- เนื่องในวันเสือดาวอาระเบียประจำปี 2566 ได้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์ระดับนานาชาติในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์เสือดาวที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
- มีการฉายภาพตามป้ายโฆษณาในลอนดอนและนิวยอร์กตลอดทั้งคืน เพื่อสร้างความตระหนักรู้เนื่องในวันเสือดาวอาระเบียประจำปี 2566
- องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติจัดให้เสือดาวอาระเบียอยู่ในกลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง โดยมีจำนวนไม่ถึง 200 ตัวในธรรมชาติ
- จุดประกายความหวังหลังมีการให้กำเนิดลูกเสือดาว 4 ตัวในศูนย์เพาะพันธุ์ในช่วง 22 เดือนที่ผ่านมา
การเฉลิมฉลองวันเสือดาวอาระเบีย (Arabian Leopard Day) ครั้งที่ 2 ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ได้รับการสนับสนุนในระดับนานาชาติ โดยมีการจัดกิจกรรมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของเสือดาวอาระเบียทั้งในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และซาอุดีอาระเบีย
นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะมีการฉายภาพตามป้ายโฆษณาในกรุงลอนดอน ทั้งบนถนนพิคคาดิลลี (Piccadilly), ไฮสตรีท เคนซิงตัน (High Street Kensington) ,ท่าเทียบเรือคานารี (Canary Wharf), เวสต์ฟิลด์ ลอนดอน (Westfield London), เวสต์ฟิลด์ สแตรทฟอร์ด ซิตี (Westfield Stratford City), สกายไลน์ (Skyline) - เวสต์ฟิลด์ สแตรทฟอร์ด ซิตี และเดอะ ทู ทาวเวอร์ส (The Two Towers) ขณะที่ชาวนิวยอร์กจะให้เห็นภาพจากป้ายโฆษณาที่แนสแด็ก (NASDAQ) เนื่องในวันเสือดาวอาระเบีย
แคมเปญรณรงค์ครั้งนี้นำโดยราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) ซึ่งกำลังทำภารกิจฟื้นฟูพื้นที่อันกว้างใหญ่ไพศาลทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย เพื่อให้เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำระดับโลกด้านมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ
ราชกรรมาธิการอัลอูลาและเหล่าพันธมิตรด้านการอนุรักษ์เชื่อว่าการเพิ่มความตระหนักรู้ระดับโลกเนื่องในวันเสือดาวอาระเบีย ซึ่งตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ จะเป็นแรงสนับสนุนให้เกิดการลงมือปฏิบัติเพื่ออนุรักษ์เสือดาวที่ใกล้สูญพันธุ์ชนิดนี้
องค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัดให้เสือดาวอาระเบียอยู่ในกลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง (Critically Endangered) ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ยิ่งกว่าระดับมีแนวโน้มใกล้สูญพันธ์ (Vulnerable) หรือระดับใกล้สูญพันธุ์ (Endangered) หากจำนวนประชากรยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง เสือดาวอาระเบียจะเข้าสู่ระดับสูญพันธุ์จากธรรมชาติ (Extinct in the Wild) และสูญพันธุ์โดยสมบูรณ์ (Extinct) ในท้ายที่สุด
ดร. สตีเฟน บราวน์ (Stephen Browne) กรรมการบริหารด้านสัตว์ป่าและมรดกทางธรรมชาติของราชกรรมาธิการอัลอูลา กล่าวว่า "เสือดาวอาระเบียเป็นสัญลักษณ์อันแข็งแกร่งที่สะท้อนถึงเป้าหมายของเราในการอนุรักษ์และปกป้องสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติของอัลอูลา แต่ความจริงช่างน่าเศร้า เสือดาวอาระเบียเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งและถูกคุกคามที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ เราจึงต้องเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการเพิ่มความพยายามด้านการอนุรักษ์ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดในระยะยาวของเสือดาวสายพันธุ์นี้ และนี่คือความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งของเราในการกำหนดวันเสือดาวอาระเบียและจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักรู้และช่วยปกป้องเสือดาวขนาดใหญ่ที่สวยงามเหล่านี้"
เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการนำเสือดาวอาระเบียกลับคืนสู่ธรรมชาติในท้ายที่สุด ราชกรรมาธิการอัลอูลาได้ปล่อยสัตว์สายพันธุ์พื้นเมืองที่เป็นเหยื่อตามธรรมชาติเข้าสู่เขตอนุรักษ์ธรรมชาติอันกว้างใหญ่ รวมถึงเพิ่มความพยายามในการติดตามและปกป้องเสือดาวป่า และพลิกฟื้นพื้นที่ธรรมชาติขึ้นใหม่ ซึ่งดำเนินการโดยทีมงานของราชกรรมาธิการอัลอูลาและผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี โดยมีเป้าหมายเพื่อฟื้นฟูสมดุลที่หายไปจากระบบนิเวศอันเปราะบางของอัลอูลา การกลับมาของเสือดาวอาระเบียจะเป็นองค์ประกอบสุดท้ายของระบบนิเวศทางธรรมชาติที่ละเอียดอ่อนและซับซ้อนนี้
นอกจากนั้นยังมีความสำเร็จอื่น ๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยโครงการขยายพันธุ์เสือดาวอาระเบียของราชกรรมาธิการอัลอูลาได้ต้อนรับการกำเนิดของลูกเสือดาวสุขภาพดี 4 ตัวนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญที่จะช่วยผลักดันเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนประชากรเสือดาวในศูนย์เพาะพันธุ์ โดยมีการตั้งชื่อลูกเสือดาวที่เกิดในปี 2565 ว่า อามาล (Amal) หรือ "ความหวัง" ในภาษาอาหรับ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของประกายแสงแห่งความหวังในการปกป้องอนาคตของเสือดาวสายพันธุ์นี้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวันเสือดาวอาระเบียได้ที่ https://www.rcu.gov.sa/en/ArabianLeopard
หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ
ชื่อเมืองอัลอูลาในภาษาอังกฤษสะกดว่า AlUla เสมอ ไม่ใช่ Al-Ula
เกี่ยวกับราชกรรมาธิการอัลอูลา
ราชกรรมาธิการอัลอูลา (Royal Commission for AlUla หรือ RCU) ก่อตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกาในเดือนกรกฎาคมปี 2560 เพื่ออนุรักษ์และพัฒนาเมืองอัลอูลาในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีความสำคัญในเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ แผนการระยะยาวของราชกรรมาธิการอัลอูลาคือการพัฒนาเศรษฐกิจและเมืองด้วยความระมัดระวัง รับผิดชอบ และยั่งยืน พร้อมกับอนุรักษ์มรดกทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติในพื้นที่ ตลอดจนส่งเสริมให้เมืองอัลอูลาเป็นจุดหมายปลายทางการอยู่อาศัย ทำงาน และท่องเที่ยว เป้าหมายเหล่านี้ก่อให้เกิดโครงการมากมายทั้งในด้านโบราณคดี การท่องเที่ยว วัฒนธรรม การศึกษา และศิลปะ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการตอบสนองต่อความหลากหลายทางเศรษฐกิจ การสร้างพลังให้กับชุมชน และการอนุรักษ์มรดกตกทอดตามวิสัยทัศน์ปี 2573 หรือ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบีย
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1997530/Arabian_Leopards_1.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1997531/Arabian_Leopards_2.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1997534/Arabian_Leopards_3.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1997535/Arabian_Leopards_4.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1997539/Arabian_Leopards_5.jpg
วิดีโอ - https://mma.prnewswire.com/media/1997510/Arabian_Leopard_Day_Video_EN.mp4