- หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์เปิดไฟให้ดูไบสว่างไปทั้งเมืองด้วยการแสดงแสงสุดพิเศษบนตึก Burj Khalifa ด้วยแนวคิด 'สร้างอนาคตที่มีก๊าซคาร์บอนต่ำและดีต่อสิ่งแวดล้อม' ซึ่งนับเป็นการปิดฉากการประชุมสุดยอด Global Digital Power Summit ประจำปี 2564 ลงอย่างสวยงามโดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 500 คนจาก 67 ประเทศ
- หัวเว่ยเรียกร้องให้มีการดำเนินการร่วมกันจากลูกค้าและพันธมิตรทั่วโลกเพื่อเข้าร่วมในแผนริเริ่ม Carbon Neutrality Initiative ใหม่ โดยองค์กร และผู้กำหนดนโยบายจากทั่วโลกต่างก็สนับสนุนแผนริเริ่มนี้ในระหว่างการประชุมสุดยอด
- หัวเว่ยลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ Grupo IMELSA และ HYBRICO Energy เพื่อความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในด้านการพัฒนาพลังงานสะอาด และโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว
- หัวเว่ยลงนามในสัญญาฉบับสำคัญกับ SEPCOIII สำหรับโครงการ Red Sea Project ที่มีกำลังผลิตขนาด 400 MW PV บวกกับงานระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ (BESS) ขนาด 1300 MWh ซึ่งเป็นโครงการกักเก็บพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของโลกในขณะนี้
หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ (Huawei Digital Power) ได้ปิดฉากงานประชุมสุดยอด Global Digital Power Summit ประจำปี 2564 ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้ว โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 500 คนจาก 67 ประเทศ ในขณะที่โลกกำลังให้ความสำคัญอันดับหนึ่งกับความเป็นกลางทางคาร์บอน การฟื้นฟูหลังโรคระบาด งานประชุมสุดยอดครั้งนี้ก็มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลให้เกิดการดำเนินการร่วมกันเพื่อมุ่งไปสู่สังคมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ และใช้งานระบบอัจฉริยะมากขึ้นโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นพลังขับเคลื่อน
Charles Yang รองประธานอาวุโสของหัวเว่ย และประธานฝ่ายการขายการตลาด และบริการโลกจากหัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ กล่าวคำปราศรัยครั้งสำคัญว่า "ความเป็นกลางทางคาร์บอนได้กลายมาเป็นฉันทามติและพันธกิจระดับโลก ดังนั้นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว กระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้าจะต้องปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ และการใช้พลังงานก็จำเป็นต้องถูกขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า หัวเว่ยจึงได้ผนวกรวมเทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ไว้ด้วยกันอย่างลึกล้ำ เพื่อสร้างโซลูชันพลังงานที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำในทุกสถานการณ์ ซึ่งจะครอบคลุมกระแสพลังงานทั้งหมดนับตั้งแต่การผลิตไฟฟ้าสีเขียวไปสู่การใช้ไฟฟ้าแบบคุ้มค่า"
เนื่องจากมีประเทศจำนวนมากขึ้นที่เข้าร่วมเส้นทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โลกจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยโอกาสสำหรับการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน และโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว ในงานประชุมสุดยอดครั้งนี้ ผู้นำในภาคอุตสาหกรรม และเจ้าหน้าที่รัฐบาลจากธุรกิจ PV, Data Center และ Site Power อาทิ วุฒิสมาชิก Rocio Adriana Abreu Artina ประธานคณะกรรมาธิการพลังงานประจำวุฒิสภาแห่งสาธารณรัฐเม็กซิโก, Sanjay Kumar Sainani รองประธานอาวุโสและซีทีโอระดับโลกจากหัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์, Mohammad Saeed Bin Sulaiman ซีอีโอ Data Hub Integrated Solutions (MORO), Hariram Subramanian ซีทีโอ หัวเว่ย ฟิวชันโซลาร์, Manish Singhal ผู้อำนวยการฝ่าย Solar PV บริษัท ACWA Power, Michel FRAISSE รองประธานและซีอีโอหัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ ยุโรป, Jasem Al Marzooqi ผู้อำนวยการฝ่าย Data Centers & Telecom Facilities บริษัท Emirates Integrated Telecommunications Company, du, ศาสตราจารย์ Rabih Bashroush ผู้อำนวยการระดับโลก, IT Infrastructure Advisory, Uptime Institute และอีกหลายท่าน ได้มาร่วมแบ่งปันเทคโนโลยี, ข้อมูลเชิงลึก และนโยบายต่างๆเพื่อตอบสนองโอกาสในอนาคตในด้านพลังงานหมุนเวียน และโครงสร้างพื้นฐาน ICT สีเขียว
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีผู้เชี่ยวชาญจากพลังงานในศูนย้ข้อมูล อาทิ Simon McCormick ซีทีโอจาก Echelon, Seppo Ihalainen ซีอีโอ และผู้ร่วมก่อตั้ง Ficolo, ศาสตราจารย์ Rabih Bashroush ผู้อำนวยการระดับโลก IT Infrastructure Advisory, Uptime Institute และ Jim Campbell, BEng (Hons) Building Services, MIET, ATD, ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคบริษัท RED ประจำภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้เข้าร่วมในการอภิปรายแบบเป็นคณะที่มี Sanjay Kumar Sainani เป็นวิทยากร นอกจากนี้ Amit Beriya ผู้อำนวยการฝ่ายกักเก็บพลังงานและไฮโดรเจน (BD Technical Services) บริษัท ACWA Power, George Pechlivanoglou ซีทีโอบริษัท Eunice, Ana Lia Rojas ประธานบริษัท EnerConnex Chile และประธานสภาเพื่อผู้นำสตรีในด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมชิลี, CWEEL และ Edson Uamusse ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์และที่ปรึกษาประธาน กองทุนพลังงานแห่งโมซัมบิก ได้แบ่งปันข้อมูลเชิงลึกจากอุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งมี Hariram Subramanian เป็นวิทยากร เพื่อนำการเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานสีเขียว
การเป็นพันธมิตรเพื่ออนาคตสีเขียวมากขึ้นและสดใส
หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์ในการใช้ฮาร์ดแวร์แบบเปิด, ซอฟต์แวร์แบบโอเพ่นซอร์ส และความร่วมมือแบบลำดับชั้นกับผู้เล่นในภาคอุตสาหกรรมเพื่ออนาคตที่สีเขียวมากขึ้นและสดใสยิ่งขึ้น ดังนั้น หัวเว่ยจึงได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ Grupo IMELSA และ HYBRICO เพื่อความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ในเรื่องการพัฒนาพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของงานประชุมสุดยอดครั้งนี้ นอกจากนี้ หัวเว่ยยังลงนามในสัญญาฉบับสำคัญกับ SEPCOIII สำหรับโครงการทะเลแดงที่มีการผลิตขนาด 400 MW PV บวกกับงานระบบกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ (BESS) ขนาด 1300 MWh ซึ่งเป็นโครงการกักเก็บพลังงานที่ใหญ่ที่สุดของโลกในขณะนี้
สิ่งที่ทำให้หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์แตกต่างจากบริษัทอื่น ๆ ก็คือหลักปรัชญาที่เป็นเอกลักษณ์นั่นคือ "Use Bits to Manage Watts" หรือใช้ระบบดิจิทัลจัดการระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณ Yang ตั้งข้อสังเกตว่า บริษัทจะใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างไรเพื่อบริหารจัดการไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ โดยจัดหาโซลูชันที่ปรับให้ใช้ง่าย, รักษาสิ่งแวดล้อม, เป็นระบบอัจฉริยะและมั่นคงเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้าที่สะอาด, โครงสร้างพื้นฐาน ICT สีเขียว, การจ่ายกระแสไฟฟ้าให้แก่ระบบคมนาคม และพลังงานอัจฉริยะครบวงจร
ประกาศแผนริเริ่มความเป็นกลางทางคาร์บอน
ความเป็นกลางทางคาร์บอนลายเป็นฉันทามติและภารกิจของโลกแล้ว โดยในงานประชุมสุดยอดครั้งนี้ หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์จึงได้เรียกร้องให้ทั่วโลกดำเนินการเพื่อการพัฒนาแบบคาร์บอนต่ำ และยั่งยืน ซึ่งจำเป็นต้องมีการคิดค้นนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง, การนำพฤติกรรมสีเขียวมาใช้ และการร่วมมือกันเพื่อสร้างระบบอีโคซิสเต็มแบบเปิด และได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
Liu Fangjiang ประธาน SEPCOIII International, Eaman Al Roudhan ซีอีโอ Zain Kuwait, วุฒิสมาชิก Rocio Adriana Abreu Artina ประธานคณะกรรมาธิการพลังงานประจำวุฒิสภาสาธารณรัฐเม็กซิโก, Ahmad Abdulkarim Julfar กรรมการ, ผู้บริหาร, กรรมการผู้จัดการจาก du และ Simon McCormick ซีทีโอ Echelon ล้วนสนับสนุนแผนริเริ่มนี้ของหัวเว่ยในงานประชุมสุดยอด พร้อมกันกับคุณ Yang
ด้วยความร่วมมือแบบเปิด และการร่วมกันคิดค้นนวัตกรรม บัดนี้ หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์ และพันธมิตรทั่วโลกของบริษัทจึงมีพันธะกิจร่วมกันเพื่อต่อสู้กับภาวะโลกร้อน และมีส่วนสนับสนุนที่มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนทั่วโลก
เปิดไฟตึก Burj Khalifa ให้สว่างไสวเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและริเริ่มการเปลี่ยนแปลง
เพื่อปิดฉากการประชุมสุดยอด Global Digital Power Summit ประจำปี 2564 ด้วยความตื่นตาตื่นใจ หัวเว่ย ดิจิทัล พาวเวอร์จึงได้เปิดไฟทั่วทั้งตึก Burj Khalifa ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก และแลนด์มาร์คที่เป็นสัญลักษณ์ในนครดูไบเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาคมโลกเร่งการเปลี่ยนแปลงที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสร้างสังคมที่มีก๊าซคาร์บอนต่ำ และระบบอัจฉริยะด้วยกัน
เกี่ยวกับหัวเว่ย
หัวเว่ย ก่อตั้งขึ้นในปี 2530 เป็นผู้นำของโลกด้านโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และอุปกรณ์อัจฉริยะ เรามีพนักงานกว่า 197,000 คน และดำเนินงานในกว่า 170 ประเทศและภูมิภาค เพื่อให้บริการลูกค้ากว่า 3 พันล้านคนทั่วโลก
วิสัยทัศน์และพันธกิจของเราคือ การนำดิจิทัลไปสู่ทุกคน ทุกบ้าน และทุกองค์กร เพื่อโลกอัจฉริยะที่เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ เราจะผลักดันการเชื่อมต่อที่มีอยู่ทุกแห่งและส่งเสริมการเข้าถึงเครือข่ายอย่างเท่าเทียม นำคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ไปยังทุกมุมโลกเพื่อมอบพลังการคำนวณที่เหนือกว่าในที่ที่ต้องการและในเวลาที่จำเป็น สร้างแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อช่วยให้ทุกอุตสาหกรรมและองค์กรคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และกระฉับกระเฉงมากขึ้น ตลอดจนเปลี่ยนนิยามประสบการณ์ผู้ใช้ด้วย AI เพื่อมอบความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้นสำหรับประชาชนในทุกมุมมองของชีวิต ไม่ว่าจะที่บ้าน ที่ทำงาน หรือขณะเดินทาง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.huawei.com หรือติดตามเราทาง
http://www.linkedin.com/company/Huawei
http://www.twitter.com/Huawei
http://www.facebook.com/Huawei
http://www.youtube.com/Huawei
รูปภาพ
1. https://mma.prnewswire.com/media/1662713/press_release1.jpg
2. https://mma.prnewswire.com/media/1662714/press_release2.jpg
3. https://mma.prnewswire.com/media/1662715/press_release3.jpg
4. https://mma.prnewswire.com/media/1662716/press_release_4.jpg