โรแบร์โต เบนิญญี , เอลอดี, เกรตา สการาโน และคาร์โล เวอร์โดเน ร่วมกับดารานักแสดงอิตาลีคนอื่น ๆ ที่เปิดตัวบนพาราเมาท์พลัส เคียงข้างนักแสดงระดับโลกอย่างแฮร์ริสัน ฟอร์ด, เจสซิกา แชสเตน, เฮเลน เมียร์เรน, ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน และไมลส์ เทลเลอร์
สานต่อความมุ่งมั่นอันยาวนานของพาราเมาท์ โกลบอล ในอิตาลีผ่านพาราเมาท์พลัส โดยลงทุนด้านคอนเทนต์และนักแสดงระดับท้องถิ่น นำเสนอซีรีส์และภาพยนตร์ต้นฉบับมากมาย
พาราเมาท์พลัสเปิดตัวรายชื่อซีรีส์และภาพยนตร์ฉบับเต็ม ซึ่งรวมถึงคอนเทนต์ต้นฉบับสัญชาติอิตาลี ในงานพรมน้ำเงินสุดพิเศษ ณ ชิเนชิตตา สตูดิโอส์ อันเลื่องชื่อในกรุงโรม
#ParamountPlusIT #ParamountPlus
ดาวน์โหลดเอกสารประกอบข่าวได้ ที่นี่ และ ที่นี่
พาราเมาท์พลัส (Paramount+) บริการสตรีมมิงระดับโลกจากพาราเมาท์ (Paramount) (NASDAQ: PARA, PARAA) เปิดตัวในอิตาลีในวันที่ 15 กันยายน 2565 นำเสนอคอนเทนต์ความบันเทิงรวมกว่า 8,000 ชั่วโมง
พาราเมาท์ โกลบอล (Paramount Global) ได้จัดอีเวนต์พรมน้ำเงิน และเป็นเจ้าภาพจัดงานเปิดตัวอันคับคั่งด้วยดารานักแสดงสุดอลังการเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ณ ชิเนชิตตา สตูดิโอส์ (Cinecitt? Studios) อันเลื่องชื่อแห่งกรุงโรม เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดตัวบริการพาราเมาท์พลัสในอิตาลี พร้อมกันนี้ยังมีการเปิดตัวรายชื่อคอนเทนต์ฉบับเต็มที่ประกอบด้วยดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงและเรื่องราวที่น่าสนใจ ทั้งโรแบร์โต เบนิญญี (Roberto Benigni), เอลอดี (Elodie), เกรตา สการาโน (Greta Scarano) และคาร์โล เวอร์โดเน (Carlo Verdone) ร่วมกับดารานักแสดงอิตาลีคนอื่น ๆ ที่เปิดตัวบนพาราเมาท์พลัส เคียงข้างนักแสดงระดับโลกอย่างแฮร์ริสัน ฟอร์ด, เจสซิกา แชสเตน, เฮเลน เมียร์เรน, ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน และไมลส์ เทลเลอร์
พาราเมาท์พลัสจะนำเสนอคอนเทนต์สำหรับผู้ชมทั้งครอบครัว ครอบคลุมซีรีส์ต้นฉบับ รายการยอดนิยม และภาพยนตร์สุดฮิตทุกแนวจากแบรนด์และสตูดิโอการผลิตที่มีชื่อเสียงระดับโลกของพาราเมาท์ ไม่ว่าจะเป็นคอเมดี เซ็นทรัล (Comedy Central), เอ็มทีวี (MTV), นิคคาโลเดียน (Nickelodeon), พาราเมาท์ พิคเจอร์ส (Paramount Pictures), โชว์ไทม์ (SHOWTIME(R)) และสมิธโซเนียน แชนแนล (Smithsonian Channel(TM)) นำเสนอคอนเทนต์สุดพิเศษที่ดีที่สุดทั้งในระดับสากลและระดับท้องถิ่น
ซีรีส์ระดับโลกที่จะเปิดตัวบนพาราเมาท์พลัสในอิตาลีประกอบด้วย "ดิออฟเฟอร์" (THE OFFER) ที่นำเสนอประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดาของโปรดิวเซอร์เจ้าของรางวัลออสการ์อย่างอัลเบิร์ต เอส. รัดดี้ (Albert S. Ruddy) ซึ่งไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อนในการสร้างสุดยอดภาพยนตร์เรื่อง "เดอะก็อดฟาเธอร์" (The Godfather), ซีรีส์เรื่อง "บุรุษผู้มาจากต่างดาว" (THE MAN WHO FELL TO EARTH) ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่เดินทางมาเยือนโลกในช่วงที่วิวัฒนาการของมนุษย์กำลังอยู่ในจุดพลิกผัน และราชาแห่งทัลซา (TULSA KING) ที่มีนักแสดงชื่อดังอย่างซิลเวสเตอร์ สตอลโลน รับบทเป็น "ดไวท์ แมนเฟรดิ" หรือ Dwight "The General" Manfredi อดีตนักโทษที่เพิ่งถูกปล่อยตัวหลังต้องโทษมานานกว่า 25 ปี และถูกเจ้านายเก่าเนรเทศอย่างไร้เยื่อใย ผู้ซึ่งกำลังจะสร้างร้านค้าของตนเองในย่านทัลซาของโอกลาโฮมา
นอกจากนี้ พาราเมาท์พลัสยังจะเป็นแหล่งรวมภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์เรื่องใหม่ที่ได้รับการคัดสรรมาอย่างดีหลังการเปิดตัวในโรงภาพยนตร์และสื่อบันเทิงภายในบ้าน เช่น "ท็อปกัน: มาเวอริค" (Top Gun: Maverick) ซึ่งจะเข้าฉายบนแพลตฟอร์มดังกล่าวในอิตาลีในปี 2565
พาราเมาท์พลัสลงทุนทั้งในด้านคอนเทนต์และนักแสดงในท้องถิ่น พร้อมนำเสนอรายการต้นฉบับรายการใหม่ของอิตาลีที่ไม่มีใครเทียบอย่าง "ฟรานเซสโก อิล กันติโก" (FRANCESCO IL CANTICO) ซึ่งเป็นรายการที่อุทิศตนให้แก่บทความที่เกี่ยวกับความรัก นำโดยพิธีกรชาวอิตาลี เจ้าของรางวัลออสการ์อย่างโรแบร์โต เบนิญญี / ซีซั่นใหม่ของซีรีส์เรื่อง "วิตา ดา คาร์โล" (VITA DA CARLO) ที่เล่าเรื่องราวของผู้กำกับและแสดงนำอย่างคาร์โล เวอร์โดเน นักแสดงตลกและนักแสดงชาวอิตาลีผู้เป็นที่รัก / "ติ มังจิโอ อิล กุโอเร่" (TI MANGIO IL CUORE) ภาพยนตร์อิงจากนวนิยายสืบสวนของคาร์โล บอนินิ (Carlo Bonini) และจูลิอาโน ฟอซชินิ (Giuliano Foschini) เกี่ยวกับแก๊งมาเฟียในเมืองฟอจจาของอิตาลี นำแสดงโดย "เอลอดี" ซึ่งเป็นบทบาทการแสดงครั้งแรกของเธอ นอกจากนี้ยังประกอบด้วยซีรีส์อื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ เซอร์ซีโอ (CIRCEO), มิซ ฟัลลาซิ (MISS FALLACI), ควอตตอร์ดิซิ จิออร์นิ (QUATTORDICI GIORNI), คอร์โป ลิเบอโร (CORPO LIBERO), เอ็กซ์ ออน เดอะ บีช (EX ON THE BEACH)และอาร์ ยู เดอะ วัน (ARE YOU THE ONE?) รวมถึงซีรีส์แอนิเมชันอย่างภาคใหม่ล่าสุดของ "บีวิส แอนด์ เดอะ บัตเฮด" (Beavis and Butt-Head) และ "เซาท์พาร์ก" (South Park) ที่จะออกอากาศในพากย์อิตาลี พร้อมกับซีรีส์ต้นฉบับที่มีการประกาศรายชื่อไว้แล้วก่อนหน้านี้ทั้งหมด เช่น "โบเซ่" (BOSE) ซีรีส์จำนวนหกตอนที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิตอันน่าทึ่งของมิเกล โบเซ่ (Miguel Bose) ซูเปอร์สตาร์ระดับนานาชาติที่เริ่มต้นอาชีพของเขาในปลายคริสต์ทศวรรษ 1970
"เรากำลังฉลองการเปิดตัวพาราเมาท์พลัสในคืนนี้ ซึ่งผสมผสานฮอลลีวูดเข้ากับการเล่าเรื่องและความคิดสร้างสรรค์ในแบบฉบับของอิตาลีได้อย่างลงตัว อิตาลีเป็นบ้านของพาราเมาท์มานานหลายปี และตอนนี้เรากำลังนำภาพยนตร์และซีรีส์ที่ดีที่สุดของอิตาลีและจากทั่วโลกมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวบนพาราเมาท์พลัส" ทอม ไรอัน (Tom Ryan) ประธานบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายบริการสตรีมมิงของพาราเมาท์ กล่าวในระหว่างงานเปิดตัว
"เราเป็นบริการสตรีมมิงเพียงแห่งเดียวที่คุณจะได้เห็นซิลเวสเตอร์ สตอลโลน , สพันจ์บ็อบ (SpongeBob) สตาร์เทรค (Star Trek) เซาท์พาร์ก และดารานักแสดงชื่อดังชาวอิตาลีอย่างเอลอดีและเวอร์โดเนทั้งหมดในที่เดียว" มาร์โก โนบิลิ (Marco Nobili) รองประธานบริหารและผู้จัดการทั่วไประหว่างประเทศของพาราเมาท์พลัส กล่าวในระหว่างงานเปิดตัว "ด้วยประสบการณ์การเล่าเรื่องกว่า 100 ปีตั้งแต่สตูดิโอฮอลลีวูดที่มีชื่อเสียงของเราไปจนถึงศูนย์กลางการผลิตระดับสากล พาราเมาท์รู้วิธีสร้างความบันเทิงที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคน"
แหล่งรวมคอนเทนต์ระดับคุณภาพ
คอนเทนต์อิตาลีที่ไม่มีใครเทียบได้
ตามแผนการของพาราเมาท์พลัสที่เตรียมปล่อยคอนเทนต์ต้นฉบับถึง 150 รายการจากต่างประเทศภายในปี 2568 พาราเมาท์พลัสได้ยกฮอลลีวูดมาสู่อิตาลี ผู้ชมชาวอิตาลีจะได้พบกับความบันเทิงจำนวนมาก รวมถึงคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นในอิตาลีด้วย
"ฟรานเซสโก อิล กันติโก" นำโดยดาราชาวอิตาลีเจ้าของรางวัลออสการ์อย่างโรแบร์โต เบนิญญี และซีซันใหม่ของซีรีส์ "วิตา ดา คาร์โล" ผลงานชิ้นแรกของพาราเมาท์พลัสร่วมกับคาร์โล เวอร์โดเน ผู้ซึ่งรับบทเป็นทั้งผู้กำกับและนักแสดงนำในซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของตัวเขาเอง เผยให้เห็นชีวิตส่วนตัวสุดสมถะของชายผู้ไม่เคยปฏิเสธตนเองต่อหน้าผู้ชม ตั้งแต่การถ่ายรูปเซลฟี่บนท้องถนนไปจนถึงการแจกลายเซ็นที่จุดแวะพัก
"เซอร์ซีโอ" ซีรีส์ที่ผลิตโดยคัทลียา (Cattleya) ร่วมกับสตูดิโอระดับนานาชาติของพาราเมาท์อย่างวีไอเอส (VIS) พาราเมาท์พลัส และอาร์เอไอ ฟิคชัน (RAI Fiction) เล่าถึงเหตุการณ์เลื่องชื่อในปี 2518 ที่เปลี่ยนสังคมอิตาลีไปตลอดกาล
"ควอตตอร์ดิซิ จิออร์นิ" ผลงานการผลิตต้นฉบับสัญชาติอิตาลีโดยพาราเมาท์พลัส เขียนบทและกำกับโดยอิวาน โกโตรเนโอ (Ivan Cotroneo) มีกำหนดเข้าฉายบนแพลตฟอร์มในปลายเดือนนี้ เล่าเรื่องราวของคู่รักที่ถูกบีบบังคับให้ต้องแยกจากกันเป็นเวลาสองสัปดาห์
"คอร์โป ลิเบอโร" ผลงานซีรีส์ของอินดิโก ฟิล์ม (Indigo Film) และเน็ตเวิร์ก มูฟวี (Network Movie) ร่วมกับแซดดีเอฟนีโอ (ZDFneo), อาร์เอไอ ฟิคชัน, พาราเมาท์พลัส และออลทรีมีเดีย อินเตอร์เนชันแนล (All3Media International Limited) จะเริ่มออกอากาศในปลายเดือนตุลาคมนี้ เล่าเรื่องราวที่อิงจากนวนิยายของอิลาเรีย เบอร์นาร์ดินิ (Ilaria Bernardini) ที่แต่งร่วมกับเชียรา บาร์ซินิ (Chiara Barzini), ลูโดวิกา รัมโพลดิ (Ludovica Rampoldi) และจีออดานา มารี (Giordana Mari) เป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญวัยรุ่นในโลกแห่งยิมนาสติกที่น่าจับตามอง
"ติ มังจิโอ อิล กุโอเร่" ภาพยนตร์อิงจากนวนิยายสืบสวนของคาร์โล บอนินิ และจูลิอาโน ฟอซชินิ เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับแก๊งมาเฟียในเมืองฟอจจาของอิตาลี นำแสดงโดย "เอลอดี" ซึ่งเป็นบทบาทการแสดงครั้งแรกของเธอในฐานะ "มาริเลนา" (Marilena) ภรรยาของเจ้าถิ่นคนหนึ่งที่ตกหลุมรักทายาทครอบครัวศัตรู ภาพยนตร์นี้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างกึกก้องในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสครั้งที่ 79 โดยจะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในเดือนกันยายน 2565 และจะฉายบนพาราเมาท์พลัสเพียงแห่งเดียวในเดือนมกราคม 2566
"มิซ ฟัลลาซิ" ซึ่งจะฉายรอบปฐมทัศน์ในปี 2566 เป็นซีรีส์ต้นฉบับของพาราเมาท์พลัสเกี่ยวกับเรื่องจริงของโอเรียนา ฟัลลาซิ (Oriana Fallaci) หนึ่งในบุคคลที่เป็นประเด็นในวงการสื่อมวลชนของอิตาลีมากที่สุด และผู้เป็นแบบอย่างด้านสื่อระดับนานาชาติ
"โบเซ่" ซีรีส์โทรทัศน์เรื่องนี้จะถ่ายทอดชีวิตอันน่าทึ่งของศิลปินที่มีบุคลิกโดดเด่นและเป็นที่รู้จักอย่างมาก ได้แก่มิเกล โบเซ่ (Miguel Bose) ประกอบด้วยซีรีส์ทั้งหมด 6 ตอนที่จะพาผู้ชมเรียนรู้ส่วนต่าง ๆ ของอาชีพนักร้อง-นักแต่งเพลงของเขาที่เริ่มต้นขึ้นในปลายคริสต์ทศวรรษ 1970 เปิดเผยเรื่องราวเบื้องหลังแรงบันดาลใจ การประพันธ์ และผลงานที่โดดเด่นที่สุดบางส่วนของเขา รวมถึงสิ่งที่ความสำเร็จเหล่านี้นำมาสู่ชีวิตส่วนตัวของเขา ซีรีส์นี้จะเปิดเผยความลับที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้มาก่อน มอบมุมมองเกี่ยวกับแวดวงเพื่อนพ้องของเขา และแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาระหว่างมิเกลกับพ่อแม่ของเขา
สำหรับรายการท้องถิ่นยังประกอบด้วยซีซันใหม่ของรายการเอ็กซ์ ออน เดอะ บีช ของเอ็มทีวี โดยมีเซซิเลีย โรดริเกซ (Cecilia Rodriguez) และอิกนาซิโอ โมเซอร์ (Ignazio Moser) เป็นพิธีกร และครั้งแรกของรายการอาร์ ยู เดอะ วัน ในเวอร์ชันอิตาลี ซึ่งเป็นรายการหาคู่ออกเดตอันโด่งดังของเอ็มทีวี
แอนิเมชันสำหรับผู้ใหญ่พร้อมกลิ่นอายแห่งอิตาลี
พาราเมาท์พลัสจะเปิดตัวซีรีส์แอนิเมชั่น "บีวิส แอนด์ เดอะ บัตเฮด" ซึ่งเป็นหนึ่งในคู่การ์ตูนแอนิเมชันที่โด่งดังที่สุดแห่งคริสต์ทศวรรษ 1990 ใน สำหรับ "บีวิส แอนด์ บัตเฮด ดู เดอะ ยูนิเวิร์ส" (BEAVIS AND BUTT-HEAD DO THE UNIVERSE) จะนำเสนอเรื่องราวที่กินเวลากว่าสองศตวรรษและเป็นภาพยนตร์ล้อเลียนวิทยาศาสตร์ที่ตลกที่สุดที่เคยมีมา เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อบีวิสและบัตเฮดเจอกันที่ค่ายกักกันในอวกาศหลังถูกศาลเยาวชนพิพากษา "จำคุกอย่างสร้างสรรค์" ในปี 2541 ทั้งคู่ถูกทิ้งให้อยู่อย่างเดียวดายในอวกาศหลังทำภารกิจล้มเหลว และจบลงด้วยการเดินทางผ่านหลุมดำและโผล่กลับมายังโลกอีกครั้งในปี 2565 และเจอกับโลกที่ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้จะนำเสียงของนักแสดงตลกชาวอิตาลีและนักเขียนบทตลกอย่างเอโดอาร์โด เฟอราริโอ (Edoardo Ferrario) และลูกา ราเวนนา (Luca Ravenna) มาใช้ประกอบการสร้าง
สำหรับภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง "เซาท์ พาร์ก เดอะ สตรีมมิง วอร์ส" (SOUTH PARK THE STREAMING WARS) เป็นเรื่องราวของคาร์ทแมน (Cartman) เด็กหนุ่มที่มีปากเสียงกับแม่ของเขาเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เขาต้องการ ขณะที่เมืองเซาท์พาร์กของเหล่าตัวเอกกำลังตกอยู่ในอันตราย โดยในตอนที่ 2 ภัยแล้งได้คืบคลานมาถึงเมืองเซาท์พาร์กและนำหายนะมาสู่ผู้คนในเมือง
ภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องนี้ประกอบด้วยนักพากย์อย่างริคาโด ซานอตติ (Riccardo Zanotti) และเอลิโอ บิฟฟิ (Elio Biffi) สมาชิกวงดนตรีพิงกวินิ แทตติซิ นิเคลียลิ (Pinguini Tattici Nucleari) ให้เสียงตัวละครต่าง ๆ ในเรื่อง โดยริคาโดจะพากย์เสียงนักข่าวสภาพอากาศในตอนแรก และนักแสดงหญิงอย่างกวินเนธ พอลโทรว ในตอนที่สอง ในขณะที่เอลิโอจะพากย์เสียงไกด์ในตอนแรก และนักแสดงตลกอย่างแลรี่ เดวิด ในตอนที่สอง
ผลงานต้นฉบับของพาราเมาท์พลัส
ผลงานต้นฉบับของพาราเมาท์พลัสประกอบด้วยซีรีส์เรื่อง "ราชาแห่งทัลซา" นำแสดงโดยซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ในฐานะมาเฟียนิวยอร์ก หลังจากที่เขาติดคุกมานานกว่า 25 ปีและถูกปล่อยตัวในที่สุด เขาถูกเจ้านายเนรเทศอย่างไร้เยื่อใย และได้ตั้งร้านค้าในเมืองทัลซา รัฐโอคลาโฮมา; "ดิ ออฟเฟอร์" ซีรีส์ลิมิเต็ดที่อิงจากผลงานรางวัลออสการ์ของอัลเบิร์ต เอส. รัดดี เล่าเรื่องราวการสร้างสุดยอดภาพยนตร์เรื่อง "เดอะก็อดฟาเธอร์" พร้อมกับนักแสดงชั้นนำอย่างไมลส์ เทลเลอร์, แมทธิว กู๊ด และจูโน่ เทมเปิ้ล; ซีรีส์เรื่อง "1883" ซึ่งเป็นเรื่องราวก่อนซีรีส์ "เยลโลว์สโตน" (Yellowstone) ที่ผู้ชมต่างตั้งตารอของเทย์เลอร์ เชอริแดน เล่าเรื่องราวของครอบครัวดัตตัน (Dutton) ที่ออกเดินทางสู่ดินแดนตะวันตกผ่านเกรตเพลนส์ไปยังป้อมปราการสุดท้ายของอเมริกา; ต่อด้วยซีรีส์เรื่อง "1923" ของผู้กำกับคนเดียวกัน นำแสดงโดยเฮเลน เมียร์เรน และแฮร์ริสัน ฟอร์ด ในภาคต่อของเรื่องราวต้นกำเนิด "เยลโลว์สโตน" นำเสนอตระกูลดัตตันชุดใหม่ และร่วมสำรวจต้นศตวรรษที่ 20 ปิดท้ายด้วยซีรีส์ "ฮาโล" (HALO) ซึ่งสร้างจากแฟรนไชส์ Xbox อันโด่งดัง นำเสนอความขัดแย้งระหว่างมนุษยชาติและภัยคุกคามจากต่างดาวที่รู้จักกันในชื่อ "โควีแนนท์" (Covenant) ในศตวรรษที่ 26
นอกจากนี้ พาราเมาท์พลัสยังเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับแฟน ๆ ภาพยนตร์เรื่อง "สตาร์เทรค" ในอิตาลีอีกด้วย นำเสนอ "สตาร์เทรค: ดิสคัฟเวอรี" (STAR TREK: DISCOVERY) ซึ่งติดตามการเดินทางของเหล่าสตาร์ฟลีท (Starfleet) ในภารกิจค้นหาโลกใบใหม่และชีวิตต่างดาว และหนึ่งในผู้คุมยานที่เรียนรู้ว่าการจะเข้าใจเหล่ามนุษย์ต่างดาวอย่างแท้จริงนั้น เราจำเป็นต้องเข้าใจตัวเองก่อน และ "สตาร์เทรค: สเตรนจ์ นิว เวิล์ดส์" (STAR TREK: STRANGE NEW WORLDS) ซึ่งอิงจากปีที่กัปตันคริสโตเฟอร์ ไพค์ (Christopher Pike) เป็นหัวหน้ายานยูเอสเอส เอนเตอร์ไพรส์ (U.S.S. Enterprise) ซีรีส์นี้จะนำเสนอตัวละครโปรดของแฟน ๆ จากซีซันที่สองของสตาร์เทรค: ดิสคัฟเวอรี นำโดยแอนสัน เมานท์ (Anson Mount) ที่รับบทเป็นกัปตันคริสโตเฟอร์ ไพค์ และรีเบกก้า โรเมน (Rebecca Romijn) รับบทเป็นหมายเลขหนึ่ง (Number One) และอีธาน เพ็ค (Ethan Peck) รับบทเป็นเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์สป็อค ซีรีส์นี้จะติดตามกัปตันไพค์ เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์สป็อค และหมายเลขหนึ่งในช่วงหลายปีก่อนที่กัปตันเคิร์ก (Captain Kirk) จะปรากฏตัว ขณะที่พวกเขาเดินทางออกสำรวจโลกใหม่รอบกาแล็กซี
ไฮไลท์พิเศษจาก "โชว์ไทม์" ได้แก่ "อเมริกัน กิโกโล" (AMERICAN GIGOLO) ที่เล่าเรื่องราวย้อนยุคภาพยนตร์ในสมัยคริสต์ทศวรรษ 1980; "ซุปเปอร์พัมพ์: เดอะแบทเทิลฟอร์อูเบอร์" (SUPER PUMPED: THE BATTLE FOR UBER) ที่บอกเล่าเรื่องราวของ "อูเบอร์" (Uber) หนึ่งในยูนิคอร์นที่ประสบความสำเร็จที่สุดในซิลิคอนแวลลีย์; และ "บุรุษผู้มาจากต่างดาว" ซึ่งสร้างจากนวนิยายและภาพยนตร์แห่งยุคในชื่อเดียวกัน นำเสนอเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่เดินทางมาเยือนโลกในช่วงที่วิวัฒนาการของมนุษย์กำลังอยู่ในจุดพลิกผัน
สิ่งเหล่านี้เข้าร่วมกับภาพยนตร์และซีรีส์ต้นฉบับของพาราเมาท์พลัสระดับนานาชาติขั้นพรีเมียมที่ผลิตโดยวีไอเอส ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตอิสระในตลาดต่างประเทศ ภาพยนตร์และซีรีส์ต้นฉบับจากทั่วโลกที่มีการประกาศไว้ก่อนหน้านี้ประกอบด้วย "เซ็กซี่บีสต์" (SEXY BEAST) และ "สุภาพบุรุษแห่งมอสโก" (A GENTLEMAN IN MOSCOW) จากสหราชอาณาจักร "โบเซ่" จากละตินอเมริกาและสเปน; "สตรีคนแรกแห่งซินาโลอา" (SINALOA'S FIRST LADY) และ "วันมัสต์ดาย" (ONE MUST DIE) จากเม็กซิโก; "แมสก์: ฆ่าตกรต่อเนื่อง มารี อองตัวเนต" (MASK: MARIE ANTOINETTE SERIAL KILLER) จากฝรั่งเศส; และ "อะ ธิน ไลน์" (A THIN LINE), "เดอะ ชีคห์ (เดอ สชีค)" (THE SHEIKH หรือ DER SCHEICH) และ "ซิมอน เบคเก็ตส์ เคมิสทรี ออฟ เดธ" (SIMON BECKETT'S CHEMISTRY OF DEATH) จากเยอรมนี
พาราเมาท์พลัสสำหรับเด็กและครอบครัว
พาราเมาท์พลัสยังรวมไว้ซึ่งคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาสำหรับเด็กและครอบครัวที่หลากหลาย การกลับมาของซีรีส์ "ไอคาร์ลี่" (ICARLY) พร้อมนักแสดงสาวมิแรนดา คอสโกรฟ (Miranda Cosgrove) ที่รับบทเป็นคาร์ลี เชย์ (Carly Shay) ขณะที่เธอและเพื่อน ๆ ค้นหาความหมายของงาน ความรัก และครอบครัวในวัย 20 ปี เช่นเดียวกับซีรีส์ "บิ๊ก เนต" (BIG NATE) ซีรีส์แอนิเมชันเรื่องใหม่เกี่ยวกับเด็กป.6 คนหนึ่งที่ต้องการพิสูจน์ความสุดยอดของตนให้โลกรู้ รวมทั้งการกลับมาของ "รักแร็ตส์" (RUGRATS) และ "เดอะแฟรี่ อ๊อดแพเรนทส์" (THEFAIRLY ODDPARENTS: ANCORA PI? FANTA) ซีรีส์สื่อผสมระหว่างการแสดงสดและแอนิเมชัน โดยอิงจากซีรีส์การ์ตูนแอนิเมชันเรื่องนิคคาโลเดียน
พาราเมาท์พลัสนำเสนอซีรีส์แอนิเมชัน "สตาร์เทรค: โพรดิจี" (STAR TREK: PRODIGY) ที่พัฒนาโดยเควิน และแดน แฮจแมน (Kevin & Dan Hageman) ผู้ชนะรางวัลเอมมีอวอร์ด (Emmy(R) Award) และอยู่เบื้องหลัง "โทรลฮันเตอร์" (Trollhunters) และ "นินจาโก" (Ninjago) โดยเป็นซีรีส์สตาร์ เทรค ภาคแรกที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ชมวัยเด็ก เล่าเรื่องราวของเอเลี่ยนรุ่นเยาว์ที่ต้องร่วมมือกันเพื่อท่องจักรวาลอันกว้างใหญ่ในการค้นหาอนาคตที่ดีกว่า เอเลี่ยนเด็กทั้งหกนี้ไม่มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับยานของพวกเขา นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแฟรนไชส์สตาร์เทรคที่เจ้าของยานไม่ทราบถึงวิธีในการคุมยานตนเอง แต่ในระหว่างการผจญภัยของพวกเขา เด็กแต่ละคนจะได้รู้จักกับสตาร์ฟลีตและแง่คิดต่าง ๆ ในภายหลัง
พาราเมาท์พลัสยังเต็มไปด้วยแฟรนไชส์สำหรับเด็กและครอบครัวที่เป็นที่ชื่นชอบมากที่สุด เช่น "สพันจ์บ็อบ สแควร์แพนส์" "พอวแพโทรล" (PAW Patrol) และอื่น ๆ อีกมากมาย
ภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์
นอกจากภาพยนตร์เปิดตัวใหม่อย่าง "ท็อปกัน: มาเวอริค" และ "สกรีม 5" (Scream 5) แล้ว พาราเมาท์พลัสยังนำเสนอภาพยนตร์สุดคลาสสิกอย่าง "กรีส" (Grease) "เดอะก็อดฟาเธอร์" "สตาร์เทรค" "ทรานส์ฟอร์เมอร์ส" (Transformers) และอื่น ๆ อีกมากมาย
สตรีมเลย
ผู้ชมในอิตาลีสามารถใช้บริการพาราเมาท์พลัสได้ที่ https://paramountplus.it/ บนอุปกรณ์มือถือและอุปกรณ์เชื่อมต่อโทรทัศน์ผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายบนแอปเปิล (Apple) แอมะซอน (Amazon) กูเกิล (Google) ซัมซุง (Samsung) และช่องทางอื่น ๆ ผู้ใช้สามารถลงทะเบียนได้ในราคา 7.99 ยูโรหลังผ่านพ้นช่วงทดลองใช้งาน 7 วัน หรือสมัครสมาชิกรายปีในราคา 79.90 ยูโร ผู้ใช้จะได้รับสิทธิพิเศษจากโปรโมชันบนเว็บไซต์ paramountplus.it ในช่วงสิบวันแรก (15 - 25 กันยายน) ด้วยค่าบริการเพียง 4.99 ยูโร โดยมีระยะเวลาทดลองใช้งาน 7 วัน
พาราเมาท์พลัสจะเปิดตัวบนแพลตฟอร์มสกาย (Sky) ในอิตาลี โดยเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงการจัดจำหน่ายระยะยาวฉบับใหม่ ด้วยข้อตกลงนี้ ในวันที่ 23 กันยายน สมาชิกสกายที่มีบริการสกาย ซิเนมา (Sky Cinema) จะสามารถเข้าใช้งานพาราเมาท์พลัสได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และจะมีการเปิดตัวแอปพาราเมาท์พลัสบนสกายคิว (Sky Q) และสกายกลาส (Sky Glass) ด้วย
PARA-IR
เกี่ยวกับพาราเมาท์พลัส
พาราเมาท์พลัส (Paramount+) คือบริการสตรีมวิดีโอแบบสมัครสมาชิกดิจิทัลระดับโลกจากพาราเมาท์ นำเสนอสื่อบันเทิงระดับพรีเมียมสำหรับผู้ชมทุกวัย บริการสตรีมมิงระดับสากลนี้รวมไว้ซึ่งซีรีส์ต้นฉบับ รายการยอดฮิต และภาพยนตร์ยอดนิยมทุกประเภทจากแบรนด์และสตูดิโอที่มีชื่อเสียงระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น โชว์ไทม์ (SHOWTIME(R)), บีอีที (BET), ซีบีเอส (CBS), คอเมดี เซ็นทรัล (Comedy Central), เอ็มทีวี (MTV), นิคคาโลเดียน (Nickelodeon), พาราเมาท์ พิคเจอร์ส (Paramount Pictures) และสมิธโซเนียน แชนแนล (Smithsonian Channel(TM)) นอกเหนือจากคอนเทนต์ท้องถิ่นระดับพรีเมียม ปัจจุบันให้บริการในสหรัฐอเมริกา แคนาดา ลาตินอเมริกา แคริบเบียน ออสเตรเลีย อิตาลี และเกาหลีใต้
เรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพาราเมาท์พลัสได้ที่ www.paramountplus.com
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1691384/ParamountPlus_Logo.jpg