รัฐบาลเขตเหวินเจียงในเมืองเฉิงตูได้ประกาศให้ความสำคัญต่อการก่อสร้างเส้นทางสีเขียว การยกระดับระบบนิเวศทางน้ำ และเพิ่มการปกป้องวัฒนธรรมโดยมุ่งเน้นไปที่วัดขงจื้อ ภายใต้วัตถุประสงค์ในการรังสรรค์สิ่งแวดล้อมที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้นให้กับประชาชน
ตู้ฝู่ ยอดกวีสมัยราชวงศ์ถัง (618-907) ได้พรรณาทัศนะที่มีต่อเมืองเฉิงตูดังนี้ "เหม่อมองออกนอกบัญชร หยาดน้ำฟ้าสถิต ณ เทือกเขาหิมะซีหลิง ดำรงอยู่เช่นนี้มานับพันสารท"
ฉากเดียวกันนี้ยังคงพบเห็นได้เช่นเดิมในเขตเหวินเจียง ด้วยความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของภาครัฐในการปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างเด็ดเดี่ยว
เขตเหวินเจียงซึ่งครอบคลุมอาณาบริเวณ 277 ตารางกิโลเมตรเป็นที่รู้จักกันในสมญานาม "เหวินเจียงทองคำ" เพราะมีสภาพอากาศดี พร้อมสรรพด้วยแม่น้ำและพืชพันธุ์เขียวขจี ตลอดจนผลผลิตภาคกสิกรรมและอุตสาหกรรมอันอุดมสมบูรณ์
ทั้งนี้ เหวินเจียงมีโครงการก่อสร้างระบบเส้นทางสีเขียวระยะ 698 กิโลเมตร ด้วยความมุ่งหวังที่จะพลิกฟื้นเขตชนบทและส่งเสริมการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมในภาคส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่การท่องเที่ยว ความคิดสร้างสรรค์ กีฬา และการพักผ่อนหย่อนใจในภูมิภาคดังกล่าว
ที่ผ่านมารัฐบาลเขตเหวินเจียงรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การแข่งวิ่งมาราธอนนานาชาติและการแข่งขันปั่นจักรยานบนเส้นทางสีเขียว "เป่ยหลินกรีนเวย์" ซึ่งเป็นพื้นที่ทางตอนเหนือของเส้นทางสีเขียวที่มีระยะทาง 65 กิโลเมตร
ขณะเดียวกัน แม่น้ำเจียงอันและแม่น้ำจินหม่าเป็นแม่น้ำสองสายที่ไหลผ่านเขตเหวินเจียง รัฐบาลเหวินเจียงจึงได้ตัดสินใจปรับปรุงพื้นที่ตลอดแนวฝั่งแม่น้ำทั้งสองเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว โดยรัฐบาลเหวินเจียงจะรังสรรค์สิ่งอำนวยความสะดวกและสวนสาธารณะเชิงนิเวศเพื่อยกระดับมาตรฐานการดำรงชีวิตของคนท้องถิ่น
หาดโคลนลู่เจีย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพื้นที่ด้อยพัฒนาของแม่น้ำจินหม่าในเขตเหวินเจียง แต่ทุกวันนี้ได้รับการพัฒนาจนกลายมาเป็นสวนสาธารณะ โดยสวนแห่งนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเกือบ 1 ล้านคนเป็นประจำทุกปี และมีประชาชนหลั่งไหลกันเข้ามาประกอบกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ ปั่นจักรยาน, วิ่ง, ชมทิวทัศน์, ถ่ายภาพและแคมป์ปิ้ง
นอกเหนือจากการรังสรรค์โครงสร้างพื้นฐานและทัศนียภาพใหม่ ๆ เขตเหวินเจียงยังได้เปิดตัวแผนปรับปรุงชุมชนเก่าแก่มากมาย
ถนนทวนเจี๋ย ซึ่งเป็นหนึ่งในถนนเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานนับศตวรรษ ยังคงรักษารูปลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้หลังผ่านการบูรณะซ่อมแซม โดยสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิตดั้งเดิม เช่น งานหิน ร้านเต้าหู้ และโรงน้ำชาโบราณ ต่างก็อ้าแขนต้อนรับแขกเหรื่อที่ปรารถนาจะสัมผัสเสน่ห์แบบโบราณของเขตเหวินเจียง
วัดขงจื้อถือเป็นสีสันพิเศษที่สะท้อนถึงประวัติความเป็นมาของเหวินเจียง รัฐบาลเขตเหวินเจียงจึงตัดสินใจพัฒนาเขตวัฒนธรรมขึ้นโดยมีวัดแห่งนี้เป็นศูนย์กลาง
ในอนาคต เขตเหวินเจียงจะเดินหน้าส่งเสริมการพัฒนาเชิงวัฒนธรรมอย่างไม่หยุดยั้งพร้อม ๆ ไปกับการยกระดับการมีปฏิสัมพันธ์กับประชาชนและบรรลุเป้าหมายที่สูงขึ้นในด้านการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1711513/IMAGE.jpg