รวมถึง
เดอะ แมคโลว์ คอลเลคชัน
30 สุดยอดผลงานจากคอลเลคชันที่สำคัญที่สุดในสาขาเดียวกัน
เดอะ โมเดิร์น อีฟนิง เซล
เปิดประมูลผลงานทรงคุณค่าอันดับต้น ๆ
คอนเทมโพรารี อีฟนิง เซล
รวมผลงานอันโดดเด่นจากศิลปินชาวเยอรมัน
นำโดยผลงานจากจอร์จ บาเซลิตซ์ ที่ประเมินราคาได้มากสุดเท่าที่เคยนำขึ้นประมูล
เดอะ นาว เซล
ซึ่งมีจำนวนศิลปินหญิงมากกว่าชาย
เมื่อตลาดศิลปะเตรียมเข้าสู่ฤดูกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซัทเทบีส์ (Sotheby's) ขอเผยโฉมผลงานที่จะนำขึ้นประมูลประจำเดือนพฤษภาคมนี้สู่สายตาบุคคลทั่วไป ณ หอศิลป์ของซัทเทบีส์ที่นิวยอร์ก
การจัดแสดงและเปิดประมูลนี้มีผลงานที่คาดว่าจะมีมูลค่ารวมกันกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ เทียบชั้นได้กับเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาซึ่งเป็นฤดูกาลที่ทุบสถิติใหม่ โดยมีหัวใจหลักอยู่ที่การเปิดประมูล 30 สุดยอดผลงานจากคอลเลคชันที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในสาขาเดียวกันอย่างเดอะ แมคโลว์ คอลเลคชัน (The Macklowe Collection) ในรอบเย็น ผลงานจากคอลเลคชันดังกล่าวเคยเปิดประมูลไปแล้วที่ซัทเทบีส์ นิวยอร์ก เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งทำสถิติได้อย่างถล่มทลายถึง 676.6 ล้านดอลลาร์ นับเป็นการประมูลขายที่ทำเงินได้มากที่สุดในเจ้าของคนเดียว และการประมูลประจำฤดูกาลนี้ก็น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน เพราะมีผลงานสำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผลงานจากเจอร์ฮาร์ด ริคเตอร์, มาร์ก รอทโก, แอนดี วอร์ฮอล, ซิกมาร์ โพลเก้, วิลเลิม เดอ โกนิง และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยมีไฮไลท์สำคัญดังนี้
- ผลงานเซลฟ์-พอร์เทรต (Self-Portrait) อันโด่งดังของแอนดี วอร์ฮอล (ประเมินราคาที่ 15/20 ล้านดอลลาร์) ซึ่งคุณวอร์ฮอลได้วาดไว้เมื่อปี 2529 ไม่กีเดือนก่อนที่จะเสียชีวิตในเดือนกุมภาพันธ์ 2530 โดยภาพคนเหมือนอันยิ่งใหญ่นี้เคยมีผู้นำมาจัดแสดงก่อนหน้านี้เพียงสองครั้งเท่านั้น
- ผลงานชิ้นสำคัญและยังไม่เคยเผยโฉมให้เห็นที่ไหนมาก่อนโดยมาร์ก รอทโก จากปี 2503 ซึ่งเป็นปีสำคัญของศิลปินรายนี้ (ประเมินราคาที่ 35/50 ล้านดอลลาร์)
- ภาพทิวทัศน์ทะเลสุดตื่นตาตื่นใจของเจอร์ฮาร์ด ริคเตอร์ อย่างซีชตืก (Seestueck) (ประเมินราคาที่ 25/35 ล้านดอลลาร์) ผลงานอันละเอียดอ่อนที่แสดงให้เห็นเอกลักษณ์ของคุณริคเตอร์ในการนำภาพจริงมาใช้กับภาพวาด และสะท้อนกลิ่นอายความเป็นแอบสแตรกต์
เดอะ แมคโลว์ คอลเลคชัน จะตามมาด้วยการประมูลรอบโมเดิร์น อีฟนิง (Modern Evening Auction) ในวันถัดมา ซึ่งจะเปิดประมูลผลงานทรงคุณค่าอันดับต้น ๆ เท่าที่ซัทเทบีส์เคยมีมา ไม่ว่าจะเป็น
- ภาพเหมือนมารี-เตแรซ วอลเตอร์ ซึ่งปาโบล ปิกาโซ วาดไว้เมื่อปี 2475 โดยนำขึ้นประมูลเป็นครั้งแรก (ประเมินราคาที่กว่า 60 ล้านดอลลาร์)
- ผลงานชั้นเลิศอันดับต้น ๆ ของโคลด์ โมเนต์ ซึ่งเผยให้เห็นเมืองเวนิส (ประเมินราคาที่ประมาณ 50 ล้านดอลลาร์)
- เอ็กซ์เพรสชันนิสต์ มาสเตอร์พีซ ไนล์ (Expressionist Masterpiece Nile) โดยฟิลิป กัสตัน (ประเมินราคาที่ 20/30 ล้านดอลลาร์ สูงสุดสำหรับผลงานของศิลปินรายนี้)
- แคลริเยร์ (Clairiere) ภาพวาดทิวทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่บิดาแห่งศิลปะสมัยใหม่อย่างปอล เซซาน เคยวาดไว้ (ประเมินราคาที่ 30/40 ล้านดอลลาร์)
ส่วนเดอะ นาว (The Now) และคอนเทมโพรารี (Contemporary) จะเป็นการประมูลส่งท้ายสัปดาห์อันยิ่งใหญ่นี้ โดยเดอะ นาว นับเป็นช่วงเวลาครั้งสำคัญสำหรับศิลปินหญิง ซึ่งมีผลงานร่วมประมูลมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนถึง 60% ส่วนรอบคอนเทมโพรารีจะฉายสปอตไลท์ไปที่ผลงานของศิลปินที่ยังมีชีวิตอยู่ผู้เป็นที่เชิดชูมากเป็นอันดับต้น ๆ ของเยอรมนีอย่างจอร์จ บาเซลิตซ์ ซึ่งมาพร้อมผลงานชิ้นสำคัญ 4 รายการด้วยกัน และไม่เคยมีชิ้นไหนปรากฏให้เห็นในตลาดมาก่อน หนึ่งในนั้นคือฟัลเลอ (Falle) ผลงานภาพวาดระดับ 'ชิ้นเอก' ที่เป็นที่ยกย่องมากที่สุดชิ้นหนึ่งของศิลปินผู้นี้ ซึ่งประเมินราคาไว้ที่ราว 8-12 ล้านดอลลาร์ มากที่สุดสำหรับผลงานของศิลปินรายนี้
สำหรับไฮไลท์อื่น ๆ ในการประมูลทั้งสองรอบ ประกอบด้วย
- ภาพวาดโป๊ป โดยฟรานซิส เบคอน ซึ่งเผยโฉมเป็นครั้งแรกในนิทรรศการผลงานเก่าของศิลปินรายนี้เมื่อปี 2514 (ประเมินราคาที่ 40/60 ล้านดอลลาร์)
- ภาพเอลวิสพิมพ์ด้วยเทคนิคซิลค์สกรีน โดยแอนดี วอร์ฮอล จากปี 2506 (ประเมินราคาที่ 15/25 ล้านดอลลาร์) ผลงานสะท้อนศิลปะประชานิยม (Pop Art) ซึ่งสร้างขึ้นหลังคุณวอร์ฮอลได้ฝึกเทคนิคซิลค์สกรีนจนสมบูรณ์แบบไปได้หนึ่งปี
- ผลงานสุดไดนามิกอย่าง 'บิวตี เอ็กซามิน' (Beauty Examined) โดยเคอร์รี เจมส์ มาร์แชล ซึ่งขายเพื่อเป็นประโยชน์แก่มหาวิทยาลัยโลมา ลินดา (ประเมินราคาที่ 8/12 ล้านดอลลาร์)
- ผลงานที่เอ็ด รุสชา สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงเมืองแคลิฟอร์เนียอันเป็นที่รักอย่าง 'โคลด์ เบียร์ บิวตีฟูล เกิร์ลส์' (Cold Beer Beautiful Girls) (ประเมินราคาที่ 15/20 ล้านดอลลาร์) ผลงานภาพวาดผสมข้อความอันเป็นเอกลักษณ์ของศิลปินผู้นี้
- 'อันไทเทิล' (Untitled) ผลงานจากปี 2512 ของไซ ทูมอมบลี่ (ประเมินราคาที่ 40/60 ล้านดอลลาร์) ผลงานขนาดใหญ่ที่นับเป็นสัญลักษณ์การกลับมานิวยอร์กของศิลปินผู้นี้ ทั้งยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนสไตล์งานไปเป็นแบบโมโนโครมาติกด้วย
- 'เบอร์มิงแฮม' (Birmingham) โดยซิโมน ลีห์ ผู้คว้ารางวัลโกลเดน ไลออน ที่งานเวนิส เบียนนาเล่ ประจำปีนี้ (ประเมินราคาที่ 150,000-200,000 ดอลลาร์)
ผลงานทั้งหมดจะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ที่หอศิลป์ของซัทเทบีส์ในนิวยอร์ก เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคมนี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่