พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เปิดเผยแผนงานในการสร้างจีนสังคมนิยมสมัยใหม่ในทุกด้านในช่วง 5 ปีข้างหน้าและในอนาคต ระหว่างเปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20
การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจัดขึ้นทุกห้าปี และครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากวาระครบรอบ 100 ปีการสถาปนาพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 2564 ซึ่งในวาระดังกล่าว พรรคได้นำพาชาวจีนบรรลุผลสำเร็จในการสร้างสังคมที่เจริญระดับปานกลางทุกด้าน
"นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ภารกิจหลักของพรรคคอมมิวนิสต์จีนคือการนำพาชาวจีนทุกกลุ่มชาติพันธุ์ไปสู่การบรรลุเป้าหมายแห่งศตวรรษข้อที่สอง ในการสร้างจีนให้เป็นประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่ยิ่งใหญ่ในทุกด้าน และยกระดับการฟื้นฟูประเทศจีนในทุกด้านผ่านเส้นทางสู่ความทันสมัยของจีน" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ระบุในรายงานระหว่างเปิดการประชุม
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า สาระสำคัญของการประชุมสมัชชาใหญ่คือ การเชิดชูสังคมนิยมเอกลักษณ์จีน การนำแนวคิดสังคมนิยมเอกลักษณ์จีนในยุคใหม่ไปปฏิบัติอย่างเต็มที่ การสานต่อจิตวิญญาณแห่งการก่อตั้งพรรคที่ยิ่งใหญ่ การสร้างความเชื่อมั่นและความเข้มแข็ง การยึดมั่นในหลักการพื้นฐานและการบุกเบิกสิ่งใหม่ การก้าวไปข้างหน้าด้วยความกล้าได้กล้าเสียและความอดทน ตลอดจนร่วมมือกันสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ในทุกด้านและยกระดับการฟื้นฟูชาติจีนครั้งใหญ่ในทุกด้าน
บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจีนกล่าวว่า ทฤษฎีที่สร้างสรรค์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่แสดงให้เห็นในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 มีความสำคัญระดับโลก เนื่องจากเป็นทางเลือกและตัวอย่างให้แก่ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่กำลังต้องการพัฒนาประเทศให้ทันสมัย และในการเดินทางครั้งใหม่นี้ จีนจะเชิดชูสังคมนิยมเอกลักษณ์จีนอย่างแน่วแน่และมั่นคงต่อไป
ความทันสมัยของจีน
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้อธิบายภารกิจและพันธกิจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนสำหรับการเดินทางครั้งใหม่ในยุคใหม่
พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะพัฒนาประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ในขั้นพื้นฐานระหว่างปี 2563 จนถึงปี 2578 และตั้งแต่ปี 2578 จนถึงปี 2593 จีนจะกลายเป็นประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่ยิ่งใหญ่ มั่งคั่ง เข้มแข็ง เป็นประชาธิปไตย ก้าวหน้าทางวัฒนธรรม เป็นหนึ่งเดียวกัน และสวยงาม
ศาสตราจารย์เซินอี้ (Shen Yi) จากภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและกิจการสาธารณะของมหาวิทยาลัยฟูตัน (Fudan University) กล่าวว่า "แนวคิดความทันสมัยของจีนถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นครั้งแรกในฐานะข้อสรุปที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของพรรคคอมมิวนิสต์จีน"
คุณเซินกล่าวว่า เนื่องจากไม่มีเส้นทางหรือรูปแบบการพัฒนาสำเร็จรูปที่จีนสามารถคัดลอกหรือเลียนแบบได้โดยตรง ในที่สุดจีนก็ได้สรุปเส้นทางสู่ความทันสมัยของตนเอง หลังจากการสำรวจและการก่อร่างสร้างตัวมานานกว่าร้อยปีนับตั้งแต่การปฏิวัติในปี 2454 โดยถือเป็นทางเลือกใหม่และทางเลือกที่สามสำหรับประเทศกำลังพัฒนาทุกประเทศทั่วโลกที่กำลังค้นหาหรือดิ้นรนกับรูปแบบการพัฒนาของตนเอง เพื่อบรรลุเป้าหมายในการพัฒนาตนเองอย่างรวดเร็ว ตลอดจนสามารถรักษาอำนาจอธิปไตย ความเป็นอิสระ และบูรณภาพแห่งดินแดน
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นย้ำถึงเอกลักษณ์เฉพาะของความทันสมัยแบบจีน นั่นคือสังคมนิยมสมัยใหม่ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งมีองค์ประกอบเหมือนกับกระบวนการพัฒนาของทุกประเทศ แต่มีลักษณะเฉพาะมากกว่าด้วยเอกลักษณ์เฉพาะในบริบทของจีน
ผู้นำจีนกล่าวเสริมว่า ความทันสมัยแบบจีนคือความทันสมัยของประชากรจำนวนมาก ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันสำหรับทุกคน ความก้าวหน้าทางวัตถุและวัฒนธรรม-จริยธรรม ความกลมกลืนระหว่างมนุษยชาติกับธรรมชาติ และการพัฒนาอย่างสันติ
บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่า เส้นทางสู่ความทันสมัยของจีนเกี่ยวข้องกับความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันสำหรับทุกคน และจะบรรลุผลสำเร็จได้ด้วยการพัฒนาอย่างสันติ ซึ่งแตกต่างจากความทันสมัยของโลกตะวันตกอย่างสิ้นเชิง
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ความทันสมัยของจีนจะประสบความสำเร็จพร้อมกับความทันสมัยของประเทศอื่น ๆ และจะสร้างโอกาสให้ประเทศอื่น ๆ มีการพัฒนาและก้าวสู่ความทันสมัย โดยไม่มีการว่ากล่าวหรือบังคับให้ผู้อื่นยอมรับอุดมการณ์ของตน และไม่ใช้ระบบพันธมิตรเพื่อให้ประเทศอื่นยอมจำนนหรืออยู่ภายใต้อำนาจ
นักข่าวต่างชาติหลายคนก็มีความรู้สึกแบบเดียวกัน พวกเขาเชิดชูความสำเร็จของจีนตลอดศตวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 5-10 ปีหลัง พวกเขาต้องการสำรวจว่าจีนบรรลุภารกิจอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ได้อย่างไร และประสบการณ์เหล่านี้จะช่วยประเทศของตนได้อย่างไร
คุณอับดูรัคมันโนวา อัลบินา (Abdurakhmannova Albina) นักข่าวจากซีบีซี ทีวี (CBC TV) ประเทศอาเซอร์ไบจาน เปิดเผยกับโกลบอล ไทมส์ (Global Times) ว่า การประชุมสมัชชาใหญ่ไม่ได้มีความสำคัญสำหรับจีนเท่านั้น "แต่ยังสำคัญสำหรับอีกหลายประเทศทั่วโลก" และส่วนที่น่าประทับใจที่สุดสำหรับเธอคือ เธอได้เรียนรู้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนทำอะไรมากมายให้กับประเทศชาติและประชาชนในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา และเธอเห็นว่าการรายงานเรื่องนี้ให้ประชาชนในประเทศของเธอได้รับรู้ถือเป็นสิ่งสำคัญ
คุณเดวิด โลเปซ (David Lopez) นักข่าวจาก เอล ติเอมโป (El Tiempo) สื่อจากโคลอมเบีย เปิดเผยกับโกลบอล ไทมส์ ว่า การประชุมสมัชชาใหญ่เป็นเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักข่าวอย่างเขาที่ต้องมาที่นี่เพื่อเป็นสักขีพยานในเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิด เพราะ "เราต้องให้คนทั่วโลกเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่" และ "เราสนใจในการพัฒนา เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และอื่น ๆ ของจีน"
ภารกิจและความท้าทายในอนาคต
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า ระยะเวลาห้าปีข้างหน้าจะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความมั่นใจว่า ความพยายามในการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ในทุกด้านจะเริ่มต้นได้ดี
"การสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ในทุกด้านเป็นความพยายามที่ยิ่งใหญ่และยากลำบาก อนาคตของเราสดใส แต่เรายังมีหนทางอีกยาวไกลที่ต้องก้าวเดิน เราจึงต้องคำนึงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เตรียมรับมือกับกรณีที่เลวร้ายที่สุด และเตรียมพร้อมรับมือกับลมแรง น้ำเชี่ยวกราก และแม้กระทั่งพายุอันตราย" ผู้นำจีนกล่าว
ศาสตราจารย์จาง ซีเซียน (Zhang Xixian) จากวิทยาลัยแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Party School of the CPC Central Committee) ในกรุงปักกิ่ง กล่าวกับโกลบอล ไทมส์ เมื่อวันอาทิตย์ว่า "ความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิด "พายุอันตราย" มาจากความเสี่ยงของสงครามท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบศตวรรษ รวมถึงวิกฤตเศรษฐกิจและสังคมโลกที่อาจเกิดขึ้น เช่น อุปสรรคในการรวมชาติ โดยการแทรกแซงจากต่างชาติเพื่อสนับสนุนการแยกตัวของไต้หวันอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้"
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเหตุผลหลักที่จีนจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับกรณีที่เลวร้ายที่สุด และแม้แต่ "พายุอันตราย" ก็คือ ความทันสมัยของจีนจะนำความท้าทายมาสู่ประเทศมหาอำนาจที่กำลังครอบงำระเบียบโลกในปัจจุบัน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตราบใดที่จีนยังคงพัฒนาตนเอง พยายามปรับปรุงเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนจีน และพยายามนำเสนอสินค้าสาธารณะอย่างเช่นโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ให้แก่ประเทศอื่น ๆ ที่ต้องการสร้างความร่วมมือแบบได้ประโยชน์ทุกฝ่าย ปรับปรุงประเทศให้ทันสมัย และพัฒนาอย่างสันติ ประเทศที่ครองอำนาจอยู่ในตอนนี้ก็จะเข้ามากดดัน ห้ามปราม และอาจถึงขั้นโจมตี
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เน้นย้ำถึงการปรับปรุงระบบและขีดความสามารถด้านการรักษาความมั่นคงของชาติให้ทันสมัย ตลอดจนปกป้องความมั่นคงของชาติและเสถียรภาพทางสังคม
"ความมั่นคงของชาติเป็นรากฐานของการฟื้นฟูชาติ และเสถียรภาพทางสังคมเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นของการสร้างจีนที่เข้มแข็งและเจริญรุ่งเรือง" ผู้นำจีนกล่าว "พรรคจะดำเนินการตามขั้นตอนที่สอดประสานกันเพื่อรับประกันความมั่นคงภายในและภายนอก ความมั่นคงของมาตุภูมิและความมั่นคงสาธารณะ ความมั่นคงแบบดั้งเดิมและที่ไม่ใช่แบบดั้งเดิม ตลอดจนความมั่นคงของตนเองและความมั่นคงร่วมกัน"