ในวันแรกของการประชุมฟิวเจอร์ มิเนอรัลส์ ฟอรัม (Future Minerals Forum หรือ FMF) ครั้งที่สอง ซึ่งจัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากรแร่ของซาอุดีอาระเบีย ภายใต้พระบรมราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด "ผู้พิทักษ์สองมหามัสยิดอันศักดิ์สิทธิ์" (Custodian of the Two Holy Mosques) ได้มีพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ ข้อตกลงร่วมค้า และบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) รวม 25 ฉบับ ระหว่างหน่วยงานรัฐ บริษัทเอกชน และสถาบันต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการประชุม
บุคคลสำคัญที่เข้าร่วมพิธีลงนามประกอบด้วย เจ้าชายอับดุลอะซีซ บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อาล ซะอูด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, คาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการลงทุน, บันดาร์ อิบราฮิม อัล-คอราเยฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากรแร่ และคาลิด อัล-มูไดเฟอร์ รัฐมนตรีช่วยด้านกิจการเหมืองแร่
ข้อตกลงและบันทึกความเข้าใจดังกล่าวครอบคลุมในส่วนของการสำรวจแร่ เทคโนโลยีและการสื่อสาร การใช้มาตรฐานความยั่งยืน ท้องถิ่นภิวัตน์ (Localization) และการฟื้นฟู รวมถึงการขยายตัวไปสู่อุตสาหกรรม (Industrialization) ของภาคเหมืองแร่ นอกจากนี้ ในพิธีลงนามยังมีการมอบใบอนุญาตสำรวจแหล่งแร่ Khnaiguiyahand Umm Ad Damar รวมสองฉบับให้กับบริษัทที่ได้รับอนุญาต
หน่วยงานสำคัญในท้องถิ่นที่เข้าร่วมพิธีลงนามประกอบด้วย กระทรวงพลังงาน, กระทรวงอุตสาหกรรมและทรัพยากรแร่, สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งซาอุดีอาระเบีย (Saudi Geological Survey), มาอาเดน (Ma'aden), ซาไลน์ วอเตอร์ คอนเวอร์ชัน คอร์ปอเรชัน (Saline Water Conversion Corporation), องค์กรวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคิงอับดุลอะซีซ (King Abdulaziz City for Science and Technology), มหาวิทยาลัยคิงซะอูด (King Saud University), ราชกรรมาธิการแห่งเมืองจูเบลและยันบู (Royal Commission of Jubail and Yanbu), ซาอุดี อารามโค (Saudi Aramco), มหาวิทยาลัยปิโตรเลียมและแร่คิงฟะฮัด (King Fahd University of Petroleum and Minerals), สภาหอการค้าแห่งซาอุดีอาระเบีย (Federation of Saudi Chambers) และศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย (Saudi National Industrial Development Center)
บริษัทชั้นนำที่ร่วมทำข้อตกลงประกอบด้วย เรด ซี อะลูมินัม คอมพานี (Red Sea Aluminum Company), ซาอุดี ฟอสฟอรัส อินดัสทรี คอมพานี (Saudi Phosphorus Industry Company), อัล-ราชีด กรุ๊ป (Al-Rasheed Group), แบร์ริก โกลด์ คอร์ปอเรชัน (Barrick Gold Corporation), ไอแวนโฮ อิเลคทริค (Ivanhoe Electric), ยูเรเชียน รีซอร์สเซส กรุ๊ป (Eurasian Resources Group), ม็อกซิโก รีซอร์สเซส (Moxico Resources), อัจลาน แอนด์ บราเธอร์ส ไมนิง คอมพานี (Ajlan & Brothers Mining Company), อีวี เมทัลส์ (EV Metals), หางโจว จินจาง ฟลูออร์ คอร์ปอเรชัน (Hangzhou Jinjang Fluor Corporation), เป่าสตีล (BAO Steel), ฮอลล์คอร์ ดริลลิง คอร์ปอเรชัน (Hallcore Drilling Corporation), เชลล์ คอร์ปอเรชัน (Shell Corporation), ร็อกเบิร์สต์ เทคโนโลยีส์ คอร์ปอเรชัน (Rockburst Technologies Corporation), เมทโซ เอาโต้เทค (Metso Outotec), ธิสเซ่นครุปป์ มิตซู คอร์ปอเรชัน (Thyssenkrupp Mitsu Corporation) และโนเกีย (Nokia)
ตลอดสองวันของการประชุมได้มีการหารือในประเด็นเร่งด่วนต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เช่น พัฒนาการด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหมืองในภูมิภาค แนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมในแง่ของการแข่งขันและโอกาสที่เท่าเทียมกันทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่าเพื่อความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และความเป็นผู้นำของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในการจัดหาพลังงานหมุนเวียนในอีกสิบปีข้างหน้า นอกจากนี้ การประชุมฟิวเจอร์ มิเนอรัลส์ ฟอรัม ยังคงให้ความสำคัญกับการอุดช่องว่างระหว่างอุปสงค์และอุปทาน
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1982717/Future_Minerals_Forum.jpg