"สองสถาปนา (Two Establishments) คือความสำเร็จทางการเมืองครั้งสำคัญของพรรค" เจ้าหน้าที่ท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะบรรยายสรุปเกี่ยวกับการก่อร่างสร้างพรรค นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ซึ่งถือเป็นกิจกรรมทางการเมืองที่สำคัญที่สุดของประเทศซึ่งจัดขึ้นทุก 5 ปี
"สองสถาปนา" หมายถึง การสถาปนา "นายสี จิ้นผิงให้เข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและในพรรคโดยรวม" และการสถาปนา "แนวคิดของนายสี จิ้นผิงว่าด้วยสังคมนิยมเอกลักษณ์จีนในยุคใหม่" (Xi Jinping Thought on Socialism with Chinese Characteristics for a New Era)"
"แนวคิดของนายสี จิ้นผิงว่าด้วยสังคมนิยมเอกลักษณ์จีนในยุคใหม่ เป็นทฤษฎีทางการเมืองล่าสุด ซึ่งถือเป็นคำตอบที่ถูกต้องของพรรคคอมมิวนิสต์จีนต่อประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคสมัยนี้ รวมถึงเป็นแนวปฏิบัติในด้านต่าง ๆ" นายเทียน เพ่ยเหยียน (Tian Peiyan) รองผู้อำนวยการสำนักงานวิจัยนโยบายของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าว
นอกจากนี้ นายเทียนยังกล่าวด้วยว่า ทฤษฎีดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแก่นแท้ของวัฒนธรรมและจิตวิญญาณของจีน ซึ่งขณะนี้มีความก้าวหน้าอย่างมากในการปรับให้ลัทธิมาร์กซ์ (Marxism) ให้มีความทันสมัยและเข้ากับบริบทของจีนในปัจจุบัน
ความท้าทายและแนวทางแก้ไขปัญหาของพรรค
ด้วยจำนวนสมาชิกพรรคกว่า 96 ล้านคนในปี 2564 พรรคคอมมิวนิสต์จีนจึงเป็นพรรครัฐบาลแบบมาร์กซิสต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการองค์กรที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ รวมถึงการปกครองประเทศสังคมนิยมที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีประชากรกว่า 1.4 พันล้านคนนั้นเต็มไปด้วยความท้าทายนานัปการ
นายเทียนระบุว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องเผชิญกับภาระงานมากมาย ตั้งแต่การปกครองภายในพรรค การปฏิรูปและเปิดกว้าง เศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อมภายนอก นอกจากนี้ ทางพรรคยังเผชิญกับปัญหาอันตรายในระยะยาว ตั้งแต่การขาดแรงผลักดัน การขาดความสามารถ การแยกตัวของประชาชน ความเฉื่อยชา และปัญหาการทุจริต
"ไม่มีอะไรจะสามารถโค่นล้มรัฐบาลได้ง่ายเท่ากับการทุจริตอีกแล้ว ดังนั้น การต่อสู้กับการทุจริตคือรูปแบบการปฏิรูปพรรคที่ละเอียดรอบคอบที่สุด" นายเสี่ยว เพ่ย (Xiao Pei) รองหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบวินัยแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรองประธานคณะกรรมการตรวจสอบแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน กล่าว
นับตั้งแต่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 18 คณะกรรมการตรวจสอบวินัยแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ดำเนินการสอบสวนคดี 4.648 ล้านคดี โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับทั่วไป 25,000 คน และเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอกว่า 182,000 คนถูกลงโทษ
นายเสี่ยวระบุว่า การทุจริตเป็นภัยต่อสภาพแวดล้อมทางการเมือง อีกทั้งยังบ่อนทำลายสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคม ฉะนั้น การต่อต้านการทุจริตจึงสามารถช่วยยกระดับสภาพแวดล้อมดังกล่าวได้
ผลการสำรวจล่าสุดโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติชี้ให้เห็นว่า ประชาชน 97.4% มีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะใช้หลักธรรมาภิบาลอย่างเข้มงวดในการปกครองพรรค เพื่อควบคุมการทุจริตที่เพิ่มขึ้น 22.4% เมื่อเทียบกับปี 2555
นอกจากนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังเป็นพรรคการเมืองที่มีระบบการกำกับดูแลภายในพรรคที่ค่อนข้างครอบคลุม โดยมีกฎข้อบังคับภายในพรรคเกือบ 4,000 ข้อที่มีผลบังคับใช้
นายเทียนกล่าวว่า "ด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงปัญหาท้าทายที่พรรคกำลังเผชิญอยู่ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง จึงชี้ให้เห็นในรายงานว่า การปกครองพรรคอย่างเข้มงวดและเต็มที่เป็นความพยายามที่ไม่เคยหยุดยั้ง และการปฏิรูปพรรคก็เป็นการเดินทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด"
การเลื่อน-ลดตำแหน่งที่มีแนวทางชัดเจน
ในแง่ของการกำกับดูแลเจ้าหน้าที่นั้น พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ออกกฎระเบียบฉบับปรับปรุงใหม่เกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งและการลดตำแหน่งเจ้าหน้าที่อย่างเหมาะสมเมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพรรคในการส่งเสริมผู้มีความสามารถที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม รวมถึงมีความทุ่มเทในการบรรลุเป้าหมายแห่งศตวรรษข้อที่สองในการสร้างจีนให้เป็นประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ โดยกฎระเบียบฉบับดั้งเดิมนั้นมีการเผยแพร่เมื่อปี 2558
ขณะเดียวกัน การปกครองพรรคอย่างเข้มงวดและเต็มที่ก็มีการบริหารจัดการเจ้าหน้าที่ด้วยมาตรฐาน มาตรการ และระเบียบวินัยที่เข้มงวด
นายสวี่ ฉีฟาง (Xu Qifang) รองหัวหน้าฝ่ายองค์กรของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวว่า เพื่อใช้แนวทางแบบองค์รวม ทางพรรคได้เดินหน้าปรับปรุงระบบรายงานเรื่องส่วนบุคคลสำหรับเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าอยู่เสมอ โดยจะมีการตรวจสอบความซื่อสัตย์และการปฏิบัติตามวินัยของพรรคด้วยการสุ่มตรวจสอบเจ้าหน้าที่ราว 10% ในแต่ละปี เพิ่มขึ้นจากระดับ 2-5% ก่อนหน้านี้
นายสวี่กล่าวเสริมว่า ผู้ที่จะมารับตำแหน่งสำคัญทุกคนจะต้องผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด และเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางทั้งหมดได้ผ่านการตรวจสอบแล้วก่อนที่การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 จะเปิดฉากขึ้น
ยกตัวอย่างนายเซี่ย ชุนเถา (Xie Chuntao) ผู้แทนคนหนึ่งที่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ซึ่งกล่าวว่า การผ่านการรับรองคุณสมบัติและได้เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่นั้น ถือเป็นเกียรติยศที่ "หาได้ยากยิ่ง"
"เป็นเรื่องยากที่จะได้เห็นพรรคการเมืองใดในโลกที่ทุ่มเทความพยายามในการคัดเลือกสมาชิกที่มีความโดดเด่นอย่างที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนทำ" เขากล่าว
https://news.cgtn.com/news/2022-10-18/CPC-s-full-strict-Party-governance-An-unceasing-endeavor-1ecWD1u1ukU/index.html