คิง สตีล แมชีนเนอรี่ โค จำกัด (King Steel Machinery Co., Ltd) หรือคิง สตีล ผู้ให้บริการเหล็กครบวงจรระดับโลกที่มีพันธกิจระยะยาวในการสร้างสรรค์เครื่องฉีดขึ้นรูปที่มีหัวฉีดหลายตัวและเวิร์กสเตชันเครื่องมือหลายตัว ได้พัฒนาหัวฉีดหลายตัวและระบบแคลมป์ยึดแม่พิมพ์ (MICS) ระบบเมคคาทรอนิกส์ที่สามารถติดตั้งชุดหัวฉีดได้ 4 ชุด และมีการใช้งานที่ยืดหยุ่น ทำให้สามารถผลิตผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปสองสี/สีเดียวด้วยโครงร่างเชิงเส้น ทรงกลม หรือตามแบบพิมพ์ ซึ่งลดต้นทุนลงได้ 15-20 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ด้วยการเพิ่มจำนวนชุดหัวฉีดสำหรับการทำชิ้นงานแบบสองสีจาก 2 หัวเป็น 4 หัว คิง สตีลได้เพิ่มกำลังการผลิตของเครื่องจักรดังกล่าวได้มากถึง 70% โดยใช้อุปกรณ์สูงถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ทำให้บริษัทกลายเป็นผู้นำในภาคเครื่องจักรทำหรับทำรองเท้า
"เครื่องจักรที่พัฒนาขึ้นโดยใช้ MICS ช่วยให้ลูกค้าปรับปรุงประสิทธิภาพและต้นทุน" จาง เจีย-หลิง (Chang Chia-ling) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของคิง สตีลกล่าว การใช้ซอฟต์แวร์ดิจิทัลแฝดของซีเมนส์ (Siemens) อย่าง NX-MCD (ระบบไซเบอร์กายภาพแบบบูรณาการ) ได้เพิ่มประสิทธิภาพการวิจัยและพัฒนาในขณะเดียวกันก็ลดต้นทุนการพัฒนา คิง สตีลได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรระดับสากล 100 ฉบับจาก 17 หมวดหมู่สำหรับเครื่องจักรที่เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทเพื่อปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท ตลอดจนสิทธิและผลประโยชน์ของลูกค้าและแบรนด์
เทคโนโลยี MICS นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในกระบวนการและภาคส่วนการฉีดขึ้นรูป รวมถึงในการผลิตสินค้ากีฬา (รองเท้าผ้าใบ บาร์โยคะ ลูกฟุตบอลแบบไม่ต้องเป่าลม อุปกรณ์จักรยาน และอุปกรณ์เสริม), ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ, อุปกรณ์ป้องกัน ตลอดจนของเล่นสำหรับเด็กและสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ยังมีวัตสดุอิเล็กทรอนิกส์และบรรจุภัณฑ์อีกด้วย การใช้ MICS นี้บริษัทตั้งเป้าที่จะเพิ่มผลผลิตให้สูงสุดด้วยการลงทุนขั้นต่ำ โดยการช่วยเหลือภาคส่วนต่าง ๆ ในวงกว้างในการเพิ่มกำลังการผลิตและบรรลุผลประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมจากการประหยัดพลังงานและการลดคาร์บอน
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1779199/image_5022157_13670844.jpg
คำบรรยายภาพ: พนักงานของคิง สตีลกำลังใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแฝดเพื่อควบคุมอุปกรณ์