เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม Rabobank ได้เผยแพร่รายงานการจัดอันดับ 20 บริษัทนมชั้นนำของโลก ประจำปี 2565 ซึ่งผลปรากฏว่า Yili Group ยังคงติดหนึ่งใน 5 บริษัทนมรายใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยรายได้ 1.82 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ [1] พร้อมครองตำแหน่งบริษัทนมรายใหญ่ที่สุดในเอเชียอย่างเหนียวแน่นเป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ Yili ยังสร้างสถิติอัตราการเติบโตสูงสุดที่ระดับ 31.7% ในบรรดาบริษัททั้งหมด 20 อันดับ ส่งผลให้ Yili สามารถลดช่องว่างที่ห่างจากบริษัทท็อป 4 ลงอย่างมาก และยังทำให้บริษัทในอันดับอื่น ๆ ตามทันได้ยากขึ้น ด้วยการรักษาระดับการเติบโตเอาไว้อย่างแข็งแกร่ง
บริษัทนมแห่งแรกในเอเชียที่กวาดรายได้ต่อปีทะลุ 1 แสนล้านหยวน
รายงานของ Rabobank ในปีนี้ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดยิ่งขึ้นทั่วทั้งอุตสาหกรรมนม ทั้งนี้ การเข้าซื้อกิจการของ Ausnutria Dairy และยอดขายในประเทศที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้ Yili ขึ้นแท่นบริษัทนมแห่งแรกในเอเชียที่กวาดรายได้ต่อปีทะลุ 1 แสนล้านหยวน (1.485 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
นอกจากนี้ นวัตกรรมยังช่วยให้ Yili สามารถรักษาความเป็นผู้นำได้อย่างยาวนานในธุรกิจนมเหลวและไอศกรีมซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท โดยแบรนด์หลักอย่าง Yili และแบรนด์ในเครืออย่าง Satine และ AMBPOMIAL แต่ละแบรนด์ต่างมียอดขายต่อปีทะลุ 2 หมื่นล้านหยวน (2.97 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ด้านธุรกิจนมผงและชีสก็เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน โดยยอดขายผลิตภัณฑ์ชีสมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่แบรนด์ Jinlingguan ก็ครองแชมป์แบรนด์นมผงที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด
ส่งเสริมการพัฒนาทั่วทั้งอุตสาหกรรม
นอกจากจะเติบโตอย่างรวดเร็วแล้ว Yili ยังสร้างคุณูปการต่ออุตสาหกรรมนมอย่างต่อเนื่อง ด้วยการส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายในห่วงโซ่อุตสาหกรรม สนับสนุนการดำเนินงานทั่วโลก และผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืน
ในประเทศจีน บริษัทได้เปิดตัวโครงการฟิวเจอร์ อินเทลลิเจนซ์ แอนด์ เฮลท์ แวลลีย์ (Yili Future Intelligence and Health Valley) หรือที่รู้จักในชื่อ "ซิลิคอนแวลลีย์แห่งอุตสาหกรรมนม" โดยเป็นที่ตั้งของฐานการผลิตนมที่ใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของกำลังการผลิต เพียบพร้อมด้วยระบบดิจิทัลและเทคโนโลยีระดับสูงสุดในอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ Yili ยังเร่งสร้างเครือข่ายระดับโลกในตลาดสำคัญ ๆ โดยรายงานปีงบการเงิน 2564 เผยให้เห็นว่า Yili มีรายได้ในต่างประเทศเติบโตขึ้น 8% และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกว่า 60 ประเทศและดินแดนทั่วทั้ง 5 ทวีป ขณะที่ในอินโดนีเซีย ศูนย์ผลิตไอศกรีมแห่งแรกที่บริษัทสร้างเองได้เปิดสายการผลิตเป็นที่เรียบร้อย และกลายเป็นส่วนหนึ่งของ "ศูนย์คู่" (Dual Center) คู่กับศูนย์ผลิตอีกแห่งในประเทศไทย เพื่อผลิตไอศกรีมป้อนผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ ด้วยการอัปเกรดระบบการผลิตและเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานเนยในเมืองโฮกิติกา ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นสองเท่า ส่งผลให้ Westland ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Yili ประสบความสำเร็จในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของผลิตภัณฑ์เนยแบรนด์ Westgold
ในปีนี้ Yili ก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารของจีนด้วยการประกาศแผนการสู่อนาคตคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Plan for a Net-Zero Carbon Future) และโรดแมปสู่อนาคตคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Roadmap to a Net-Zero Carbon Future) โดยนอกเหนือจากการสร้างโรงงานอาหารคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์แห่งแรกในประเทศจีนแล้ว Yili ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์นมคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ครั้งแรกของจีนด้วย ซึ่งครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์นม โยเกิร์ต นมผงออร์แกนิก และไอศกรีม
(1 ดอลลาร์ = 6.74 หยวน)
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1879936/image.jpg
คำบรรยายภาพ - Yili Group รั้งท็อป 5 บริษัทนมระดับโลกอย่างเหนียวแน่น ด้วยอัตราการเติบโตสูงสุดในโลก