeChain Foundation ทุ่มเททำงานเพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างเทคโนโลยีบล็อกเชนกับโลกแห่งความจริง การพัฒนา VeChainThor ยังคงก้าวต่อไป โดยเปลี่ยนจากเครือข่ายแบบกลุ่ม ไปสู่แพลตฟอร์มบล็อกเชนสาธารณะที่ดีที่สุด โดยใช้ฉันทามติแบบ Proof of Authority แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติทางเทคนิคขั้นสูง โครงสร้างการกำกับดูแล และแบบจำลองเศรษฐกิจ
ในฐานะที่เป็นตัวขับเคลื่อนระบบนิเวศ ภารกิจของทางมูลนิธิคือการเสริมสร้างศักยภาพให้กับผู้สร้างและนวัตกร โดยการพัฒนาเครื่องมือที่ขจัดความยากลำบากในการใช้งานได้อย่างเป็นระบบ การพัฒนาชุดเครื่องมือนวัตกรรมใหม่ เช่น การทำธุรกรรมพร้อมกันเป็นจำนวนมาก การจัดสรรค่าธรรมเนียม และ VeChain ToolChain(TM) ทำให้ VeChain สามารถลดกำแพงอุปสรรคสำหรับธุรกิจและนักพัฒนาลงได้อย่างมาก
นอกจากพันธมิตรทางธุรกิจรายสำคัญอย่าง PwC และ DNV แล้ว VeChain ยังทำงานร่วมกับบริษัทชั้นนำของโลก ได้แก่ Walmart China, Bayer China, BMW Group, BYD Auto, PICC, Shanghai Gas, LVMH, D.I.G, ASI Group และอีกมากมาย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงเครื่องมือ/เอกสารสำหรับนักพัฒนา และเงินสนับสนุนของมูลนิธิ สามารถดูได้ที่ www.vechain.org
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1582106/vechain.jpg
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/738221/VeChain_Logo.jpg