Toko Token (TKO) ซึ่งเป็นเหรียญ Native Utility Token (NUT) ของ Tokoscape ระบบนิเวศคริปโตครบวงจรที่ครอบคลุมสกุลเงินดิจิทัล (Tokocrypto) ชุมชนออฟไลน์ (T-Hub) และตลาดซื้อขาย NFT (TokoMall) ประกาศว่าจะเริ่มทำการเผาเหรียญครั้งใหม่ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ซึ่งสอดคล้องกับเอกสาร Litepaper ที่ระบุว่าจะทำการเผาทำลายเหรียญ TKO ทุกไตรมาส
TKO เปิดตัวผ่าน Binance Launchpad และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 โดยดึงดูดการลงทุนคิดเป็นมูลค่ากว่า 4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ TKO เป็นเหรียญ NUT ของ Tokocrypto สกุลเงินคริปโตที่เชื่อถือได้มากที่สุดของอินโดนีเซีย และเป็นสกุลเงินแรกของอินโดนีเซียที่ได้รับการจดทะเบียนภายใต้กระทรวงการค้าและการแลกเปลี่ยนสัญญาล่วงหน้า (BAPPEBTI)
"การเผาเหรียญประจำไตรมาสมีบทบาทสำคัญในการสร้างสมดุลให้กับมูลค่าและอุปสงค์ของ Toko Token (TKO) ซึ่งมีความสำคัญต่อการบริหารจัดการความเฟ้อของเหรียญ โดยโทเคนระดับบลูชิปอื่น ๆ เช่น Binance Coin (BNB) และ Ether (ETH) ต่างก็มีการเผาเหรียญเช่นเดียวกัน" Omar Adrian Rozak ประธาน TKO International กล่าว
การเผาเหรียญเปรียบได้กับการยกเลิกสกุลเงิน
การเผาเหรียญมีลักษณะคล้ายคลึงกับการยกเลิกสกุลเงิน แต่ก็ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เพราะการยกเลิกสกุลเงินเป็นการแทนที่สกุลเงินเก่าด้วยสกุลเงินใหม่ แต่การเผาเหรียญจะไม่มีการทดแทนเหรียญที่ถูกเผาทำลาย เพื่อให้กลไกการควบคุมความเฟ้อของเหรียญมีประสิทธิภาพ โดยการลดจำนวนเหรียญ TKO จะช่วยลดความเฟ้อของเหรียญ ส่งผลให้เหรียญ TKO หนึ่งเหรียญสามารถแลกเปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการได้ในปริมาณมากขึ้น สรุปง่าย ๆ คือ การเผาเหรียญ TKO ประจำไตรมาสครั้งที่ 2 จะช่วยเพิ่มอำนาจซื้อของเหรียญ TKO จึงทำให้ผู้ถือเหรียญ TKO ถือครองมูลค่าสูงขึ้นนั่นเอง
การเผาเหรียญ TKO ประจำไตรมาสครั้งที่ 2
การเผาเหรียญ TKO ประจำไตรมาสครั้งที่ 2 จะดำเนินการโดยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน ตั้งแต่วันที่ 5-10 พฤศจิกายน 2564 และในอนาคต Tokoscape จะเดินหน้าเผาเหรียญส่วนหนึ่งจากการซื้อขาย Tokocrypto เพื่อเพิ่มมูลค่าของเหรียญ โดยมีเป้าหมายในการสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่ผู้ถือเหรียญ TKO
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.tokoscape.com
ติดต่อ:
Anindita
อีเมล: anindita@tokocrypto.com
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1672521/GLOBAL_TKO_BURN_PRESS_RELEASE.jpg
คำบรรยายภาพ - Toko Token (TKO) เผาเหรียญครั้งที่ 2