เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โกชัน ไฮเทค (Gotion High-Tech) และวินกรุ๊ป (VinGroup) ของเวียดนาม ได้เปิดตัวโครงการโรงงานแบตเตอรี่ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างทั้งสองฝ่ายที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจห่าติ๋ญ (Vietnam Ha Tinh Economic Development Zone) โครงการดังกล่าวคาดว่าจะมีกำลังการผลิตทั้งปีรวม 5GWh คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในปลายปี 2566 ขึ้นแท่นโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) แห่งแรกในเวียดนาม
โรงงานแห่งนี้เป็นการร่วมทุนระหว่างโกชัน ไฮเทค กับวินอีเอส (VinES) ซึ่งอยู่ในเครือวินกรุ๊ป โดยโกชัน ไฮเทค ถือหุ้น 51% ส่วนวินอีเอสถืออีก 49% ที่เหลือ ตามแผนแล้ว โครงการนี้มีขนาด 14 เฮกตาร์ ด้วยกำลังการผลิตปีละ 5GWh คาดว่าจะแล้วเสร็จและดำเนินการได้ภายในปลายปี 2566 เพื่อตอบรับกับความต้องการแบตเตอรี่ชนิด LFP ในการใช้เป็นแบตเตอรี่ยานยนต์พลังงานใหม่ของวินฟาสต์ (VinFast)
ที่พิธิวางศิลาฤกษ์โรงงานแห่งนี้ คุณหลี่ เจิ้น (Li Zhen) ประธานโกชัน ไฮเทค กล่าวว่า วินกรุ๊ปเป็นองค์กรที่เป็นที่เคารพที่สุดในเวียดนาม โรงงานแบตเตอรี่ที่โกชัน ไฮเทค และวินกรุ๊ป ร่วมทุนสร้างนี้จะเข้ามาสนับสนุนความต้องการแบตเตอรี่เพื่อใช้กับรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์วินฟาสต์ ซึ่งนอกจากจะสนับสนุนวิวัฒนาการด้านพลังงาน ความเป็นมิตรต่อสภาพอากาศ และความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของเวียดนามแล้ว ยังช่วยผลักดันอารยธรรมด้านพลังงานของสังคมมนุษย์ด้วย
นับตั้งแต่ต้นปีนี้ โกชัน ไฮเทค ได้เดินหน้ากลยุทธ์บุกตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทได้บรรลุความร่วมมือทางกลยุทธ์กับบริษัท JEMSE ของอาร์เจนตินา เพื่อร่วมทุนสร้างสายการผลิตลิเทียมคาร์บอเนตเกรดแบตเตอรี่ในจังหวัดคูคุยของอาร์เจนตินา ขณะเดียวกัน โกชันก็ได้เปิดสาขาที่เยอรมนี ซึ่งเป็นการเปิดฉากการผลิตแบตเตอรี่ของโกชันที่ "ผลิตในยุโรป" ต่อมาในเดือนกรกฎาคม บริษัทฯ ได้เปิดขายตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ (General Depositary Receipt หรือ GDR) ที่ตลาดซิกซ์ สวิส (SIX Swiss) และในเดือนกันยายน บริษัทได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือทางกลยุทธ์กับซูเมค (Sumec) เพื่อส่งเสริมธุรกิจส่งออกผลิตภัณฑ์จัดเก็บพลังงาน ซึ่งตามแผนการของบริษัทนั้น ภายในปี 2568 บริษัทฯ น่าจะมีกำลังการผลิตทั่วโลกแตะ 300GWh ซึ่งในจำนวนนี้มาจากต่างประเทศ 100GWh เพื่อช่วยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน