คิวเอส ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกตามสาขาวิชา ประจำปี 2565

ข่าวทั่วไป Friday April 8, 2022 09:15 —ข่าวประชาสัมพันธ์พีอาร์นิวส์ไวร์

เผยรายชื่อมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งใน 51 สาขาวิชา

คิวเอส ควัคควาเรลลี ซีมอนด์ส (QS Quacquarelli Symonds) สถาบันคลังสมองชั้นนำในแวดวงอุดมศึกษาระดับโลก เปิดเผยผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกตามสาขาวิชา หรือ QS World University Rankings by Subject ครั้งที่ 12 โดยเป็นการวิเคราะห์เปรียบเทียบผลงานของหลักสูตรระดับมหาวิทยาลัยจำนวน  15,200 หลักสูตร จากมหาวิทยาลัย 1,543 แห่ง ใน 88 ประเทศและดินแดนทั่วโลก ซึ่งครอบคลุม 51 สาขาวิชา

การจัดอันดับนี้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของคิวเอส หรือ QS World University Rankings ซึ่งถูกค้นหาข้อมูลกว่า 147 ล้านครั้งในปี 2564 บนเว็บไซต์ TopUniversities.com และถูกกล่าวถึงโดยสื่อและสถาบันต่าง ๆ มากถึง 96,000 ครั้ง

ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกตามสาขาวิชาของคิวเอส ประจำปี 2565
จำนวนหลักสูตรที่ติด 10 อันดับแรก
สหรัฐอเมริกา239
สหราชอาณาจักร131
สวิตเซอร์แลนด์31
สิงคโปร์23
แคนาดา19
เนเธอร์แลนด์15
ออสเตรเลีย 13
เขตบริหารพิเศษฮ่องกง7
ฝรั่งเศส6
อิตาลี6
จีน (แผ่นดินใหญ่)4

ไฮไลท์ทั่วโลก   

- มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกาติดอันดับหนึ่งมากที่สุดถึง 28 สาขาวิชา จากทั้งหมด 51 สาขาวิชาที่ได้รับการจัดอันดับ โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) และเอ็มไอที (MIT) ยังคงเป็นสถาบันที่ทำผลงานได้แข็งแกร่งที่สุด โดยครองอันดับหนึ่งใน 12 สาขาวิชา

- มหาวิทยาลัยของสหราชอาณาจักรติดอันดับหนึ่ง 15 สาขาวิชา โดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (University of Oxford) นำมาด้วยจำนวน 6 สาขาวิชา

- อีทีเอช ซูริก (ETH Zurich) เป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของทวีปยุโรป โดยครองอันดับหนึ่งใน 3 สาขาวิชา นอกจากนี้ สวิตเซอร์แลนด์ยังเป็นประเทศที่มีภาคการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่ดีที่สุดเป็นอันดับสามของโลก เมื่อพิจารณาจากสัดส่วนใน 10 อันดับแรก

- ออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีจำนวนหลักสูตรติดอันดับมากที่สุดเป็นอันดับสี่ของโลก

- จีน (แผ่นดินใหญ่) อยู่ในอันดับห้าของโลกในแง่ของจำนวนหลักสูตร (100) ที่ติด 50 อันดับแรก 

- มหาวิทยาลัยโทรอนโต (University of Toronto) ของแคนาดา (46) มีหลักสูตรที่ติด 50 อันดับแรกมากที่สุด

- มหาวิทยาลัยแห่งชาติของสิงคโปร์ (National University of Singapore) เป็นมหาวิทยาลัยที่ทำผลงานดีที่สุดในเอเชีย และเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกสำหรับสาขาวิชาวิศวกรรมปิโตรเลียม นอกจากนั้นยังติดหนึ่งใน 10 อันดับแรกถึง 16 สาขาวิชา

- สถาบันอุดมศึกษาของญี่ปุ่นยังคงมีอันดับลดลง หลังนักศึกษาวิจัยและนักศึกษาระดับปริญญาเอกไม่ได้รับทุนสนับสนุนมากเท่าที่ควรเป็นเวลาหลายทศวรรษ

- มหาวิทยาลัยชีลี (Universidad de Chile) ติดอันดับสูงสุดในภูมิภาคลาตินอเมริกา โดยอยู่ที่ 8 ของโลกในสาขาวิชาวิศวกรรม - แร่และเหมืองแร่ รองลงมาคือมหาวิทยาลัยอูนาม (UNAM) จากเม็กซิโก ที่อันดับ 13 ในสาขาวิชาภาษาสมัยใหม่ และมหาวิทยาลัยเซาเปาโล (Universidade de Sao Paulo) ที่ติดอันดับ 15 ในสาขาวิชาทันตกรรม

- มหาวิทยาลัยเคปทาวน์ (University of Cape Town) ยังคงเป็นสถาบันที่ทำผลงานดีที่สุดในแอฟริกา โดยติดอันดับ 9 ของโลกในสาขาวิชาพัฒนศึกษา

- มหาวิทยาลัยปิโตรเลียมและแร่คิงฟาฮัด (King Fahd University of Petroleum & Minerals) ติดอันดับที่ 6 ของโลก ในสาขาวิศวกรรมปิโตรเลียม ซึ่งเป็นการครองอันดับสูงสุดในภูมิภาคอาหรับ

เบน โซวเทอร์ (Ben Sowter) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของคิวเอส กล่าวว่า "การสังเกตแนวโน้มผลการดำเนินงานของภาควิชาในมหาวิทยาลัยกว่า 15,000 ภาควิชา ทำให้เราได้เห็นว่าปัจจัยใดบ้างที่มีอิทธิพลต่อความสำเร็จ ประการแรกคือ มุมมองระดับสากล ทั้งในแง่ของคณาจารย์และความสัมพันธ์ด้านการวิจัย ซึ่งมีส่วนอย่างมากต่อผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ประการที่สองคือ มหาวิทยาลัยที่มีอันดับสูงขึ้นล้วนได้รับเงินลงทุนเจาะจงจากรัฐบาลมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ ประการที่สามคือ การกระชับความร่วมมือกับอุตสาหกรรมมีความสัมพันธ์กับการจ้างงาน การวิจัย และผลลัพธ์ด้านนวัตกรรมที่ดีขึ้น"

ระเบียบวิธีวิจัย

โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1503777/QS_World_University_Rankings_Logo.jpg


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ