นายสี จิ้นผิง ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการใหญ่แห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ชุดที่ 20 ในการประชุมเต็มคณะครั้งแรกของคณะกรรมการพรรค ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2565 ตามแถลงการณ์ของที่ประชุมใหญ่
การประชุมซึ่งมีนายสีเป็นประธานในการประชุม มีสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 จำนวน 203 คน และสมาชิกสมทบ 168 คนเข้าร่วม โดยนอกจากนี้ นายสียังได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในการประชุมครั้งนี้ด้วย
ด้านสมาชิกของคณะกรรมการถาวรประจำสำนักการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ได้รับเลือกในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ นายสี จิ้นผิง นายหลี่ เฉียง (Li Qiang) นายจ้าว เล่อจี่ (Zhao Leji) นายหวาง หูหนิง (Wang Huning) นายไฉ ฉี (Cai Qi) นายติง เสวี่ยเซียง (Ding Xuexiang) และนายหลี่ ซี (Li Xi)
นายจ้าว เล่อจี่ และนายหวาง หูหนิง เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกคณะกรรมการถาวรประจำสำนักการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 19 ขณะที่นายหลี่ เฉียง นายไฉ ฉี และนายหลี่ ซี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเทศบาลนครเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง และคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำมณฑลกวางตุ้งตั้งแต่ปี 2560 ด้านนายติง เสวี่ยเซียง ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานทั่วไปแห่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนตั้งแต่ปี 2560
ด้านนักวิเคราะห์มองว่า ศูนย์กลางผู้นำใหม่ของพรรคที่แข็งแกร่ง แสดงให้เห็นถึงความสามัคคีอันแรงกล้า ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญและองค์ประกอบที่จำเป็นสำหรับพรรคในการจัดการกับความท้าทายที่ซับซ้อน และบรรลุภารกิจที่ยิ่งใหญ่ใหม่ ๆ ในอนาคต รวมถึงต้านทาน "พายุที่อันตราย" ในโลกที่วุ่นวายด้วยกัน
นอกจากนี้ การเลือกตั้งเต็มคณะครั้งแรกของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ยังประกอบด้วยการเลือกสมาชิกประจำสำนักการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งรับรองสมาชิกของสำนักเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ได้รับการเสนอชื่อโดยคณะกรรมการถาวรประจำสำนักการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน
ภายในการประชุมดังกล่าวยังได้แต่งตั้งสมาชิกประจำคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง โดยมีนายจาง โหย่วเซี่ย (Zhang Youxia) และนายเหอ เว่ยตง (He Weidong) เป็นรองประธาน พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังได้รับรองรายชื่อเลขาธิการ รองเลขาธิการ และสมาชิกประจำคณะกรรมการถาวรของคณะกรรมการกลางเพื่อการตรวจสอบวินัย (CCDI) ที่ได้รับการแต่งตั้งในระหว่างการประชุมเต็มคณะครั้งแรกของคณะฯ ครั้งที่ 20
ข้อสังเกตด้านความมั่นใจ
หลังการประชุมใหญ่สิ้นสุดลง นายสี จิ้นผิง ได้นำคณะผู้นำส่วนกลางชุดใหม่ของพรรคพบปะนักข่าวชาวจีนและชาวต่างประเทศในวันอาทิตย์ ณ มหาศาลาประชาชนในกรุงปักกิ่ง และขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมร่วมกับสื่อมวลชน
นายสีกล่าวว่า จีนจะเปิดประตูสู่โลกให้กว้างขึ้น "เราจะยืนหยัดในการปฏิรูปอย่างจริงจังและเปิดกว้างอย่างทั่วถึง เราจะเดินหน้าสู่การพัฒนาคุณภาพสูง" พร้อมย้ำว่า จีนที่เจริญรุ่งเรืองจะสร้างโอกาสอีกมากมายให้แก่โลก
เช่นเดียวกับการที่จีนไม่สามารถพัฒนาอย่างโดดเดี่ยวในโลกได้ โลกก็ต้องการจีนเพื่อการพัฒนาของตน นายสีกล่าว ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปีของการปฏิรูปและการเปิดประเทศอย่างต่อเนื่อง จีนได้สร้างปาฏิหาริย์สองประการด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็ว และความมั่นคงทางสังคมในระยะยาว
ด้านนักวิเคราะห์ชาวจีนมองว่า ถ้อยแถลงของนายสีได้แสดงให้เห็นว่า ทั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประชาชนจีนต่างมีความมุ่งมั่นในการปฏิรูปและการเปิดประเทศอย่างไม่ลดละ และพรรคจะยังคงยึดมั่นในนโยบายและยุทธศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นข้อความแห่งความมั่นใจและความมุ่งมั่นไม่เพียงแต่ในด้านการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งข้อความถึงโลกที่กำลังปั่นป่วนและกำลังฟื้นตัว
เศรษฐกิจจีนมีความยืดหยุ่นและมีศักยภาพสูง โดยนายสีกล่าวว่า "ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งจะไม่เปลี่ยนแปลง และจะยังคงอยู่ในวิถีเชิงบวกในระยะยาว"
ค่านิยมร่วมกันของมนุษยชาติ
นายสี จิ้นผิง ยังแสดงความมุ่งมั่นของจีนในการส่งเสริมการสร้างชุมชนมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกัน
"เราจะทำงานร่วมกับประชาชนจากประเทศอื่น ๆ ทั้งหมด เพื่อสนับสนุนค่านิยมร่วมกันของมนุษยชาติในด้านสันติภาพ การพัฒนา ความเป็นธรรม ความยุติธรรม ประชาธิปไตย และเสรีภาพในการปกป้องสันติภาพของโลก รวมถึงส่งเสริมการพัฒนาระดับโลก และส่งเสริมการสร้างชุมชนมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกัน" นายสี จิ้นผิง แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่มหาศาลาประชาชน
นายซู เสี่ยวฮุ่ย (Su Xiaohui) รองผู้อำนวยการภาควิชาระหว่างประเทศและการศึกษาเชิงกลยุทธ์ของสถาบันการศึกษานานาชาติแห่งประเทศจีน ให้สัมภาษณ์กับโกลบอล ไทม์ส ว่า ถ้อยแถลงของนายสี จิ้นผิง ยังเน้นย้ำถึงแนวคิดหลักด้านการทูตของจีนนับตั้งแต่ในการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 18 โดยเน้นย้ำถึงความมั่นคงและความต่อเนื่องของนโยบายทางการทูตที่สำคัญ ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนกับบางประเทศที่มุ่งรักษาความปลอดภัยและผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก ก่อให้เกิดกลุ่มผลประโยชน์ร่วมขนาดเล็ก
"สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า การเจรจาต่อรองของเราไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความเห็นแก่ตัวและเกมที่ต้องมีแพ้-ชนะ แนวคิดในการส่งเสริมชุมชนมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกันนั้นดีกว่า และจะได้รับการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศที่กำลังพัฒนา" นายซู กล่าว
ในช่วงเวลาที่สำคัญยิ่งสำหรับโลกในการเรียนรู้ก้าวต่อไปของผู้นำหลักของจีน ผู้เชี่ยวชาญต่างตั้งข้อสังเกตว่า แนวคิดหลักทางการทูตของจีนนั้นรวมอยู่ในคำปราศรัยครั้งแรกของนายสี จิ้นผิง นับตั้งแต่ที่เขาได้รับเลือกขึ้นเป็นเลขาธิการคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนชุดที่ 20 ซึ่งบ่งชี้ว่า จีนจะสนับสนุนค่านิยมร่วมกันของมนุษยชาติ โดยเน้นความเป็นธรรมและความยุติธรรมเป็นหลัก
เพื่อพรรคที่อยู่ตลอดรอดฝั่ง
"พรรคการเมืองอยู่ตลอดรอดฝั่งได้ก็ต่อเมื่อมีความมุ่งมั่นที่จะปฏิรูปตนเอง แม้จะมีอดีตอันรุ่งโรจน์ก็ตาม" นายสี จิ้นผิง กล่าวต่อสื่อมวลชน
นายสี จิ้นผิง มองว่าความพยายามที่จะปฏิวัติและปรับเปลี่ยนในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทศวรรษแรกของยุคใหม่ ทำให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีความแข็งแกร่งขึ้นและมีพลวัตมากขึ้น
นายจาง ซูหัว (Zhang Shuhua) ผู้อำนวยการสถาบันรัฐศาสตร์ประจำสถาบันสังคมศาสตร์จีน กล่าวกับโกลบอล ไทม์ส ว่า "เมื่อเผชิญกับสภาพแวดล้อมระหว่างประเทศที่ซับซ้อนมากขึ้น พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง โดยแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดระเบียบ ความสามัคคี และการจัดการ"
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า อำนาจทางการเมือง ความสม่ำเสมอ และความมั่นใจในการดำรงตำแหน่งผู้นำ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้มีอำนาจในการป้องกันความเสี่ยงและจัดการกับวิกฤตในโลกที่วุ่นวาย และพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้มอบข้อได้เปรียบที่สำคัญนี้แก่จีนในการเอาชนะความท้าทายในอนาคต ก้าวนำในการแข่งขันและการเผชิญหน้าที่ยากลำบากที่จุดชนวนโดยประเทศเพียงไม่กี่แห่ง