การแข่งขันฟู้ดเทค ชาเลนจ์ (FoodTech Challenge) ระดับโลก ครั้งที่ 2 เพื่อเฟ้นหาคลื่นลูกใหม่ของนวัตกรรมเทคโนโลยีที่มุ่งพลิกโฉมการทำเกษตรแบบดั้งเดิมอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ได้เปิดฉากขึ้นแล้วในมหกรรมเอ็กซ์โป 2020 (EXPO 2020) ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และในวันนี้ได้มีการเปิดเผยมูลค่ารางวัลรวมของการแข่งขันซึ่งสูงถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การแข่งขันนี้มุ่งเน้นไปที่สตาร์ทอัพซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ตั้งแต่ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยจากนานาชาติ ไปจนถึงผู้ประกอบการรายย่อยและบริษัทขนาดเล็ก โดยเปิดรับนวัตรกรรมในสองภาคส่วนสำคัญ ได้แก่ "การผลิตอาหาร" เพื่อให้มีอาหารเพียงพอและอุดมสมบูรณ์ รวมทั้งสำรวจอาหารทางเลือกแห่งอนาคตที่อุดมไปด้วยสารอาหาร และ "การสูญเสียอาหารและขยะอาหาร" เพื่อรับประกันความยั่งยืนทั่วห่วงโซ่อุปทานอาหารและทั่วโลก
ผู้ชนะจะได้รับรางวัลรวมมูลค่าสูงถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมโอกาสในการขยายโมเดลธุรกิจของตนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ตลอดจนได้รับการสนับสนุนด้านการวิจัยและพัฒนา, การบ่มเพาะสตาร์ทอัพ, มาตรการจูงใจทางการค้า และคำปรึกษา เพื่อพัฒนาแนวคิดของผู้ชนะจากห้องแล็บไปสู่ตลาดจริง การแข่งขันครั้งนี้เปิดรับผลงานจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศที่มุ่งเน้นเทคโนโลยีการเกษตร
การแข่งขันฟู้ดเทค ชาเลนจ์ จัดขึ้นโดยกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และทัมคีน (Tamkeen) หน่วยงานของอาบูดาบีที่ร่วมมือกับสถาบันชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อดำเนินโครงการที่ช่วยส่งเสริมภูมิทัศน์ทางสังคม วัฒนธรรม และการศึกษาของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะเดียวกัน การแข่งขันครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากแอสไพร์ (ASPIRE) หน่วยงานหลักด้านการจัดการโครงการของสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ATRC) ซึ่งดูแลในส่วนของการระดมทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีของอาบูดาบีและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ การแข่งขันแต่ละส่วนยังได้รับการสนับสนุนจากผู้นำในท้องถิ่น ได้แก่ เอดีคิว (ADQ) และซิลาล (Silal) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนด้านการเพิ่มการผลิตอาหาร และมูลนิธิเอมิเรตส์ (Emirates Foundation) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนด้านการลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร
คุณมาเรียม อาล์มเฮรี (Mariam Almheiri) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวว่า "ความสำคัญของความมั่นคงทางอาหารมีความเกี่ยวข้องกับเรามากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เนื่องจากความท้าทายด้านห่วงโซ่อุปทานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ส่งผลกระทบต่อโลกของเรา เราจึงถูกกดดันให้คิดใหม่เกี่ยวกับอาหารในโลกอนาคต ตลอดจนคิดใหม่เกี่ยวกับแนวปฏิบัติด้านการเกษตรที่ยืดหยุ่น และการใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อดำเนินการในส่วนนี้ ซึ่งการแข่งขันฟู้ดเทค ชาเลนจ์ ก็ทำให้เราเข้าใกล้ทางออกของปัญหามากขึ้น อีกทั้งยังสร้างความตระหนักถึงบทบาทสำคัญของนวัตกรรมในการรับมือกับควาท้าทายร่วมกันของเราทุกคน"
คุณริมา อัล โมคาร์รับ (Rima Al Mokarrab) ประธานของทัมคีน กล่าวเสริมว่า "การตอบสนองต่อความมุ่งมั่นด้านความมั่นคงทางอาหารในระยะยาวและในวงกว้างของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ต้องอาศัยแนวทางที่กล้าได้กล้าเสีย เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ โมเดลใหม่ ๆ และการประสานงานอย่างกว้างขวางกับระบบนิเวศเทคโนโลยีการเกษตรทั่วโลก การแข่งขันฟู้ดเทค ชาเลนจ์ ได้รวบรวมพันธมิตรที่ทรงพลังจากหลายภาคส่วนซึ่งมีส่วนช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้า ด้วยการสนับสนุนโซลูชันที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และใช้งานได้จริงในเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์"
คุณไฟซาล อัล บันไน (Faisal Al Bannai) เลขาธิการของสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง ได้เน้นย้ำถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ ว่า "ปัจจุบัน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นหนึ่งในสถานที่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลกในด้านนวัตกรรมและการใช้พลังของเทคโนโลยีสุดล้ำเพื่อช่วยไขคำตอบของปัญหาที่เร่งด่วนที่สุดในสังคม การแข่งขันฟู้ดเทค ชาเลนจ์ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของเรื่องนี้ โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์พร้อมต้อนรับหัวกะทิจากทั่วโลกที่มารวมตัวกันเพื่อสร้างความร่วมมือ สำรวจ และก้าวข้ามขีดจำกัดด้านเทคโนโลยีการเกษตร"
นอกจากนี้ การแข่งขันยังได้รับการสนับสนุนจากศูนย์กลางทางการเงินอาบูดาบี โกลบอล มาร์เก็ต (Abu Dhabi Global Market), สำนักงานพลเมืองอาบูดาบี (Abu Dhabi Residents Office), คะตะลิสต์ แอคเซลเลอเรเตอร์ (Catalyst Accelerator) และกองทุนคาลิฟาเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจ (Khalifa Fund for Enterprise Development)
การแข่งขันนี้จะเปิดรับสมัครจนถึงเดือนมิถุนายน จากนั้นจะมีการคัดเลือกผลงานที่ผ่านเข้ารอบ โดยทีม 10 อันดับแรกจะมีโอกาสนำเสนอผลงานในพิธีมอบรางวัลในเดือนพฤศจิกายน ผู้ที่สนใจสามารถส่งใบสมัครได้ทาง www.foodtechchallenge.com
ทั้งนี้ การแข่งขันฟู้ดเทค ชาเลนจ์ ครั้งแรก มีผู้สมัครเข้าร่วมการแข่งขัน 437 ราย จาก 68 ประเทศ โดยผู้ชนะมาจากประเทศออสเตรเลีย ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และสหราชอาณาจักร
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1777878/FoodTech_Challenge_Logo.jpg